PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง ทส.ยังรับมือด้วยมาตรการที่ได้ผลเหมือนเช่นปีที่แล้ว
หลังจากที่ชาว กทม. เผชิญกับปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล สองถึงสามวันที่ผ่านมานี้ทำให้เฮได้อีกครั้ง เนื่องจากสัมผัสได้ถึงกับความหนาวผ่านสายลมที่โชยมาในอากาศ หรือนี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวหรือไม่ ?
cr: FB Environmen
ในขณะเดียวกันอากาศที่เย็นขึ้น กลับมาพร้อมฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน โดยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวว่า “จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าในช่วงวันที่ 18-23 ตุลาคม 2565 จะมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน
แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยบริเวณตอนบนและทะเลจีนใต้ จึงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น ทั้งนี้สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพของอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักงานสิ่งแวดล้อม กทม. ได้แจ้งผลว่า “การตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ณ วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่าเกินค่ามาตรฐานจำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ เขตหนองแขม ซึ่งตรวจวัดได้ในช่วง 29 - 55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คิดเป็นร้อยละ 1.43 จากจำนวนเขตที่มีสถานีตรวจวัดทั้งหมด ถือว่า
คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง และระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในบางพื้นที่ ส่วนค่า PM 2.5 มีแนวโน้มลดลง”
การเกิดฝุ่นเหล่านี้ประกอบด้วยหลายปัจจัยอาทิเช่น ยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง ภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเข้ามาควบคุมกำกับดูแล โดยเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ หนึ่งในนั้นคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีนโยบายและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น
- โครงการชิงเก็บ ลดเผา ที่สนับสนุนให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการนำวัสดุเชื้อเพลิงต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดการเผา เปลี่ยนเป็นเพิ่มมูลค่าให้แก่เชื้อเพลิง
- โครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่าภายใต้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน สร้างเครือข่ายและอาสาสมัคร เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง
- กำหนดเขตควบคุมไฟป่า และช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ในห้วงวิกฤตไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง พร้อมจัดเตรียมกำลังพลกว่า 4,150 นาย พื้นที่ภาคเหนือ และเครือข่ายร่มแก้ปัญหาไฟป่า ในปี 2565 นี้
- สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก เช่น การใช้รถจักรยาน การใช้รถไฟฟ้า แทนการเดินทางโดยรถยนต์ เป็นต้น
- เพิ่มมาตรการควบคุมมลพิษทั้งจากยานพาหนะและภาคอุตสาหกรรม (ในเขตเมืองและเขตอุตสาหกรรม) และความเข้มงวดในการตรวจสอบควันดำ โดยร่วมกับกรมการขนส่งทางบก สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นไปอย่างน่าพอใจ โดยในแถบภาคเหนือสามารถลดจุดความร้อนที่ก่อให้เกิดไฟป่าได้ถึง 60 % สถานการณ์คุณภาพอากาศในช่วงปี 2565 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 โดยจำนวนวันที่เกินมาตรฐานลดลงร้อยละ 65 ในภาคเหนือ และร้อยละ 64 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นผลจากการร่วมมือของทุกภาคส่วนและประชาชนทุกคนที่ต้องการมีคุณภาพชีวิต คุณภาพอากาศที่ดีนั่นเอง