Facebook Business Manager คืออะไร ขั้นตอนการใช้งานมีอะไรบ้าง

Facebook Business Manager คือ บัญชีโฆษณาเฟซบุ๊กที่ใช้ในระดับธุรกิจ เป็นเครื่องมือที่ทำให้ธุรกิจ Digital marketing ของเราสามารถจัดการได้ง่ายมากขึ้น โดยเป็นการรวมการจัดการของธุรกิจด้านการตลาด มาไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังสามารถเพิ่มบุคลากรเข้ามาช่วยบริหารจัดการ แบ่งปันสิทธิ์การเข้าถึงต่าง ๆให้แก่ผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น ทีมเอเจนซี่ พาร์ทเนอร์ และผู้จัดจำหน่าย ของเราได้อีกด้วย

---

Facebook Business Manager คืออะไร 

ในปัจจุบัน การทำ Social media marketing  นั้น ถือเป็นหนึ่งหนทางที่สามารถช่วยพัฒนาธุรกิจของเราให้ก้าวหน้าได้มากยิ่งขึ้น แต่การบริหารจัดการนั้นก็ยากมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการใช้งาน Social Media นั้นมีหลากหลายช่องทาง Facebook Business Manager คือสิ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ 

Facebook Business Manager คือบัญชีเฟซบุ๊กชนิดหนึ่ง ที่มีไว้สำหรับใช้บริหารจัดการแบรนด์ สามารถควบคุมดูแลกิจกรรมธุรกิจของแบรนด์ จากหลายๆช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, ด้วยลักษณะเฉพาะพิเศษที่เรียกว่า Facebook Business Suite

โดย Facebook Business Suite มีความสามารถที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการ ทั้งจากทาง Facebook, Instagram จากที่เดียวได้ สามารถช่วยให้คุณ ประหยัดเวลาในการสร้างโพสต์ สามารถตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า ส่งข้อความผ่าน Messenger ตอบคอมเมนต์ของทางร้าน ยิงแอด facebook ทำให้สามารถ ตอบกลับลูกค้าได้รวดเร็ว เพิ่มความประทับใจ เพิ่มโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น ประหยัดเวลาในการโพสได้มากอีกด้วย

---

5 เหตุผลที่คุณควรใช้ Facebook Business Manager  

การสร้างร้านค้าบนเฟซบุ๊ก(Faebook page) ถึงแม้จะสามารถใช้งานบัญชีโฆษณาส่วนตัวในการสร้างแคมเปญ (campaign) หรือยิงโฆษณาได้ตามปรกติ แต่บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวนั้น ยังมีข้อจำกัดการเข้าถึงระบบฟีเจอร์ลักษณะเฉพาะต่างๆมากมายที่ทางเฟซบุ๊กนั้นสามารถเลือกใช้ได้ 

1. Facebook Business Manager สร้างกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้

ผู้ประกอบการสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการของตนเองแบบเฉพาะเจาะจงผ่านช่องทาง Facebook ด้วยเครื่องมือ Facebook Custom Adudience โดยสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายได้ตามหัวข้อต่อไปนี้

• Custom audiences

หัวข้อแรกคือการสร้างกลุ่มเป้าหมาย โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ในเฟซบุ๊กอยู่แล้ว นำมาวิเคราะห์เพื่อสรุปความน่าจะเป็นว่า กลุ่มผู้ใช้เหล่านี้อาจสนใจในสินค้าของเราและอาจจะมาเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคต โดยข้อมูลอ้างอิงจะเป็นข้อมูลประเภท ช่วงอายุ ความสนใจ ปฏิสัมพันธ์กับเรามาก่อนหน้านี้ อาจจะเคยทักเพจเรา หรือค้นหากลุ่มสินค้าประเภทเดียวกับเรา

ดังนั้นการสร้างลุ่มเป้าหมายแบบ Custom Adudience นั้น จะสามารถส่งผลให้การขายมีประสิทธิภาพมากกว่าการยิ่งโฆษณาแบบไม่มีเป้าหมาย เพิ่มความน่าจะเป็นในการซื้อสินค้า และไม่ทำให้การลงโฆษณาของเรานั้นเสียเปล่าได้ง่ายอีกด้วย 

• Lookalike audiences

หัวข้อต่อมาคือการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกันกับกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา เนื่องจาก มีแนวโน้มที่อาจจะชอบสินค้ารูปแบบเหมือนๆ กัน  ไม่ว่าจะเป็นด้านงานอดิเรก ที่ใกล้เคียงกัน ไลฟ์สไตล์ ช่วงอายุหรือ ความสนใจในชีวิตที่คล้ายกัน กลุ่มคนเหล่านี้ จึงเหมาะที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของการยิงโฆษณาของเรา 

• Saved audiences

เป็นลักษณะเฉพาะพิเศษที่ช่วยในการบันทึกกลุ่มเป้าหมายของตนเองที่เคยสร้างไว้ สำหรับใช้งานในการยิงโฆษณาในครั้งต่อๆไป เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับการยิงโฆษณาได้เป็นอย่างดี

---

2. Facebook Business Manager สามารถจัดการเพจและบัญชีโฆษณาได้ในที่เดียว

เพื่อเพิ่มขอบเขตในการรับรู้ของกลุ่มลูกค้านั้น การสร้างแบรนด์ของตนเองในหลายๆแพลตฟอร์ม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดย Facebook Business Manager คือสิ่งมีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการแพลตฟอร์มต่างๆที่เชื่อมต่อกันได้ เช่น Facebook, Instagram โดย Facebook Business Manager สามารถช่วยในการ ตอบแชทลูกค้าที่มากจากทั้งสองแพลตฟอร์ม ตอบคอมเมนต์ สร้างโพส หรือยิงโฆษณาได้ในเวลาเดียวกัน จึงช่วยให้การติดต่อกับลูกค้า รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

3. Facebook Business Manager สามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงได้

เนื่องจาก Facebook Business Manager นั้น สามารถเพิ่มคนดูแล ทีมเอเจนซี่ พาร์ทเนอร์ และผู้จัดจำหน่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการได้ด้วย การแบ่งสรรว่า ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีความสามารถในการจัดการได้มากน้อยแค่ไหน จึงมีความจำเป็นอย่างมาก ดังนั้น Facebook Business Manager จึงมีความสามารถในจำกัดสิทธิ์การเข้าถึง เพื่อป้องกันการใช้งานที่ผิดพลาดได้

4. Facebook Business Manager เพิ่มความปลอดภัยด้วย Two-Factor Authentication

ความปลอดภัยสำหรับบัญชีเฟซบุ๊กนั้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้นการเพิ่มความปลอดภัยด้วย Two-Factor Authentication จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดี 

5. Facebook Business Manager สามารถเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูงได้

ทั้งนี้ Facebook ยังมีลักษณะเฉพาะพิเศษที่สามารถช่วยให้ท่านทำงานได้ง่ายมากขึ้น ได้แก่

• Audience insight

Facebook รวบรวมข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนสองกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ติดต่อกับเพจของคุณ หรือกลุ่มคนบนเฟซบุก ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณ สร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น 

• Campaign planner

ตัววางแผนแคมเปญของ Facebook เป็นเครื่องมือแบบสแตนด์อโลนสำหรับนักวางแผนด้านสื่อ ในการแชร์ และซื้อแผนสื่อโฆษณาบน Facebook, Instagram ช่วยให้คุณสามารถสร้างแผนหลายสำหรับแคมเปญได้หลายแบบ สำหรับเปรียบเทียบกันเองเพื่อหาการตั้งค่าที่ดีที่สุดสำหรับแคมเปญของคุณ 

• Facebook Analytic tools 

ใช้การวิเคราะห์คู่แข่งในเชิงลึกเพื่อติดตามว่าแคมเปญใดมีแนวโน้มที่สร้างความต้องการมากที่สุดดูว่าสิ่งใดขับเคลื่อนความสำเร็จของคู่แข่งของคุณบน Facebook ค้นหาผู้ชมใหม่ๆ และเรียนรู้วิธีเชื่อมต่อ - รวดเร็ว รับมุมมองที่ชัดเจนว่ากลุ่มลูกรู้จักกับแบรนด์ของคุณบนตลาด Facebook อย่างไร ช่วยให้คุณมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสามารถปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

---

ใช้งาน Facebook Business Suite อย่างไร

ขั้นที่ 1: สร้างบัญชี Facebook Business Manager หรือ Facebook Business Suite 

1.เข้าไปที่ Business.facebook.com กด สร้างบัญชี

2.กรอกข้อมูลให้ถูกต้อง

3.ทาง Facebook Business Manager จะส่งอีเมลให้คุณกดยืนยัน 

4.กด Confirm Now 

เท่านี้ก็สามารถใช้งานบัญชี Facebook Business Manager ได้แล้ว 

---

ขั้นที่ 2: เมนู Facebook Business Manager

โดย Facebook Business Manager มีเมนูให้ใช้งานเบื้องต้นดังนี้

• ตั้งค่าธุรกิจ ใช้สำหรับการตั้งค่าธุรกิจ เพิ่มพาร์ทเนอร์ เพิ่มเพจ เป็นต้น
  
  
• ตัดจัดการเหตุการณ์ สามารถจัดการการเชื่อมต่อข้อมูล ตรวจสอบการแจ้งเตือนกิจกรรมของลูกค้า และอื่นๆ
  
  
• ตัวจัดการโฆษณา ใช้สำหรับจัดแคมเปญและการยิงโฆษณา
  
  
• ตัวจัดการการค้า ใช้สำหรับการสร้างร้านค้าและแค็ตตาล็อก
  
  
• รายงานเชิงลึก คือข้อมูลเชิงลึกจากการรวบรวมข้อมูล

ขั้นที่ 3: สร้างบัญชีโฆษณา (Ads Account)

หากคุณยังไม่มีบัญชีโฆษณา สามารถสร้างบัญชีโฆษณาได้ง่ายๆ โดย 

1.เข้าไปที่ ตั้งค่าธุรกิจ เลือก บัญชีโฆษณา

2.กดเพิ่ม เลือก สร้างบัญชีโฆษณาใหม่

3.กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน จากนั้นกด ถัดไป

4.เลือกประเภทธุรกิจ จากนั้นกดสร้าง

เพียงเท่านี้คุณก็จะมีบัญชีโฆษณาเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้ว

ขั้นที่ 4: สร้างเพจธุรกิจ (Facebook Business Page)

ขั้นตอนการสร้างเพจธุรกิจมีดังนี้

1.เข้าไปที่ ตั้งค่าธุรกิจ เลือก เพจ 

2.กดเพิ่ม แล้วเลือก สร้างเพจใหม่

3.เลือกหมวดหมู่ของเพจเรา ว่าต้องการเป็นเพจประเภทใด

4.ตั้งชื่อและเลือกหมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จากนั้นกดสร้าง

ขั้นที่ 5 : วิธีเพิ่มสมาชิกทีม ใน Facebook Business Manager 

1.เข้าไปที่ ตั้งค่าธุรกิจ 

2.เลือก ผู้ใช้ระบบ กดเพิ่ม

3.กรอกข้อมูลและเลือกรูปแบบ จากนั้นกดสร้างผู้ใช้ระบบ

ขั้นที่ 6 : วิธีขอสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีเพจและบัญชีโฆษณา

1.ไปที่การตั้งค่าธุรกิจ 

2.เลือก เพจ > กด เพิ่ม เลือก ขอการเข้าถึงเพจ

3.กรอกชื่อหรือ URL ของเพจบน Facebook ดังกล่าว

4.คลิกปุ่มเปิดปิดเพื่อเลือกสิทธิ์การอนุญาตที่คุณต้องการ จากนั้น คลิก ขอสิทธิ์การเข้าถึง

ขั้นที่ 7: วิธีเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจหรือเอเจนซี่

1.เข้าไปที่ ตั้งค่าธุรกิจ 

2.เลือก พาร์ทเนอร์

3.เลือกประเภทของพาร์ทเนอร์ที่เราต้องการเพิ่ม กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม ให้ถูกต้องแล้วกดเพิ่ม

ขั้นที่ 8 : วิธีเพิ่มบัญชี Instagram

ท่านสามารถเพิ่มบัญชี Instagram ได้ง่ายๆโดยการ

1.เลือกตั้งค่าธุรกิจ

3.เลือกเชื่อมต่อบัญชี Instagram ของคุณ

4.ล็อกอินบัญชี Instagram ของคุณ จากนั้นกด ดำเนินการต่อ

---

เพิ่มประสิทธิภาพ Facebook Business 

โดยการเพิ่มประสิทธิภาพ Facebook Business นั้น สามารถทำได้ โดยการ 

1.ปักหมุดโพสที่สำคัญเอาไว้ (Pinned Post)  เพื่อเพิ่มการมองเห็นของกลุ่มลูกค้า ให้เห็นในสิ่งที่เรากำลังนำเสนอ เช่น การโพสโปรโมทชั่น หรือการโปรโมทเพจ  เป็นต้น

2.สามารถเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอกของเราเพื่อดึงดูดลูกค้าที่อาจเคยใช้บริการจากทางเว็บไซต์ให้เข้ามามีส่วนร่วมในเพจของเราได้ง่ายมากขึ้น

3.การมีปฏิสัมพันธ์กับเพจอื่นๆ อาจชวยเพิ่มการมองเห็นของกลุ่มคนประเภทเดียวกัน และอาจช่วยให้กลุ่มคนนั้นๆมีความสนใจในเพจเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

4.เนื่องจาก Facebook Business Manager นั้นมีลักษณะเฉพาะพิเศษที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ เราจึงสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงและจัดการเพจ(Manage Page)ของเรา ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น

---

คำถามที่เกี่ยวข้อง 

Q :ทำไมถึงควรสร้างโฆษณาผ่าน Facebook Business Manager แทนการสร้างผ่านบัญชีส่วนตัว

A : เนื่องจากการใช้บัญชีส่วนตัวในการทำธุรกิจอาจไม่สามารถเข้าถึงลักษณะเฉพาะพิเศษบางอย่างที่ทาง Facebook Business Manager นั้นมีได้ เช่น การจัดการหลายๆบัญชีในที่เดียว การเพิ่มแอดมิน พาร์ทเนอร์ หรือเอเจนซี่ การดูแลเพจหลายๆรายการพร้อมกัน เป็นต้น นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ควรใช้ Facebook Business Manager ในการบริหารมากกว่าการใช้บัญชีส่วนตัว

 

Q : การสมัคร Facebook Business Manager มีค่าใช้จ่ายหรือไม่

A :  Facebook Business Manager นั้นสามารถใช้งานได้ฟรี ยกเว้นในส่วนของการยิงแอดโฆษณา Facebook นั้นอาจเป็นค่าใช้จ่ายแยก