ย้อนไทม์ไลน์ ! นาย"เทพไท" และน้องชาย หลังปิดฉากมหากาพย์ทุจริตเลือกตั้งฯ โดยไม่รอลงอาญา

1. นายเทพไท เสนพงศ์ (ชื่อเล่น: คึก) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราชสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามมติสภาผู้แทนราษฎร และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

2.เป็นบุตรคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มีเชื้อสายตูนิเซีย มีประวัติการศึกษา ประกาศนียบัตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (กฎหมายมหาชน) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (FUTURE OF LEADER) ,คณะพัฒนาสังคมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

3.ลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและได้รับการเลือกตั้งเป็นต้นมา นายเทพไทมีบทบาทเป็นโฆษกของพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ รายการสายล่อฟ้า และ รายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล อีกด้วย

4.ตระกูลมากบารมี ตระกูลเสนพงศ์ นับว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นที่รู้จักมากในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยนายเทพไท นั่งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัยติดต่อกัน ขณะที่ “มาโนช เสนพงศ์” น้องชาย ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นต่อเนื่องหลายสมัยเช่นเดียวกัน

ในกรณีทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเมื่อ พ.ศ. 2556 โดยให้สิ้นสุดลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563 และให้ถือว่าอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง 27 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตว่างลง

มาโนช เสนพงศ์

5. จุดเริ่มต้นของคดีนี้ เริ่มขึ้นเมื่อนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ. นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายนายเทพไท กรณีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อปี 2556 เรื่องไปตามขั้นตอนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง และในปี 2558 ศาลก็ให้ใบแดง นายมาโนช เสนพงศ์ พ้นตำแหน่ง นายก อบจ.

6.นายพิชัยยื่นต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เอาผิดอาญา นายมาโนช เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในฐานทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ในความผิดฐาน เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงแก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครอื่น

7. ส่งผลวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไทสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) และมาตรา 96 (2)

8.จนล่าสุด วันทีี่ 6 ก.ค.2565 ที่ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาฎีกา พิพากษายืน จำคุกเทพไท และน้องชาย คนละ 2 ปี ตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ดยไม่รอลงอาญา จบคดีโกงเลือกตั้ง นายก อบจ.เมืองคอน ฯ เมื่อปี 2557  ปิดฉากมหากาพย์ทุจริตเลือกตั้ง

9. นายเทพไท เสนพงศ์ เป็น ส.ส.ที่ไม่เคยสอบตกเลย ในที่สุดก็ถูกศาลอ่านคำพิพากษา ให้จำคุก 2 ปี ตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช

10. หลายสื่อขุดย้อนดู เกือบ 2 ปีก่อนทรัพย์สิน นายเทพไท เสนพงศ์ เฉียด 1 พันล้าน ธุรกิจ 3 แห่ง  ก่อนศาลสั่งคุก 2 ปี ทุจริตเลือกตั้ง คนในตระกูล ‘เสนพงศ์’ ยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัท/หจก. อีกอย่างน้อย 15 แห่ง เท่าที่ตรวจสอบพบ

11. ตระกูลเสนพงศ์  นอกจาก นาย มาโนชและ นายเทพไทแล้ว ตระกูล เสนพงศ์ นี้ ยังต้องลุ้นคดีของเชาวน์วัศ เสนพงศ์ พี่ชายคนโต อดีตนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช อีกคนที่มีประเด็นการพิจารณาในข้อกล่าวหาการทุจริตการปรับปรุงสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช และคดีอื่นๆ อีกหลายประเด็นอยู่ในชั้นการพิจารณาของ ปปช.  แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

พี่น้องตระกูลเสนพงษ์ ที่ยึดเมืองคอนบริหาร