เตือนภัย ตร.แนะ 4 วิธีเช็ก "หมายเรียกปลอม" ก่อนจะตกเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพ
ตามที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน โดยอ้างว่า ท่านเป็นหนี้บัตรเครดิตบ้าง หรือส่งของผิดกฎหมายบ้าง แล้วจะทำการโชว์บัตรตำรวจปลอม หรือโชว์หมายเรียกปลอมให้เราดู เพื่อข่มขู่ แล้วให้เราโอนเงิน หรือขอข้อมูลส่วนตัว
“ตำรวจสอบสวนกลาง” จึงแนะนำการตรวจสอบว่า.. หมายเรียกที่ท่านได้รับเป็นของจริงหรือของปลอม ดังนี้
1. ตั้งสติ เพราะหมายเรียกนั้นเป็นแค่การเรียกท่านไปพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา (ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา) แต่ถึงแม้ว่าท่านจะได้รับหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหา ท่านก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ เมื่อไปพบพนักงานสอบสวน
2. ตรวจสอบข้อมูลในหมายเรียก ดังนี้
✅สถานที่ออกหมาย,
✅วันที่ที่ออกหมาย,
✅ชื่อและที่อยู่ของพนักงานสอบสวนที่ออกหมาย,
✅สาเหตุที่เรียกไปพบ,
✅สถานที่และวันเวลาที่นัดหมายให้ไปพบ,
✅ลายมือชื่อพร้อมตำแหน่งของพนักงานสอบสวน (ป.วิ.อาญา ม.53)
.
3. ให้ท่านติดต่อไปยังหน่วยงานต้นสังกัด เช่น สถานีตำรวจที่พนักงานสอบสวนประจำอยู่ เพื่อสอบถามว่า มีพนักงานสอบสวนคนนี้ (ที่อยู่ในหมายเรียก) ว่ามีตัวตนจริงและอยู่ที่สถานีตำรวจจริงหรือไม่ โดยสามารถค้นหาเบอร์สถานีตำรวจได้จาก https://www.royalthaipolice.go.th/station.php
4. หากทางสถานีตำรวจยืนยันว่ามีพนักงานสอบสวนที่ออกหมายเรียกปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีตำรวจจริง ให้ขอเบอร์ติดต่อจากสถานีตำรวจนั้น เพื่อติดต่อไปตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกท่านไปจริงหรือไม่ ถ้าเป็นหมายเรียกจริง ก็พูดคุยเพื่อนัดหมายวันและเวลาที่จะเข้าไปพบพนักงานสอบสวนต่อไป
แต่หากพบว่าเป็นหมายเรียกปลอม ให้ท่านนำหมายเรียกปลอม ติดต่อเข้าแจ้งความสถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ท่านได้รับหมายเรียกปลอมนั้น เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพเกี่ยวกับ ”การใช้เอกสารราชการปลอม” ต่อไป
แต่หากพบว่าเป็นหมายเรียกจริง แล้วท่านไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามวันและเวลาที่กำหนด อาจมีความผิดที่ไม่มาตามหมายเรียก แต่ในกรณีที่เป็นหมายเรียกผู้ต้องหาอาจเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนร้องขอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับต่อไปได้ (ป.วิอาญา ม. 66)
ขอบคุณข้อมูล ตำรวจสอบสวนกลาง https://www.facebook.com/262915918934493/posts/319122263313858/?d=n










