ไมโครซอฟท์แซงหน้า หลังหุ้นแอปเปิลร่วง
บริษัท "แอปเปิล" ทำยอดขายได้ 6,000 ล้านเหรียญ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ที่คงทิ้งห่างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้พลาดจากเป้าหมาย ที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดไว้ผู้บริหารสูงสุด "ทิม คุก" ของแอปเปิล กล่าวว่า "ผลกระทบนี้จะยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิม ในไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังทำยอดขาย ในช่วงเทศกาล และ วันหยุดยาวประจำปี..."
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ "โซฟี ลุนด์ เยทส์" จาก "ฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์" กล่าวว่า "เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มบริษัท FAANG ที่เน้นด้านฮาร์ดแวร์น้อยกว่าแอปเปิล มีโอกาสที่จะเจอผลกระทบจาก ความผันผวนของห่วงโซ่อุปทานได้มากกว่า"
หุ้นของแอปเปิล ตกลงมา 1.8% และ ปิดที่ราคา 149.80 เหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาดที่ 2.48 ล้านล้านเหรียญ ในขณะที่หุ้นของบริษัท "ไมโครซอฟท์" กลับเพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยราคา 331.62 เหรียญสหรัฐ และ มีมูลค่าหลักทรัพย์ ตอนปิดตลาดที่ 2.49 ล้านล้านเหรียญ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า "แอปเปิลจัดการปัญหา ห่วงโซ่อุปทานได้ดีมาตลอด แต่เมื่อ "ทิม คุก" ออกมาเตือนถึงแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น และ นั่นทำให้ยอดขายของบริษัท อาจได้รับผลกระทบ ในช่วงวันหยุดยาวท้ายปี"
"ไมโครซอฟท์" กลีบคาดการณ์ว่า "จะจบปีนี้อย่างแข็งแกร่ง" แต่ก็มีคำเตือนว่า "ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน จะยังคงเกิดขึ้น กับหน่วยผลิตหลัก"
ที่มา: https://9to5mac.com/2021/10/29/microsoft-overtakes-apple-as-most-valuable-public-company/