พายุลูกใหม่ คาดก่อตัว 12 ตุลาคมนี้ อาจทำให้ฝนตกหนักขึ้นหลายพื้นที่
วันนี้ 5 ต.ค.64 นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า การพัฒนาตัวของพายุ และการเคลื่อนตัวของพายุ มีความไม่แน่นอน เราไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้านาน อย่างรอบที่แล้ว เรามีเวลาแค่เพียง 3 วันเท่านั้น
เตี้ยนหมู่เข้าไทยเร็วมาก ก่อตัวปุ๊บ ก็เข้ามาในไทยเลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เข้ามาแล้วมาบวกกับแนวร่องมรสุม ทำให้ฝนตกหนัก ส่วนการแจ้งเตือนประชาชนนั้น ไม่ได้ขึ้นกับกรมอุตุฯ เพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการระบายน้ำด้วย
นายณัฐพล อธิบายว่า การระบายน้ำแต่ละพื้นที่ใช้เวลาต่างกัน ทางกรมฯ ต้องประสานกับ กรมชลประทานเพื่อเร่งแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งทางกรมเองก็ไม่ทราบว่าการระบายน้ำจะใช้เวลาขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราเองก็พยายามบอกพี่น้องประชาชน ที่อาศัยใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ว่า หากด้านบนท่วมแล้ว อีกไม่นานก็มาถึง ฉะนั้น คนที่อยู่ริมน้ำก็ควรขนของขึ้นชั้น 2 ไว้ก่อน ซึ่งระยะเวลาจะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับทางกรมชลฯ จะปล่อยน้ำในทิศทางไหน จำนวนเท่าไหร่
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า เวลานี้ทางตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้เกิดความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสจะพัฒนาตัวเป็นพายุ ที่บริเวณทะเลจีนใต้ ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้แน่นอน สำหรับทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุลูกนี้ จะไปทางเกาะไหหลำ ประเทศจีน เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย จากนั้นจะเข้าสู่ประเทศจีนตอนล่างหรือเวียดนามตอนบน เนื่องจากมีความกดอากาศสูงลงมาในช่วงดังกล่าว ทำให้อิทธิพลของพายุอ่อนตัวลง
จากความกดอากาศสูงนำความเย็นเข้ามา ทำให้ดูดซับเอาความชื้นจากพายุมาด้วย และอิทธิพลของพายุลูกที่จะเข้ามาถึงไทย ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เบื้องต้น มีการประเมินว่าน่าจะไม่รุนแรงมากนัก โดยจะมีพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนได้รับผลกระทบ
คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดก่อน ว่าเมื่อมีการพัฒนาตัวของพายุ จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ จะกลายเป็นพายุโซนร้อน ดีเปรสชัน หรือ เมื่อเข้าพัดผ่านประเทศไทยแล้ว จะลดระดับเหลือเพียงหย่อมกดอากาศต่ำหรือไม่ คงต้องรอช่วงใกล้วันที่ 12 ตุลาคม มากกว่านี้
สำหรับในช่วงวันที่ 5-9 ตุลาคม ประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงเผชิญ ร่องมรสุม อธิบดีกรมอุตุฯ เผยว่า มีการคาดการณ์ว่าแนวร่องมรสุมดังกล่าว อาจจะมีการเคลื่อนตัวไปทางเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวัง ถ้าหากสอดรับกับแนวพายุ ที่กำลังจะเข้าในช่วงวันที่ 12-13 ตุลาคมนี้พอดี ก็อาจจะทำให้ฝนตกหนักขึ้น เพราะพายุจะนำความชื้นเข้ามาเสริมกำลังกับแนวร่องมรสุม
กลับกัน ถ้าหากร่องมรสุมดังกล่าว ไม่มีพายุเข้ามาเสริม ก็อาจจะมีแค่ฝนตกธรรมดา ไม่เหมือนกับตอนพายุ เตี้ยนหมู่ เข้าไทยอย่างรวดเร็ว เพราะเคลื่อนที่เร็ว แต่ก็มั่นใจว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เตี้ยนหมู่
อธิบดีกรมอุตุฯ ยังพูดถึง พายุอีกลูกซึ่งเราเริ่มเห็นแล้วเมื่อเช้านี้ เริ่มมีสภาพความกดอากาศต่ำ บริเวณภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ ตอนนี้ยังไม่พัฒนาตัวเป็นพายุ คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
หากพายุลูกใหม่นี้ก่อตัว ก็จะมีการคาดการณ์ว่า จะพัดผ่านทางด้านภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นแนวเดิมกับพายุลูกแรกเกิดในฝั่งตะวันตกของฟิลิปปินส์ ซึ่งชัดเจนแล้วจะกลายเป็นพายุในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ส่วนลูกที่สองยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นพายุหรือไม่ เรากำลังจับตาอยู่
นายณัฐพล เผยว่า ฝนปีนี้ถือว่ามาช้า ช่วงแรกคิดว่าไม่มีผลกระทบมาก เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนหลักไม่เยอะ ซึ่งเขื่อนภูมิพล เพิ่งถึงระดับ 50% เมื่อวานนี้เอง (3 ต.ค.)
อ้างอิงจาก: กรมอุตุนิยมวิทยา