เด็กไทยเรียน "รด." เพราะรัก หรือเพราะยกเว้น "เรื่องเกณฑ์ทหาร" ?

หัวข้อคำถามพวกนี้เหล่าเยาวรุ่นที่กำลังขึ้นสู่มัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ม.ปลาย กำลังค้นหาในกูเกิล อยู่ช่วงหนึ่งเป็นแน่แท้ การเรียน รด. ผู้หญิงอาจจะไม่ค่อยอินเท่าไรแต่ถ้าเป็นผู้ชายที่เคยผ่านในช่วง ม.ปลายแล้วต้องเข้าใจไม่มากก็น้อยกันเป็นพอพิธี บางคนเลือกที่จะเรียนและบางคนเลือกที่จะไม่เรียน เพื่อใช้เวลาในการอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย

พวกที่ไม่เห็นด้วยจะให้เหตุผล อาทิเช่น ไม่เห็นว่าการไปนั่งฟังทหารบ่น กับเดินตากแดดจะเพิ่มระเบียบวินัยแก่เด็กตรงไหน เพื่อ ป้องกันประเทศรึเปล่า? หมดยุดสมัย สงครามแล้ว สมัยนี้แข่งกันที่เศรษฐกิจ ถึงจะถูกประเทศเพื่อนบ้านยกกองทัพมา เราก็จะได้ความช่วยเหลือจากองค์กรณ์สหประชาชาติ และประเทศที่ใช้กำลังข่มเหงประเทศอื่นก็จะโดนประณาม และบอยคอตจาก ประเทศอื่น ๆ ในโลก อีกเหตุผลอย่างเพิ่มความแข็งแก่รงของร่างกายและสุขภาพที่ดี ก็แค่ให้เด็ก ๆ ไปออกกำลังกายกัน เพราะการออกกำลังกายอาทิตย์ละครึ่ง ชั่วโมงคุ่มกว่ามกันมั้ย ยังคงเป็นประเด็นที่น่าคิด

และสืบเนื่องจากคอนเทนต์ลูกเสือคราวก่อน ติดหูจึงหาเรื่องเกี่ยวกับความน่าเบื่อเรื่องการเรียน ‘รักษาดินแดน’ มาแตกเป็นประเด็นให้ได้อ่านกัน

ข้อแรกเลย เด็กที่ไปเรียนส่วนมาก ไม่เต็มใจแค่อยากให้เรียนจบ ๆ ไปจะได้หมดเวรหมดกรรม สาเหตุคือได้รับการยกเว้นเรื่องเกณฑ์ทหารนั่นเอง

ข้อสอง หลักสูตรมันน่าเบื่อเกินไป ให้ยิงปืนแค่ครั้งสองครั้งต่อปีการศึกษา แถมทุกวันต้องมาฝึกซ้ายหันขวาหัน ตามระเบียบพัก ซึ่งมันเป็นพื้นฐานสุด ๆ ของแบบนี้เราก็ได้เรียนจากลูกเสือมาแล้ว ถึงจะมีอะไรเพิ่มมาหน่อยอย่างหมอบ กลิ้ง เดินสวนสนาม แบกอาวุธบ้าง แต่มันไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งทุกวันที่มาเรียน เว้นเสียจะใกล้พิธีสำคัญอันนั้นสนับสนุนให้ฝึกเยอะ ๆ ไปเลย

ข้อสาม "รด.สามารถเป็นกองกำลังสำรองได้" ถูกแค่ส่วนหนึ่งเพราะถึงนศ.จะจบปี 3 แล้ว แทบไม่ได้แตะปืนหรือไปยิงเป้าตอนเรียนเสร็จแบบขำ ๆ มันก็ไม่ใช่แก่นแท้อยู่ดี มีแต่ทฤษฎี การขว้างระเบิด การยิงปืนใหญ่ การใช้ปืน M79 AK-47 บอกต้องทำมุมกี่องศา เวลาหันกระบอกปืน ใส่กระสุนยังไง แต่ที่สอนมาทั้งหมดสุดท้ายก็ลงเอยที่เจเกอร์เก่า ๆ แค่นั้นอย่าว่าแต่จะได้แตะเลยปืนใหญ่เลย แค่พวกปืนกลปืนพกไม่รู้จะได้ยิงไหม พอตอนจะสอบจบปี 3 ก็เอาข้อสอบเก่ามาให้จำ ยังไงทุกคนก็ผ่านหมด

ท้ายนี้ ถ้าเกิดว่าเรียนรักษาดินแดนจบอย่างน้อย 3 ปี แต่ต้องไปเกณฑ์ทหารอยู่เด็กไทยคงให้ความสำคัญน้อยลงไปอีก คงไม่เลือกเรียนกันอย่างแน่นอน สู้เลือกไปจำใบดำใบแดง หรือสมัครเองเลยดีกว่า เพราะล่าสุดกองทัพบกเองเปิดรับสมัครทหาร 10,000 อัตราผ่านทางออนไลน์สำหรับผู้ที่สมัครใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอีกด้วย