ครูสวมสิทธิ์คนละครึ่ง ยัน! ทำคนเดียว ไม่ได้มีบุคคลอื่นร่วมด้วย
(7 ก.พ.) พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวภายหลังสอบปากคำ ว่าที่ ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ โมรีย์ ครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำ เมื่อวานนี้ ผู้ต้องหาก็เริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่โดยรวมแล้วผู้ต้องหายังให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี โดยรับสารภาพว่าทำคนเดียว ไม่ได้มีบุคคลอื่นร่วมหรือทำเป็นขบวนการ พร้อมบอกว่าส่วนตัวเป็นคนที่ชอบสะสมซิมโทรศัพท์มือถือเท่านั้น และเป็นคนทำหน้าที่ในส่วนเทคนิค คือหลังจากที่รวบรวมซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชนแล้ว ก็จะนำมาลงทะเบียนสมัครสิทธิ์เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งทำได้ไม่ยาก
ทางด้านครูฝน บุคคลที่ชาวบ้านแจ้งว่าเป็นคนชักชวนชาวบ้านนั้น ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.บ้านฝาง เพื่อให้ปากคำกับกรณีที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับครูภูผาภูมิ และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับ ครูฝน ในข้อหา ร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนด้วย
ทางด้าน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว การกระทำของครูลักษณะนี้ถือเป็นการประพฤติผิดทางจรรยาบรรณ ศธ.จะต้องลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง เพราะ ศธ.จะไม่ปล่อยครูที่ทำปัญหาให้พี่น้องประชาชนอยู่ในวงการการศึกษาอย่างแน่นอน ส่วนจะลงโทษโดยให้ออกจากราชการหรือไม่ ต้องไปดูกฎระเบียบของ ศธ.ว่าการกระทำลักษณะนี้โทษสูงสุดคืออะไร แต่ถ้าใครทำให้ประชาชนเสียหาย และทำให้วิชาชีพครูเสื่อมเสีย ศธ.ต้องลงโทษสูงสุดแน่นอน






