ไหง๋เป็นงั้น!!? "ทรัมป์" ตำหนิม็อบบุกรัฐสภา "ทำประชาธิปไตยมัวหมอง"
‘ทรัมป์’ ตำหนิม็อบบุกรัฐสภา ‘ทำประชาธิปไตยมัวหมอง’ ยันจะส่งมอบอำนาจให้ ‘ไบเดน’
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นสัญญาเป็นครั้งแรกวานนี้ (8 ม.ค.) ว่าจะส่งมอบอำนาจอย่างสันติให้แก่ โจ ไบเดน พร้อมยอมรับว่าวาระการดำรงตำแหน่งของตนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มีการปลดผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ออกจากตำแหน่งโทษฐานยุยงปลุกปั่นให้ม็อบบุกโจมตีรัฐสภา
ทรัมป์ ได้ทวีตคลิปวิดีโอเป็นครั้งแรกหลังถูกทวิตเตอร์แบนเป็นเวลา 12 ชั่วโมง โดยตำหนิผู้ชุมนุมที่เข้าไปก่อความวุ่นวายในอาคารรัฐสภาขณะที่คองเกรสกำลังลงมติรับรองชัยชนะให้กับ ไบเดน ว่า “ทำให้ฐานของประชาธิปไตยอเมริกันต้องมัวหมอง และจะต้องรับผิดชอบ” กับสิ่งที่ทำลงไป
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ก็ยังใจไม่ถึงพอที่จะกล่าวแสดงความยินดี หรือแม้กระทั่งเอ่ยชื่อของบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ต่อจากเขา
ทรัมป์ ซึ่งเคยขึ้นเวทีปราศรัยอย่างดุเดือดและเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธ (6) ยังเปลี่ยนมาใช้ท่าทีที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด โดยกล่าวว่า “นี่เป็นเวลาแห่งการเยียวยาและการสมัครสมานปรองดอง”
“เราเพิ่งจะผ่านพ้นการเลือกตั้งที่เข้มข้น และผู้คนยังคงอินกับความรู้สึกนั้นอยู่ แต่ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องใจเย็นลงและกลับคืนสู่ความสงบ”
“รัฐบาลชุดใหม่จะเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. และสิ่งที่ผมจะให้ความสำคัญในตอนนี้ก็คือ ทำให้กระบวนการถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นระเบียบเรียบร้อย”
“การได้รับใช้ท่านในฐานะประธานาธิบดีถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของผม” พร้อมกับย้ำว่าที่ผ่านมาตนเอง “ต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยอเมริกัน” มาโดยตลอด
ไบเดน ซึ่งชนะ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ทั้งด้วยจำนวนคณะผู้แทนเลือกตั้ง (electoral college) เกิน 270 คน และยังได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตมากกว่าถึง 7 ล้านเสียง ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสเรียกร้องปลดทรัมป์ แต่ตำหนิอดีตมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ว่า “โจมสถาบันประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างร้ายแรง”
“ในมุมมองของผม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถือเป็นวันที่มืดมนที่สุดวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติเรา” ไบเดน กล่าวระหว่างเสนอชื่อ เมอร์ริค การ์แลนด์ เป็นว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ผู้ซึ่งต่อไปจะมีหน้าที่ตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีกับ ทรัมป์ ในความผิดต่างๆ หรือไม่
“พวกเขาไม่ใช่ผู้ประท้วง แต่เป็นม็อบที่ก่อจลาจล ก่อกบฏ และเป็นผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ... ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเรามีประธานาธิบดีผู้ซึ่งการกระทำทุกอย่างสะท้อนถึงการดูหมิ่นระบอบประชาธิปไตย ดูหมิ่นรัฐธรรมนูญ และดูหมิ่นหลักนิติธรรมอย่างชัดเจน”
แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ชัค ชูเมอร์ แกนนำ ส.ว.เดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ประกาศใช้อำนาจตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ซึ่งเปิดทางให้คณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ลงมติปลดประธานาธิบดี หากเห็นว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม พร้อมขู่จะเดินหน้ากระบวนการถอดถอน (impeachment) ทรัมป์ เป็นครั้งที่ 2 หากคณะบริหารยังคงเพิกเฉย
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/astv.aroundtheworld/photos/a.762276233833524/3796867277041056/