สลิ่ม คืออะไร?
รูปภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด
สลิ่มโรคที่รักษาไม่หาย อยู่ไปก็ไม่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และต้องตายไปพร้อมกับ ความโง่ เห็นแก่ตัว มัวเมา มโน โรคนี้สายเกินจะเยี่ยวยาจริงๆ ทั้งสมาธิสั้น สายตาสั้น ไม่มองอนาคตของลูกหลาน อยู่ในจำพวก สัสครึ่งบกครึ่งบกครึ่งน้ำ และมีสมอง 84000เซลล์ เหมือน
หลังจากเหตุการณ์ “ตาสว่าง 2” สลิ่มส่งข้อความตอบโต้ฝ่ายประชาธิปไตยรัว ๆ หลายคนมีท่าทีลำพองใจว่า ได้ชัยชนะแล้ว และเป็นเรื่องจริงว่าเสียเวลาโต้กับสลิ่ม แต่อยากบันทึกบางประเด็นไว้ ดังนี้
1.
สลิ่มพยายามเผยแพร่ความเชื่อว่า การเคลื่อนไหวเรียกร้องสังคมที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ของนักเรียนนักศึกษาและประชาชน เกิดขึ้นเพราะรับคำสั่งจาก “นักการเมืองล้มเจ้า เนรคุณชาติ เนรคุณแม่” ตามนิยายที่แต่งกันขึ้นมา แต่ความเชื่อแบบนี้ จะยิ่งทำให้สลิ่มหลงทางไปเรื่อย ๆ
2.
สลิ่มนิยมเขียนมั่ว ๆ ใส่ร้ายป้ายสีให้คนรับสารสับสน และบางทีคงทำให้ตัวเองสับสนด้วยว่า การ “ ปฏิรูปสถาบัน” เพื่อให้สถาบันอยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ไม่ถูกใครโหนหรือไม่อนุญาตให้ใครโหนเพื่อประโยชน์มหาศาลของคนกลุ่มน้อย คือการ “ล้มสถาบันหรือทำลายสถาบัน” แม้ทั้งสองคำนั้น จะมีความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
3.
เป็นธรรมดาว่ามีคนไม่รักย่อมมีคนรัก มีคนเป็นแฟนด้อมและมีคนไม่นิยมเป็นแฟนด้อม แต่ไม่ควรบิดเบือนว่าคนไม่นิยมเป็นแฟนด้อมคือต้องการทำลายไอดอลและแฟนด้อมให้สิ้นซาก และไม่เคยมีใครบังคับใครว่าอย่ารักใคร หรือถ้ารักแล้วจะถูกทำโทษอย่างรุนแรง
4.
สลิ่มหลายคนชอบนุ่งห่มขาว ปากท่องพุทธธรรม แต่อาจไม่ชอบสงบสติอารมณ์แล้วพิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้าน จนพอจะเห็นความจริงว่า ฝ่ายใดกันแน่ที่แสดงท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือ ต้องการกำจัดอีกฝ่ายให้สิ้นซากเพราะได้รับการปลูกฝังว่า “มันอันตรายมาก ต้องกำจัดมันให้มันตายอย่างสาสม ก่อนมันจะทำลายเรา”
5.
สลิ่มชอบพูดว่า ผู้นำพึงมีธรรมในใจ แต่ดูเหมือนสลิ่มจะไม่เข้าใจว่า อะไรคือธรรม และไม่เข้าใจว่า เมื่อประชาชนในสังคมที่ผู้นำดำรงตำแหน่งผู้นำ มีความขัดแย้งกัน ผู้นำต้องรักษาความเที่ยงธรรม ไม่เข้าข้างฝ่ายใด ที่สำคัญคือต้องไม่ใช้ท่าที “ออกใบอนุญาตฆ่า” ตามข่าวใส่ร้ายจากฝ่ายที่ผู้นำชอบ ว่าอีกฝ่ายที่ผู้นำไม่ชอบ เป็นพวก “ใช้ความรุนแรง” เป็นคนไม่ดี การแสดงออกของฝ่ายคนดีจึงชอบธรรมแล้ว ถูกต้องแล้วที่จะโต้ตอบคนไม่ดีอย่างที่ทำกันอยู่ พร้อมคำชื่นชมว่า เป็นความกล้า ความเก่งของฝ่ายที่ผู้นำชอบ แม้ฝ่ายที่ผู้นำชอบจะอยู่ในสถานะ “ได้เปรียบ” ทุกด้าน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ความกล้าหรือความเก่งใด ๆ
.
บันทึกไว้ในวันมืดของสังคม แต่ธรรมชาติมีด้านมืดและด้านสว่างเสมอ ไม่เคยมีความมืดตลอดกาล
.
ที่มาNithinand Yorsaengrat