อ. เจษฎาแจง "ไอ้ไข่"ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้ ถ้าไม่งมงายจนเกินไป ไม่เอาแต่นั่งเฝ้าบูชาขอพร
อ. เจษฎา โพสต์เฟสบุค อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ หลังออกรายการหนึ่งของทีวีช่องดัง กรณี"ไอ้ไข่"ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้
ไทยรัฐ ก็พาดหัวข่าวดราม่าไปนิดครับ ฮะๆ ไม่ได้ถึงขนาดมองสวนขัดแย้งกับหลวงพ่อท่านนะครับ
แค่มองไปอีกมุมนึงเท่านั้นเอง ว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ เราก็สามารถนำเอาความเชื่อต่างๆ ของแต่ละพื้นบ้าน มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้นะครับ
แต่ก็อย่าไปหลงศรัทธามาก จนทำให้ต้องเสียทรัพย์สินเงินทองมากมายโดยใช้เหตุนะครับ (ดูสมัย "จตุคามรามเทพฟีเวอร์" เป็นอุทาหรณ์ได้ครับ)
-------
(รายงานข่าว) เมื่อวันที่ 9 ก.ย. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
ความเชื่อเรื่องไอ้ไข่ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าไม่งมงายจนเกินไป ไม่เอาแต่นั่งเฝ้าบูชาขอพรก็พอรับได้ จึงอย่าไปมองที่ความงมงายด้านเดียว ในเมื่อสังคมไทยเป็นแบบนี้ ตนมองว่ากระแสไอ้ไข่สามารถใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ ก็ใช้เรื่องนี้ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยจากการเดินทางไปไหว้สิ่งที่เชื่อมั่นศรัทธาในสถานที่ต่างๆ ก่อให้เกิดการใช้จ่ายกระจายรายได้ส่งผลดีต่อชุมชนรอบวัด
แต่เชื่อว่ากระแสจะอยู่ไม่นาน แล้วคนจะหันไปสนใจสิ่งอื่นแทน เหมือนในอดีตที่นิยมบูชาจตุคามรามเทพ ตุ๊กตาลูกเทพ ที่เริ่มจากการโด่งดังในท้องถิ่นก่อนจะถูกปั่นราคาจนดังทั่วประเทศ จนถึงจุดหนึ่งที่กระแสตกจตุคามถูกทิ้ง สะท้อนเรื่องของความเชื่อและธุรกิจได้ดี และที่น่าสนใจคือเหตุการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนถึงไอ้ไข่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
รศ.ดร.เจษฎา กล่าวด้วยว่า ในอดีตคนอาจต้องฟังหรืออ่านเรื่องปาฏิหาริย์ผ่านหนังสือข้อมูลจะไปได้ช้าแบบปากต่อปาก ต่างจากปัจจุบันที่เรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านโซเชียลผ่านโทรศัพท์มือถือจึงเกิดกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเจริญมากขึ้นแต่ความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ไม่ลดลง เพราะทั้งวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนาในบ้านเราไม่เข้มแข็งทั้งสองอย่าง เมื่อมีการปั่นกระแสเรื่องปาฏิหาริย์มีคนดังมีชื่อเสียงออกมาโพสต์เรื่องราวจากโชคลาภที่ได้รับจากการบูชาไอ้ไข่ผ่านโซเชียล จึงเป็นการเร่งกระพือให้เชื่อว่าขอไอ้ไข่แล้วได้จริง คนจึงเกิดความอยากได้บ้าง กระแสไอ้ไข่จึงกระจายไปทั่วประเทศ แต่การส่งเสริมในเรื่องความเชื่อการบูชาขอโชคลาภ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำมาหากิน ถ้าไหว้ไอ้ไข่แล้วสบายใจก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่ต้องไปคัดค้าน
"แม้วิทยาศาสตร์พัฒนามากขึ้น แต่ความเชื่อความศรัทธาของคนไทยในเรื่องลี้ลับปาฏิหาริย์ไม่ได้ลดลงตามความเจริญ เพราะความเชื่อเรื่องโชคลาภเกิดจากคนกำหนดขึ้น เห็นได้จากทุกครั้งที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจคนขาดที่พึ่งจะมีกระบวนการสร้างความเชื่อและเกิดธุรกิจพุทธพาณิชย์ตามมา ที่คนขอโชคลาภความสำเร็จจาก ไอ้ไข่ เพราะคนต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวให้มีกำลังใจในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิต วัดต่างๆ จึงเอากระแสนี้นำไอ้ไข่มาไว้ในวัดให้คนเข้ามาทำบุญ" รศ.ดร.เจษฎา กล่าว
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/
https://www.facebook.com/aikhaidekwatjd/