เจ้าของบ้านแค้นใจ เสียท่าให้กับอุบาย แม่บ้านต่างด้าว ก่อนจากยังโดนเล่นละครน้ำเน่าส่งท้าย

เป็นเรื่องราวเตือนภัยสำหรับเจ้าของบ้านคนไหนที่กำลังคิดจะรับแม่บ้านเข้ามาทำงานคงต้องคอยระวังกันให้ดี เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Namonpan Aur-areevorakul โพสต์เล่าเหตุการณ์หลังจากรับแม่บ้านชาว เมียนมาร์ คนหนึ่งเข้ามาทำงาน แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงานดันเจอแม่บ้านสาวคนดังกล่าว ออกอุบายจนต้องยอมควักเงินให้เป็นค่าเบิกจ่ายล่วงหน้า แถมยังออกโทรศัพท์ใหม่ให้อีก 1 เครื่อง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังโดนเธอเล่นละครน้ำเน่าเพื่อตบตา พร้อมกับหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยตามระเบียบ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า.. เตือนภัย แม่บ้านมหาภัย หวาน พม่า Maid เริ่มงาน 19/12/62 เคยใช้โทรศัพท์เบอร์นี้ 09445459xx วันเข้างานก็แจ้งความจำเป็นว่า “หนูมาประเทศไทย 2อาทิตย์แล้วยังไม่ได้งาน เพิ่งได้งานวันนี้ แต่ทุกวันที่ 23 จะต้องโอนเงินให้ยาย ยายป่วยอยู่”

“เราก็ว่าได้ให้เบิกล่วงหน้าได้ ไม่เป็นไร เราจึงโอนเงินให้คนรับส่งเงินที่เขาใช้ ในวันรุ่งขึ้นเลย จะได้เสร็จๆธุระไป เมื่อโอนเงินให้แล้ว นางจะแสดงท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู มากอดเอวเรา และยิ้มอย่างมีความสุข ทำให้เราอิ่มใจไปด้วยที่ทำให้เขามีความสุข”

วันที่ 20 ตอนเย็นๆก็มานั่งน้ำตาซึม ต่อหน้าเราว่า คิดถึง ยาย คิดถึงลูก ติดต่อพวกเขาไม่ได้ เขาต้องเป็นห่วงแน่ๆ เราก็ว่าให้ยืมโทรศัพท์เราก็ได้ สุดท้าย โยกไปโยกมาว่าจะขอเบิกเงินล่วงหน้าซื้อโทรศัพท์ ราคา 1,000-2,000 ก็ได้ เอาเข้าจริงเลือก ตัวละประมาณ 7,000 บาท โดยเราใช้สิทธิ์ serenate ได้ส่วนลดเหลือ 6,040 บาท เราให้เพราะอยากให้เขาคลายทุกข์ที่ต้องอยู่ไกลบ้านไกลลูก จะได้รู้สารทุกข์สุขดิบคนในครอบครัว

เมื่อซื้อโทรศัพท์ให้เรียบร้อยแล้ว เราก็จะไม่ต้องวุ่นวายธุระของเขาอีก เราจะได้ทำภารกิจของเราเองได้ ในวันนั้น นางโทรมาหาเราตอน18.40แต่เราไม่ได้รับสาย จึงโทรกลับ19.43น. นางขอไปงานแต่งงานญาติ ในวันพรุ่งนี้เช้า

เราบอกว่า “งานแต่งงานเขากำหนดมาก่อนแล้ว ถ้าต้องการไปร่วมงาน “ต้อง ร่วมงานให้เสร็จแล้วจึงจะมาเริ่มงานแม่บ้าน ไม่ใช่พอเริ่มงานแล้วก็มาขอลา ไม่มีใครเขาให้ลาหรอก “ดังนั้นไม่ให้ไปค่ะ”

รุ่งเช้า เราต้องเดินไปปลุกที่ห้องแม่บ้าน นางก็บอกว่า “ไม่สบาย ตัวร้อน เป็นไข้ ปวดหัวมาก” แต่เราจับตัวดูก็ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ตัวไม่ได้ร้อน แต่นางตั้งใจไม่ทำงานเพราะตั้งแต่มานางก็ทำแต่ธุระ หลอกลวงเอาเงิน เอาโทรศัพท์ ยังไม่ได้ทำงานบ้านใดๆเลย

ดิฉันจึงเอา พาราไปให้แผงนึง ตอนสายมีสายโทรศัพท์เข้าเครื่องนาง นางพูดภาษาพม่า แล้วค่อยหันมาแสดงละคร ดูออกเลยนางพูดว่า “ยายตายแล้ว ยายหนูตายแล้ว หนูไม่มียายแล้วใช่ไหม?” ดูเป็นละครมากเลย เลยบอกไปว่า “เธอก็ไปถามคนโทรมาสิว่ายายเธอตายแล้วใช่ไหม ฉันไม่รู้” แล้วก็ไปธุระของเราที่ไม่ได้ทำมา 2-3วันแล้ว

ตอนเที่ยงสามีเรากลับจากตีกอล์ฟ นางก็ขออนุญาติสามีดิฉันว่าขอไปซื้อขนมที่ seven 11 ตอนเย็นดิฉันกลับบ้าน พบว่านางไม่อยู่ และรู้ว่านางขอออกไปซื้อขนม

เวลา 17.28น. นาง โทรเข้าline ดิฉัน ว่า “อย่าทิ้งเสื้อผ้าของเขานะ เขาจะหาเงินมาคืน และจะมาเอาเสื้อผ้าของนางคืน” จนถึงบัดนี้ ติดต่อนางไม่ได้ ทั้งทางไลน์ และโทรศัพท์

จึงฝากแช์คนไทยใจดี “อย่าใจดี” “อย่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา” “อย่าคิดว่าเขาได้รับความดี ความเมตตาจากเราแล้ว เขาจะมีความสุขทำงานได้โดยไม่มีความกังวล” คนใจดี มักเป็นเหยื่อมิจฉาชีพโดยอาศัยความใจดีของเรา ในที่สุดต่อไปจะหาคนใจดียากขึ้นเรื่อยๆ อย่าแปลกใจที่คนปัจจุบันใจดีน้อยลง เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันน้อยลง เพราะคนพวกนี้ทำให้คนใจดีต้องใจแข็ง และคิดในทางร้ายไว้ก่อน สงสารแต่คนที่เดือดร้อนจริงๆและต้องการความช่วยเหลือจริงๆ