10คดี ที่โดนโทษจำคุกนานที่สุดในโลก บางรายเป็นแสนปี หนึ่งในนั้นมีคนไทย!

หลายคนคงจะได้พบเห็นการกระทำความผิดบนโลกใบนี้หลายรูปแบบ มากมาย แต่จะมีใครรู้ว่าแต่ละคดีมีโทษหนักเบามากน้อยแค่ไหน เราลองมาดูกันว่า 10 คดี ที่มีโทษจำคุกมากที่สุดในโลก จะมีอะไรกันบ้าง !

อันดับ 10 Ariel Castro สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุกตลอดชีวิตและบวกเพิ่ม 1,000 ปี)

ในปี 2002-2001 แอเรียล คาสโตร คนขับรถโรงเรียนวัย 40 ต้นๆ ลักพาตัวเด็กสาว 3 คนวัย 14, 16 และ 21 ไปขังไว้ที่บ้านตัวเองที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เขาล่ามโซ่พวกเธอและข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมีลูกกับเหยื่อ เหยื่อทั้ง 3 หนีออกมาจากบ้านเขาได้ในวันที่ 6 เมษายน 2013 หลังเหยื่อคนหนึ่งทุบประตูพังและตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนข้างบ้านได้สำเร็จ
เขายอมรับผิดทั้งหมด 937 ข้อหา และได้ลดหย่อนโทษจากประหารชีวิตเหลือเป็นจำคุกตลอดชีวิตโดยห้ามขอทัณฑ์บนและบวกเพิ่มอีก 1,000 ปี แต่หลังจำคุกได้เพียงเดือนเดียว เขาก็แขวนคอตายในคุกโดยใช้ผ้าปูเตียงแทนเชือก

อันดับ 9 Martin John Bryant สัญชาติออสเตรเลีย

(โทษจำคุกตลอดชีวิต 35 ครั้งและบวกเพิ่ม 1,035 ปี)

วันที่ 28-29 เมษายน 1996 เกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ที่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง Port Arthur ในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 35 รายและบาดเจ็บ 23 ราย มือปืนคือมาร์ติน จอห์น ไบรอันท์วัย 28 ปี เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่โดยมือปืนรายเดียวที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์
มาร์ตินมีอาการทางจิตตั้งแต่เด็ก เมื่อโตแล้วเขามีไอคิวต่ำเพียงระดับ 66 เท่านั้นซึ่งพอๆ กับเด็กอายุ 11 ขวบ นอกจากนี้ยังสื่อสารไม่รู้เรื่องอีกด้วย ด้วยความผิดปกติทางจิตทำให้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต 35 ครั้งและบวกเพิ่ม 1,035 ปีในแผนกนักโทษทางจิตของเรือนจำริสดัน

อันดับ 8 James Eagan Holmes สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุกตลอดชีวิต 12 ครั้งและบวกเพิ่ม 3,318 ปี)

เจมส์ อีแกน โฮล์มส์ คือมือปืนที่สังหารหมู่ในโรงภาพยนตร์ที่กำลังฉายเรื่อง The Dark Knight Rises ในปี 2012 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและบาดเจ็บอีก 70 คน ตำรวจจับเขาได้ที่ลานจอดรถใกล้ๆ โรงหนังในเวลาไม่นานนัก เขายอมรับผิดในข้อหาฆาตกรรม 24 ข้อหาและพยายามฆ่าอีก 140 ข้อหา ก่อนจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 12 ครั้ง แต่ละครั้งสำหรับผู้เสียชีวิตแต่ละคน และบวกเพิ่มอีก 3,318 ปีสำหรับเหตุอื่นๆ เขาพยายามฆ่าตัวตายในคุกหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ

อันดับ 7 Dudley Wayne Kyzer สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุกตลอดชีวิต 2 ครั้งและบวกเพิ่ม 10,000 ปี)

ดัดลีย์ เวย์น ไคเซอร์ สังหารภรรยา แม่ภรรยา และนักศึกษาหนุ่มในคืนวันฮัลโลวีนปี 1976 เขายิงนักศึกษาที่บังเอิญเป็นแขกที่บ้านนั้นในวันนั้นโดยที่เด็กหนุ่มอยู่ในท่าคุกเข่าขอร้องชีวิต ยิงจ่อหน้าผากแม่ภรรยา และยิงภรรยาที่หน้าอกขณะที่เธอพยายามอุ้มลูกวัย 6 ขวบหนีออกมาจากบ้าน ภรรยาของเขาคลานไปถึงสนามหญ้าของเพื่อนบ้านก่อนจะเสียชีวิต
หลังจากปิดเมืองตามล่าตัวดัดลีย์อยู่ 4 วัน ตำรวจก็จับกุมเขาได้ คดีของเขาใช้เวลาพิจารณาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ผู้พิพากษาตัดสินให้เขาโดนประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า แต่ในยุคนั้นกฎหมายรัฐแอละบาม่ายังไม่เคลียร์ในเรื่องการประหารชีวิต ทำให้เขาได้รับโทษจำคุกนานจนแน่ใจว่าเขาจะไม่ออกมาแน่ๆ แทน
เขาสามารถยื่นขอทัณฑ์บนได้ตามระยะที่กำหนด แต่จนถึงปัจจุบันที่เขายื่นคำร้องมาแล้วถึง 9 ครั้ง เขาก็ยังไม่ได้รับการลดหย่อนโทษ การยื่นคำร้องครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่คาดว่าเขาก็คงถูกปฏิเสธเช่นเคย

อันดับ 6 Darron Bennalford Anderson สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุก 11,250 ปี)

ดาร์รอน เบนนัลฟอร์ด แอนเดอร์สัน ถูกตัดสินในปี 1994 ว่ามีความผิดทั้งข่มขืนสตรีสูงวัย ขโมย และปล้นหลายคดี จนทำให้เขาต้องโทษจำคุกถึง 2,200 ปี จากนั้นเขาก็ยื่นอุทธรณ์และมีการไต่สวนใหม่ จนทำให้ตัวเองต้องโทษเพิ่มอีก 9,000 ปี เขาจึงยื่นเรื่องอีกครั้ง คราวนี้คณะลูกขุนตัดสินให้เขาจำคุกรวม 11,250 ปี และเขาสามารถยื่นคำร้องขอทัณฑ์บนได้อีกครั้งในปีค.ศ. 12,744

อันดับ 5 Allan Wayne McLaurin สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุก 21,250 ปี)

อัลแลน เวย์น แม็คลอรินเป็นคู่หูร่วมลงมือกับดาร์รอนที่อยู่ในอันดับ 6 ค่ะ โดยส่วนมากก็จะโดนคดีเหมือนๆ กันไม่ว่าจะข่มขืน ขโมย และปล้น แต่ว่ามีจำนวนคดีมากกว่าดาร์รอน นอกจากนี้ก็เพิ่มคดีลักพาตัวเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้โดนจำนวนปีไปถึง 21,750 ปี แต่เขายื่นอุทธรณ์สำเร็จไป 1 ข้อหาทำให้ได้ลดจำนวนปีลงเหลือ 21,250 ปีค่ะ

อันดับ 4 Charles Scott Robinson สัญชาติอเมริกัน

(โทษจำคุก 30,000 ปี)

ชาร์ลส์ สก๊อต โรบินสัน จากโอกลาโฮม่า กระทำชำเราเด็ก 6 คนในปี 1994 ทำให้เขาได้รับโทษจำคุก 5,000 ปีต่อคดี รวมทั้งหมดเป็น 30,000 ปี ด้วยกฎหมายรัฐในตอนนั้นทำให้คณะลูกขุนจำเป็นต้องให้เขาจำคุกตลอดชีวิตโดยได้รับสิทธิ์ยื่นขอทัณฑ์บนได้ทุกๆ 15 ปี แต่ผู้พิพากษาก็จัดการให้มั่นใจได้ว่าเขาไม่มีทางออกมาข้างนอกได้ในเร็วๆ นี้แน่นอน โดยตัดสินให้หากเขาขอทัณฑ์บนได้ เขาต้องรออีก 75 ปีถึงจะได้ออกจากคุก

อันดับ 3 สามผู้ต้องหาวางระเบิดสถานีรถไฟมาดริดในปี 2004

(โทษจำคุก 34,715 ปี; 42,922 ปี; 42,924 ปี)

เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ในเช้าวันที่ 11 มีนาคม 2004 เพียง 3 วันก่อนถึงวันเลือกตั้งในสเปน เหตุระเบิดครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 191 คนและบาดเจ็บกว่า 2,050 คน ทางการคาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายรายย่อยของกลุ่มอัลกออิดะฮ์ หลังการสืบสวนสอบสวนและไต่สวนที่กินเวลาอีกหลายปี ทำให้ได้ผู้ต้องหา 21 รายที่มีความผิดตั้งแต่การปลอมแปลงเอกสารไปจนถึงการฆาตกรรม
โดยผู้ต้องหาที่ได้รับโทษสูงสุด 3 คนได้แก่ Otman el-Gnaoui จำคุก 42,924 ปี Jamal Zougam จำคุก 42,922 ปี และ Emilio Suárez Trashorras จำคุก 34,715 ปี แต่กฎหมายสเปนระบุว่าต้องโทษจำคุกสูงสุดได้ไม่เกิน 40 ปี ทำให้แต่ละคนจำคุกได้ไม่นานเท่าโทษที่ควรได้รับ

อันดับ 2 ชม้อย ทิพย์โส สัญชาติไทย

(โทษจำคุก 154,005 ปี)

คดีแชร์แม่ชม้อยเกิดขึ้นก่อนปีเกิดนานมาก คร่าวๆ คือนางชม้อยกับพวกรวม 10 คนร่วมกันฉ้อโกงประชาชนในช่วงปีพ.ศ.2520-2528 โดยการระดมเงินจากประชาชนในรูปแบบการเล่นแชร์ที่นางชม้อยคิดค้นขึ้น มีผู้เสียหายรวม 16,231 คน ทำสัญญากู้ยืมทั้งสิ้น 27,160 ฉบับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,554,582,440 บาท จากความผิดทั้งหมด 27,160 กระทง ทำให้ต้องโทษจำคุกรวม 154,005 ปีค่ะ นอกจากนี้นางชม้อยและพวกต้องจ่ายเงินคืนผู้เสียหายทุกคนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี
แต่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (2) ที่แก้ไขแล้วให้จำคุกสูงสุดได้ไม่เกิน 20 ปี นางชม้อยจำคุกจริงในเรือนจำเป็นเวลาเกือบ 8 ปี เพราะได้ลดโทษ 2 ครั้ง และพ้นจากคุกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536

อันดับ 1 Gabriel March Grandos สัญชาติสเปน

(โทษจำคุก 384,912 ปี)

กาเบรียลเป็นบุรุษไปรษณีย์หนุ่มวัย 22 ปีที่ลืมส่งจดหมายกว่า 43,000 ฉบับในปี 1972 และเมื่อนำโทษของการไม่ส่งแต่ละฉบับมารวมกันทำให้เขาต้องโทษจำคุกมากถึง 384,912 ปี เคราะห์ดีที่ผู้พิพากษาเมตตาลดให้จำคุกจริงเพียง 14 ปีเท่านั้น เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ความผิดของกาเบรียลถือว่าเด็กที่สุดในอันดับนี้เลย