สุดช็อก เอมมี่ ข้อเท้าถูกใส่กำไล EM

จากกรณี น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมมี่ แม็กซิม อายุ 34 ปี ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง หลังตั้งวงแชร์ผ่านกลุ่มแอพพลิเคชันไลน์ พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนบนโลกออนไลน์ จนมีผู้หลงเชื่อถึง 80 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 28 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.61 กระทั่งวันที่ 1 พ.ย. เจ้าตัวเกิดความเครียดโพสต์คลิปร้องไห้ พร้อมตัดพ้ออยากฆ่าตัวเนื่องจากไม่มีเงินค่าประกันตัว ก่อนไปขอความช่วยเหลือจาก นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี น.ส.อมลวรรณ พร้อมด้วย นายภาคภูมิ นิติวีรวงศ์ ทนายความส่วนตัว เดินทางมายื่นเรื่องติดกําไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม และวางเงินค่าอุปกรณ์เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่คิดจะหลบหนี และพร้อมชดใช้ค่าเสียหายกับผู้เสียหายทั้งหมดหลังคดีเสร็จสิ้น

น.ส.อมลวรรณ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมาที่ศาลเพื่อติดต่อขอติดกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า ซึ่งตนเป็นผู้เสนอให้ศาลติดตั้ง โดยที่ศาลไม่ได้ออกคำสั่งแม้แต่อย่างใด เนื่องจากหาเงินประกันตัวไม่ทัน ทั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและวงเงินประกันในการประกันตัว ส่วนกรณีเรื่องขอความช่วยเหลือจากเสี่ยโป้นั้น โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนคิดว่าเสี่ยโป้จะเดินทางมาประกันตัวให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาตามที่นัดหมายกันไว้ ซึ่งเงื่อนไขการประกันตัวนั้นต้องใช้เงินสดหรือหลักทรัพย์ แต่ตนไม่มีทรัพย์สิน ทางทนายความจึงใช้ตำแหน่งในการค้ำประกันให้ นอกจากนี้ในวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดทางราชการจึงไม่สามารถดำเนินการเรื่องขอติดตั้งกำไลอีเอ็มได้ก่อนศาลนัดให้มาในวันนี้

น.ส.อมลวรรณ กล่าวต่อว่า เรื่องของคดีความขณะนี้ยังคงเหลืออีก 4 หมาย หากมีการประกันตัวได้ทุกครั้งก็จบสิ้น ทั้งนี้เงินประกันตัวทั้งหมดเป็นเงินที่ตนทำงานเก็บมาเพื่อทยอยคืนให้กับลูกแชร์ และผู้เสียหายที่ยังไม่ได้ฟ้องร้องตน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งตนต้องขอโทษไว้ก่อนเนื่องจากไม่คิดว่าเงินประกันตัวมีมูลค่าเยอะ และบ่อยครั้ง จึงเป็นเหตุให้ต้องนำเงินส่วนนั้นมาประกันตัวเพื่อออกมาทำงานหาเงิน

ภายหลังจากยื่นเรื่องการประกันตัวเสร็จสิ้นทุกคดี เอมมี่พร้อมจะชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกราย ถึงแม้เงินจะไปอยู่กับบุคคลที่โกงเอมมี่ไป ซึ่งยอมรับผิดชอบในฐานะที่เป็นเท้าแชร์ และไม่เคยคิดจะหลบหนี เวลาเอมมี่เดินทางไปไหนมาไหนก็เช็คอินอยู่เป็นประจำ

สำหรับการยื่นเรื่องขอติดกำไรอีเอ็มที่ข้อเท้านั้นเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเอมมี่ไม่มีเจตนาคิดจะหลบหนี หลังจากนี้อยากให้ผู้เสียหายทุกรายรอดำเนินเรื่องการประกันตัวให้เสร็จสิ้น ซึ่งเหลือเพียงแค่ 4 หมายเท่านั้น ก็จะได้ออกมาทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนกำไรอีเอ็มนั้นช่วงแรกคิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงานอย่างแน่นอน แต่มาเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และคงไม่นานก็ชินและผ่านไปได้ด้วยดี เอมมี่ กล่าว