หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำความรู้จัก โนโมโฟเบีย โรคใหม่สุดฮิตที่มากับยุคดิจิตอล

โพสท์โดย Most popular

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนกันทั่วทุกหนทุกแห่ง จนเกิดวลีเด็ด “สังคมก้มหน้า” ให้เราได้เห็นกันอย่างชินตา ซึ่งถ้าหากใครที่ติดโทรศัพท์มือถือมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรค โนโมโฟเบีย (Nomophobia) ซึ่งเป็นอาการที่กำลังถูกเสนอจัดให้เป็นโรคจิตเวชประเภทหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มวิตกกังวล

โนโมโฟเบีย (Nomophobia) มาจากคำว่า “no mobile phone phobia” เป็นศัพท์ที่หน่วยงายวิจัยทางการตลาดขนาดใหญ่ (YouGov) บัญญัติขึ้นเมื่อปี 2010 เพื่อใช้เรียกอาการที่เกิดจากความหวาดกลัว วิตกกังวลเมื่อขาดโทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อสื่อสาร

งานวิจัยที่เป็นที่มาของโรคนี้ได้ทำการศึกษาผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2,163 คนในสหราชอาณาจักรและพบว่า 53% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะเกิดอาการวิตกกังวลเมื่อพบว่าโทรศัพท์หาย แบตเตอรี่หมด หรืออยู่ในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อีกทั้งยังพบว่า 58% ของผู้ชาย และ 47% ของผู้หญิงที่ใช้โทรศัพท์มือถือมีอาการของ nomophobia และในจำนวนนี้มีถึง 9% ของกลุ่มที่ศึกษา ระบุว่ารู้สึกเครียดมากถ้าโทรศัพท์ของตนเองใช้การไม่ได้ และเมื่อให้ผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ระบุถึงระดับของ ความเครียดจากการขาดโทรศัพท์มือถือนั้น ความเครียดที่เกิดขึ้นเทียบเท่ากับความเครียดที่เกิดขึ้นก่อนวันแต่งงานหรือความเครียดระดับเดียวกับการไปพบทันตแพทย์เลยทีเดียว

อีกการศึกษาหนึ่งที่ทำในนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพเพศชาย 547 คน พบว่า 23% มีพฤติกรรมอยู่ในเกณฑ์ที่จะถูกวินิจฉัยได้ว่าเป็น nomophobia และมีอีก 64% ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการนี้ และที่น่าสนใจก็คือ 77% ของเด็กในกลุ่มที่ถูกทำการวิจัยเช็กโทรศัพท์มือถือของตนเองบ่อยมากโดยเฉลี่ย 35 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว

จากงานวิจัยที่ทำพบว่า โนโมโฟเบียพบ มากที่สุดในกลุ่มคนในช่วงอายุ 18-24 ปี โดยคิดเป็นร้อยละ 77 รองลงมาคือกลุ่มคนในช่วงอายุ 25-34 ปี และกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 55 ปีตามลำดับ ส่วนใครบ้างที่เข้าข่ายเป็นโรค โนโมโฟเบีย มีดังนี้

ขณะเดียวกัน โนโมโฟเบีย ยังส่งผลให้เสี่ยงต่อสารพัดโรค และอาการผิดปกติทางร่างกาย อย่างเช่น

นิ้วล็อก เกิดจากการใช้นิ้วมือกด จิ้ม เขย่า สไลด์ หน้าจอติดต่อกันนานเกินไป ทำให้มีอาการปวดข้อมือ ข้อมืออักเสบ เส้นเอ็นยึด เกิดพังพืด ถ้ารู้สึกว่ากำนิ้วมือแล้วเหยียดนิ้วไม่ได้นั่นคือสัญญาณเตือนว่าควรรีบไปพบแพทย์

อาการทางสายตา เกิดอาการสายตาล้า ตาพร่า ตาแห้ง จากการเพ่งสายตาจ้องหน้าจอเล็กๆ ที่มีแสงจ้านานเกินไป หรือเกิดอันตรายจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ (Blue Light) ที่ถ้าหากสัมผัสแสงนี้ไปนาน ๆ อาจส่งผลให้วุ้นในตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อมหรือตาบอดจาก Age macular degeneration (AMD) ได้

ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ เพราะในการใช้งานโทรศัพท์ คนส่วนใหญ่จะก้มหน้า ค้อมตัวลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่หดตัวผิดปกติ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หากเล่นนานๆ อาจมีอาการปวดศีรษะตามมา

หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ท่าทางการใช้โทรศัพท์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะการก้มหน้า อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถพยุงกระดูกได้ดี อีกทั้งการไม่ออกกำลังกายก็เป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้กระดูกบางหรือทรุด สองสาเหตุนี้ล้วนเป็นปัจจัยเสริมสำคัญที่ทำให้เกิดอาการโรคกระดูกต้นคอเสื่อม (C-Spine spondylosis)

โรคอ้วน แม้การใช้โทรศัพท์จะไม่ได้ทำให้เกิดโรคอ้วนโดยตรง แต่การนั่งเล่นโทรศัพท์ทั้งวันโดยแทบไม่ลุกเดินไปไหน ก็จัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคเรื่อรังอื่น ๆ ได้

เพื่อป้องกันโรคทั้งหลาย และไม่ปล่อยให้คุณเสพติดมือถือขนาดหนักอีกต่อไป ลองมาดูคำแนะนำดีๆ เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองกัน

หากมีอาการสามารถห่างจากโทรศัพท์มือถือได้ ควรปรึกษาจิตแพทย์ ทางการแพทย์อาจจะใช้วิธีการรักษาแบบ Cognitive Behavior Therapy (CBT) ที่นิยมใช้รักษาคนมีอาการวิตกกังวล และอาการกลัวในระดับต่างๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนแปลงความเชื่อเฉพาะตัว ทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระมากขึ้นเมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Most popular's profile


โพสท์โดย: Most popular
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ken 7
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มหากาพย์ทะเลไทย กัมพูชา และบทบาทลับของเวียดนามเผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68รวมภาพตลกเฮฮาขำขันประจำวันนี้ วันที่อากาศหนาวเย็นมากขึ้นในหลายพื้นที่ แต่บางพื้นที่ก็ยังมีฝนตกหนักน้ำท่วม รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยน๊าผู้ประสบภัย น้ำท่วมขังหาดใหญ่โพสต์ภาพบ้านผุพังไม่เหลืออะไรเลยวิธีสังเกตภาพ AI ที่บางคนยังไม่รู้ทีมเจ็ทสกีกู้ภัย เขต 8 เจอชาวบ้านหัวร้อนลั่นไกไล่หลังอีก 2 นัด และเรือท้องแบนถูกฟาดหัว ล่าสุดทีมกู้ภัยถอนตัวออกจากพื้นที่้เขต 8 ทั้งหมดแล้ว ไม่ปลอดภัยเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อพาร์ทเมนท์ในฮ่องกงนักร้องลูกทุ่งสาว ลิลลี่เครียดหนักตอนนี้บ้านที่หาดใหญ่น้ำท่วมหนักและสูงมากทนายธรรมราช เชื่อภัยพิบัติน้ำท่วมเกิดจากการที่คนไทยห่างจาก ทาน ศีล ภาวนา ลบหลู่ดูหมิ่น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์กรี๊ดสนั่น พ่ออุ้มลูกไปกำแพง พลาดตกน้ำนายกฯ ไม่ทิ้งประชาชน ประกาศปักหลักหาดใหญ่ ไม่บินกลับ จนกว่าน้ำท่วมจะคลี่คลายครบรอบ 22 ปี “มหาอุทกภัยหาดใหญ่ 2543” บทเรียนครั้งใหญ่ของเมืองลุ่มน้ำอู่ตะเภา ที่ยังสะท้อนถึงปัจจุบัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อพาร์ทเมนท์ในฮ่องกงทีมเจ็ทสกีกู้ภัย เขต 8 เจอชาวบ้านหัวร้อนลั่นไกไล่หลังอีก 2 นัด และเรือท้องแบนถูกฟาดหัว ล่าสุดทีมกู้ภัยถอนตัวออกจากพื้นที่้เขต 8 ทั้งหมดแล้ว ไม่ปลอดภัย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อพาร์ทเมนท์ในฮ่องกง"แนท เกศริน" บินด่วน ลุยน้ำท่วมช่วยพี่น้องหาดใหญ่“ยูโร” แจงดราม่าฉากจูบดูดดื่ม กับ “สน ยุกต์” กลางแฟนคอนผู้ประสบภัย น้ำท่วมขังหาดใหญ่โพสต์ภาพบ้านผุพังไม่เหลืออะไรเลย
ตั้งกระทู้ใหม่