ช่างทำผมหวิดซวย บ่าวสาวปรักปรำขโมยสินสอด อ้างวงจรปิดชัด สุดท้ายคดีพลิก

จากกรณีสาวช่างทำผมรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวว่า ตนเองโดนลูกค้ากล่าวหาว่าขโมยเงินสินสอด 1 แสนบาท หลังจากไปทำผมให้เจ้าสาวที่งานแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวอ้างว่าเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด มีหลักฐานมัดตัวแน่น และขู่ว่าพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ ส่วนเจ้าบ่าวเป็นทนายความ สุดท้ายเจ้าบ่าวโทรศัพท์มาบอกว่าเงินที่หายไปนั้นหาเจอแล้ว โดยหล่นอยู่ในบ้านตัวเอง

ล่าสุดวันที่ 17 ต.ค. 62 ที่บ้านห้วยกรวด ม.6 ต.มะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.ปธิญาภรณ์ ภูมิไชยา อายุ 25 ปี เจ้าของโพสต์ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุตนเองไปทำผมให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวตามปกติ หลังจากจบงาน เจ้าบ่าวโทรมาหาบอกว่าสินสอดหายไป ใครเอาไปอยากให้เอามาคืน เขาอ้างว่าพ่อเป็นตำรวจยศใหญ่ และโทรหาทุกคน เนื่องจากจุดนั้นไม่ได้มีแค่ช่างแต่งหน้า ยังมีญาติและเพื่อนอยู่ด้วย เจ้าบ่าว ยังบอกอีกว่าโทรไปหาทุกคนแล้ว และอ้างว่ามีกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่อยากเปิดกล้องดู ถ้าเอาเงินมาคืนจะไม่ติดใจเอาความ

ตนเองรู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่ได้เอาเงินไป ซึ่งวันรุ่งขึ้นเจ้าบ่าวโทรมาอีก บอกว่าดูในกล้องวงจรปิดแล้ว และเห็นตนเองเป็นคนเอาเงินไป หากไม่นำเงินมาคืน จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนจึงบอกว่า หนู่ไม่ได้เอาไป พี่จะทำอะไรก็ทำเลย ถ้ามีอะไร หนูขอฟ้องกลับนะ ยอมรับว่าช็อกเมื่อเจ้าบ่าวอ้างว่าตนเองโขมยเงินไป จึงโทรปรึกษาที่บ้าน แม่ก็ให้กำลังใจว่าถ้าเราไม่ได้เอาไปก็ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเราไปขอดูกล้องวงจรปิดกัน

วันต่อมา เจ้าบ่าวไปคุยกับช่างแต่งหน้าบอกว่าเจอเงินแล้ว ช่างแต่งหน้าจึงถามเจ้าบ่าวว่าถ้าเจอเงินแล้วไปปรักปรำช่างทำผมทำไม เจ้าบ่าวจึงบอกว่าจะโทรไปขอโทษ เย็นวันนั้นเจ้าบ่าวจึงโทรมาขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะปรักปรำ ส่วนเรื่องที่ตนเองโพสต์ ไม่ได้ประจานใคร แต่อยากเตือนเพื่อนร่วมอาชีพในวงการ เช่น ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม หรือช่างภาพ ที่ต้องมีการถ่ายภาพสินสอด ถ่ายภาพแหวนเพชรของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ต้องระวังตัวให้ดี และอยากบอกลูกค้าว่าในห้องแต่งตัวไม่ควรนำของมีมีค่าแบบนี้มาวางไว้ จะได้ไม่เกิดปัญหา จนเสียความรู้สึกต่อกัน ยอมรับว่าเมื่อเจอเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เสียกำลังใจ