วอนช่วย หนุ่มพิการติดเตียง เมียทิ้ง เหลือแต่แม่ตาบอด คอยเฝ้าดูแล
วันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 89/7 หมู่ 7 บ้านโนนปลาเข็ง ต.ภูเขาทอง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด หลังทราบว่ามีแม่ที่คอยเลี้ยงหลานและลูกชายพิการติดเตียง โดยได้พบกับ นางกัญญาวีร์ พันบุบผา อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งตาบอดด้านซ้ายมาแต่กำเนิด กำลังประคบประหงมคอยดูแลลูกชายพิการที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทราบชื่อ นายกิตติวินท์ พันบุบผา อายุ 24 ปี
นางกัญญาวีร์ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟังว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับ นายบัวสี พันบุบผา อายุ 53 ปี มีลูกสาวและลูกชายด้วยกัน 2 คน เดิมตนกับสามีก็ไปรับจ้างทั่วไปตามต่างจังหวัด ปล่อยให้ลูกสาวและลูกเขยเลี้ยงหลานอยู่บ้าน กับลูกชายคนเล็ก ต่อมาลูกชายได้ไปแต่งงานมีภรรยาอยู่ที่ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด
กระทั่งเช้าวันที่ 17 ม.ค. 2559 จำได้แม่น ตนและสามีได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายขับรถจักรยานยนต์แหกโค้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกไหปลาร้าหัก มีเลือดคั่งในสมอง รักษาตัวอยู่ รพ.ร้อยเอ็ด แพทย์ลงความเห็นว่ามีเลือดคั่งในก้านสมองส่วนลึก ไม่สามารถที่จะผ่าตัดได้ ลูกชายต้องเป็นคนพิการ หลังจากบาดแผลจากอุบัติเหตุดีขึ้นแล้ว จึงรับลูกออกมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ระหว่างนั้นมีคนบอกว่าหมอที่นั่นดีที่โน่นดี ตนและสามีก็จะพาลูกไปรักษา เผื่อว่าจะดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงนำที่ดินไปจำนองเอาเงินออกมาใช้จ่ายในการรักษาตัว แต่อาการไม่ดีขึ้น มิหนำซ้ำเงินที่กู้มาก็หมด ซ้ำร้ายกว่านั้นภรรยาของลูกชายได้หอบลูกที่มีด้วยกัน 1 คน กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ และไม่เคยกลับมาอีกเลย แต่จะมีทางญาติของภรรยาของลูกชายผ่านมาธุระใกล้บ้านก็จะแวะมาดูเป็นครั้งคราว ครอบครัวจึงตัดสินใจว่า มีทางเดียวที่จะอยู่ได้ คือให้สามีพร้อมกับลูกเขยและลูกสาวไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด ส่วนตนจะคอยดูแลเลี้ยงดูลูกชายพิการกับหลานสาวอีก 2 คนอายุ 11 ปีและ 4 ปี
"แต่ละวันต้องตื่นแต่เช้า มาเตรียมอาหาร อาบน้ำ แต่งตัวให้หลานสาว จากนั้นก็จะเช็ดตัวให้ลูกชาย ป้อนอาหารเหลว และทำกายภาพให้แล้วเสร็จ เวลา 08.00 น. ก็ขี่จักรยานยนต์ส่งหลานทั้งสองคนไปโรงเรียนระยะทาง 7 กิโลเมตร ปล่อยให้ลูกชายนอนอยู่เพียงลำพัง เสร็จแล้วกลับมาดูแลลูกชายต่อที่บ้าน ในตอนบ่ายก็เช็ดตัว ทำความสะอาด ทำกายภาพ ป้อนอาหารเหลว ให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 15.00 น. รีบขับรถปรับหลานสาวที่โรงเรียน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบในแต่ละวัน ส่วนกลางคืนก็ไม่ค่อยได้หลับนอนเต็มที่นักเพราะต้องคอยสังเกตอาการและดูดเสลดที่อุดตันในลำคอให้ลูก"
ส่วนค่าใช้จ่ายในครอบครัวแต่ละวันตกประมาณวันละ 400 บาท ทั้งค่ายา ค่าอาหาร ค่าสิ่งของเครื่องใช้สำหรับผู้พิการ เงินรายได้มาจากการทำงานของสามีและลูกที่ไปรับจ้างเป็นหลัก แต่ทางโน้นก็ภาระเรื่องค่าเช่าบ้าน ค่าอาหารการกิน ที่เหลือก็ส่งมาให้บ้าง แต่ไม่เพียงพอ นางกัญญาวีร์ บอกว่า ยินดีที่จะรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้สำหรับผู้บริการ หรือเป็นเงินก็ได้ โดยสามารถให้ความช่วยเหลือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 082-209-2160
วิธีสังเกตภาพ AI ที่บางคนยังไม่รู้
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”
มหาอุทกภัยภาคใต้-หาดใหญ่ จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเลือกตั้ง 69 อย่างแน่นอน
หดหู่พบขาข้างนึง ของผู้ประสบภัย ที่เสียชีวิต ลอยมากับน้ำ บริเวณถนนราษฏร์ซอย 3 หาดใหญ่
"กัมพูชา" อาการหนัก! เรียกร้องให้ประชาคมโลก แบนสินค้า "ไทย"
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
เรือกู้ภัยพลิกคว่ำ สู้กระแสน้ำไม่ไหว ลูกน้อยหลุดจากมือแม่ จมหายไปต่อหน้า
“ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้—เมื่อมนุษย์หนีน้ำได้ แต่สัตว์เลี้ยงกลับถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง”
"บิ๊กโจ๊ก" ฟ้อง "ผบ.ตร. บิ๊กต่าย" ผิด ม.157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ลั่น "ตั้งกรรมการสอบเพื่อกลั่นแกล้ง"
ข้อมูล สธ ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตนํ้าท่วมทะลุ 33 ศw บ่งบอกถึงรัฐบาลจัดการภัยพิบัติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
😠 ลองเข้ามาดูความคิดแปลก ๆ ของผู้คนที่ไม่ปล่อยให้เรื่องน่ารำคาญใจเป็นปัญหามากวนใจพวกเขาอีกต่อไป 😆
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68
เว็บเช็กรายชื่อผู้อพยพน้ำท่วมหาดใหญ่ รอดปลอดภัยแล้ว
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”
ข้อมูล สธ ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตนํ้าท่วมทะลุ 33 ศw บ่งบอกถึงรัฐบาลจัดการภัยพิบัติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
เขมรไม่ส่งนักกีฬามา "ซีเกมส์" ที่ไทย..อ้างเสียศักดิ์ศรีและไม่มีความปลอดภัย
เว็บเช็กรายชื่อผู้อพยพน้ำท่วมหาดใหญ่ รอดปลอดภัยแล้ว
เพจดังเผยภาพมุมสูง หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้น้ำจะลงไปบ้าง แต่หลายพื้นที่ยังหนัก
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”
ข้อมูล สธ ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตนํ้าท่วมทะลุ 33 ศw บ่งบอกถึงรัฐบาลจัดการภัยพิบัติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง


