ชีวิตสุดดราม่า "จิมมี ไล" ผู้ถูกประณามว่าเป็น "คนขายชาติ" ร่วมมือสหรัฐฯเบื้องหลังม็อบฮ่องกง
เป็นข่าวที่คนทั้งโลกกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับ "ม็อบฮ่องกง" ที่ยื้ดเยื้อและลุกลามไปสู่การต่อต้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ สงสัยกันว่า ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง ... โดยสื่อทางการของจีน เปิดหน้าระบุว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง คือ "จิมมี่ ไล" หรือ "หลี่จื้ออิง" พร้อมกับคำประณามว่าเป็น "คนขายชาติแซ่หลี่"
"จิมมี่ ไล" เป็นเจ้าของบริษัท เน็กซ์ มีเดีย ซึ่งมีสื่อชื่อดังอย่าง นิตยสาร Next Magazine และหนังสือพิมพ์ Apple Dailyในฮ่องกง และไต้หวัน มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐ ... เขายังเป็นผู้ก่อตั้งเสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลกของฮ่องกง "จิออดาร์โน" อีกด้วย
CCTVเผยแพร่คลิปเจ้าพ่อสื่อ "จิมมี่ ไล" เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่มีผู้ประท้วงเขาว่า เป็นคนขายชาติดังกล่าว ด้วยมีหลักฐานว่า เขาเชื่อมโยงสหรัฐฯ ที่น่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงที่ฮ่องกงต่อต้านรัฐบาลจีน ... หลักฐานที่ว่า จีนได้จับเอาคำพูดที่ของ"จิมมี่ ไล" ที่ว่า "เราต้องรู้ว่าอเมริกานั้นอยู่ข้างหลังเรา คือการสู้รบในสงครามเดียวกับที่คุณกำลังสู่กับจีน เราอยู่ข้างคุณ (อเมริกา) สละชีวิตของเรา เสรีภาพของเรา และทุกสิ่งที่เรามี สู้ในสงครามนี้ยืนอยู่แนวหน้าเพื่อคุณ แล้วคุณล่ะ ควรสนับสนุนเราหรือเปล่า ? "
คำพูดนี้ "จิมมี่ ไล" กล่าวบนเวทีของมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย (FDD)กลุ่ม Think Tank ในวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ว่ากันว่า เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงรายนี้เป็นคนปากกล้า มีบทบาทมากในการประสานงานการประท้วงต่อต้านทั้งในฮ่องกง และไต้หวัน โดย "แอปเปิ้ล เดลี่" เสนอข่าวไปทางเดียวกับผู้ประท้วง และในอดีตเขาก็ถูกมองว่าเป็นสายลับบ้าง ซีไอเอ บ้าง เพราะฝักไฝ่สหรัฐฯ อย่างออกนอกหน้ามาแต่ไหนแต่ไร
เมื่อเดือนกรกฎาคม มีรายงานว่า "จิมมี่ ไล" เคยพบกับ "ไมค์ เพนซ์" รองประธานาธิปบดีสหรัฐฯ และ "มาร์ก พอมพีโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯด้วย ซึ่งตอกย้ำว่า เจ้าพ่อสื่อคนนี้เป็นคนพิเศษของสหรัฐฯ เพียงใด...
จริงๆ แล้ว "จิมมี่ ไล" เกิดในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กวางโจว เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง หลังจากที่เขาเกิดได้เพียงปีเดียว พรรคคอมมิวนิสต์ ก็ขึ้นมามีอำนาจ ทรัพย์สินของตระกูล ถูกยึดไปหมด บิดาของ"ไล" เล็ดลอดหนีออกจากประเทศ ปล่อยให้ครอบครัวตกระกำลำบาก เขาต้องทำงานเลี้ยงชีพตั้งแต่อายุยังน้อย ... เมื่ออายุ 9 ขวบ
"ไล"ไปช่วยยกระเป๋าให้นักเดินทางตามอาชีพ และได้ลิ้มรสช็อกโกแลต ที่เป็นรางวัลตอบแทนค่าเแรงเป็นครั้งแรก เขาประทับใจกับช็อกโกแลตมาก ถึงกับตั้งปณิธานว่า จะไปฮ่องกงเมื่อได้รู้ว่า ช็อกโกแลต นั้นมาจากที่ไหน
เมื่อเขาอายุ 12 "ไล" ก็ขอความช่วยเหลือจากญาติ จนได้รับใบอนุญาตเดินทางไปมาเก๊า จากมาเก๊า เขาเล็ดลอดออกไปยังเขตปกครองของอังกฤษ ด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องเรือประมง เมื่อถึงฮ่องกง เขาก็เริ่มต้นทำงานในโรงงานผลิตถุงมือ เป็นคนกวาดพื้น ในช่วงนี้"ไล" ได้คลุกคลีอยู่กับบรรดาคนงาน ซึ่งต่อมาเป็นเจ้าพ่อใหญ่อยู่ฮ่องกง
เมื่ออายุ 20 ปี "จิมมี่ ไล" เริ่มฝึกภาษาอังกฤษ และเริ่มหุ้นกับเพื่อน เอาเงินออม 2,000 ดอลลาร์ ไปเล่นหุ้น ได้กำไรมาเป็นกอบเป็นกำ ถึง 150,000 ดอลลาร์ แล้วนำมาลงทุนซื้อโรงงานทอผ้า แล้วก่อตั้ง บริษัทโฮลดิ้งคอมปะนี ในเวลาต่อมา... "ไล" ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีจากคนข้างถนน มาเป็นเศรษฐี 300 ล้านดอลลาร์(ราว 9.4 พันล้านบาท)
ความสำเร็จของ "จิมมี่ ไล" เป็นเรื่องเหลือเชื่อ คำเล่าลือเกี่ยวกับตัวเขา จึงมีออกมาต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเขาเป็นสายของคอมมิวนิสต์ ที่ส่งเข้ามาแทรกซึมในแวดวงธุรกิจหัวกระทิของฮ่องกง บ้างก็ว่าเขาทำงานให้กับ ซีไอเอ สำหรับ "จิมมี่ ไล" เอง เขามองตัวเองว่าเป็น "นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของฮ่องกง"
หลังปี พ.ศ. 2540 เมื่อการปกครองฮ่องกง ถูกโอนคืนกลับไปให้จีนแผ่นดินใหญ่ ตามสัญญาเช่าเมื่อ 99 ปี แต่ "จิมมี่ ไล" ก็ยังหวังว่า หากคนในฮ่องกงยืนหยัดจริงๆ แล้ว ก็อาจจะทำให้ฮ่องกง เป็นเกาะที่มีการปกครองของตนเองได้ มิใช่อยู่ใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดๆ
ความหวังของ"จิมมี่ ไล" ที่จะให้คนฮ่องกงร่วมยืนหยัดต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระ ในการปกครองตนเอง เป็นเรื่องที่ไม่มีใครมองเห็นอนาคต แม้แต่ตัวเขาเอง ก็เตรียมความพร้อมที่จะอพยพครอบครัวไปอยู่อังกฤษ หากว่า "แอปเปิล เดลี่" และกลุ่มธุรกิจสิ่งพิมพ์ของเขา มีอันเป็นไป... ว่ากันว่า "จิมมี่ ไล" นอกจากเตรียมพร้อมไปอังกฤษตลอดเวลา หากไม่ใช่อังกฤษ ยังมีที่ที่เขาลงทุนไว้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง ในแคนาดา และฝรั่งเศส
"จิมมี่ ไล" ไม่เคยเปรียบตัวเองว่าเป็น "เดวิด" ที่จะหาญสู้กับ"โกโลแอ็ท ปักกิ่ง" ทั้งยังไม่เคยมีใครเปรียบเขาว่าเป็น "ดอนกิโฮเต้" ผู้สถาปนาตัวเองเป็นอัศวินที่จะสร้างความเป็นธรรมให้แก่โลกฮ่องกง
"จิมมี่ ไล" เป็นตัวแปรหนึ่งที่ถูกจับตามองจากทางการจีนมาตลอด ... วันนี้เรื่องราวของเขาย้อนกลับมาอีกครั้งในนาม "คนขายชาติแซ่หลี่"
ชมคลิป
แหล่งที่มา: http://www.liekr.com/
“ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้—เมื่อมนุษย์หนีน้ำได้ แต่สัตว์เลี้ยงกลับถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง”
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68
เรือกู้ภัยพลิกคว่ำ สู้กระแสน้ำไม่ไหว ลูกน้อยหลุดจากมือแม่ จมหายไปต่อหน้า
เขมรไม่ส่งนักกีฬามา "ซีเกมส์" ที่ไทย..อ้างเสียศักดิ์ศรีและไม่มีความปลอดภัย
ชาวบ้านงงงวย หลังเห็นลิงนับร้อย แห่วิ่งลงจากภูเขา
วิธีสังเกตภาพ AI ที่บางคนยังไม่รู้
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
"กัมพูชา" อาการหนัก! เรียกร้องให้ประชาคมโลก แบนสินค้า "ไทย"
10 เลขฮิต "หวยใบแดง" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 68 มาแล้ว!..คอหวยห้ามพลาด!!
หดหู่พบขาข้างนึง ของผู้ประสบภัย ที่เสียชีวิต ลอยมากับน้ำ บริเวณถนนราษฏร์ซอย 3 หาดใหญ่
มหาอุทกภัยภาคใต้-หาดใหญ่ จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเลือกตั้ง 69 อย่างแน่นอน
จ๋าย ไททศมิตร” โพสต์แทงใจ ขอเห็นเป็นบุญตา รัฐบาลที่ประชาชนไม่ต้องพึ่งกันเอง
เรือกู้ภัยพลิกคว่ำ สู้กระแสน้ำไม่ไหว ลูกน้อยหลุดจากมือแม่ จมหายไปต่อหน้า
สาวจีนเตะนักดับเพลิงญี่ปุ่นร่วงบันได ขณะพยายามช่วยเธอจากเหตุไฟไหม้
เขมรไม่ส่งนักกีฬามา "ซีเกมส์" ที่ไทย..อ้างเสียศักดิ์ศรีและไม่มีความปลอดภัย
“ผู้เผชิญภัยที่พูดไม่ได้—เมื่อมนุษย์หนีน้ำได้ แต่สัตว์เลี้ยงกลับถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง”
เพจดังเผยภาพมุมสูง หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้น้ำจะลงไปบ้าง แต่หลายพื้นที่ยังหนัก
โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ยัน แจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่ประชาชนกลับ “ไม่ยอมอพยพ ถามกลับว่า “แบบนี้เรียกว่ารัฐบาลช้าหรือไม่”
ข้อมูล สธ ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตนํ้าท่วมทะลุ 33 ศพ บ่งบอกถึงรัฐบาลจัดการภัยพิบัติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
"บิ๊กโจ๊ก" ฟ้อง "ผบ.ตร. บิ๊กต่าย" ผิด ม.157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ลั่น "ตั้งกรรมการสอบเพื่อกลั่นแกล้ง"





