ท่านสิ้นแล้ว “หลวงปู่แสน” เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย ละสังขารอย่างสงบ อายุกว่าร้อยปี
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่วัดบ้านหนองจิก หมู่ 2 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายเสาร์ คุ้มครอง ซึ่งเป็นลูกชายและเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงปู่แสน ปสันโน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ และภาคอีสานเผยว่า หลวงปู่แสน ปสันโน เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ได้ละสังขารอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. ที่กุฏิภายในวัดบ้านหนองจิก ท่ามกลางความเสียใจของลูกหลาน ญาติพี่น้องและลูกศิษย์ ที่มาคอยเฝ้าดูแลอาการของหลวงปู่
โดยก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสนมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะที่ 2 และป่วยด้วยโรคหัวใจ กระเพาะลำไส้ ปอดติดเชื้อ ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องและคณะศิษย์ได้นำหลวงปู่ไปเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ ร.พ.กันทรลักษ์ และ ร.พ.ศรีสะเกษมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว ล่าสุดได้เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกสงฆ์อาพาธ ร.พ.ศรีสะเกษ ซึ่งแพทย์พยาบาลได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่
โดยแพทย์ต้องทำการดูดเสมหะที่เหนียวออกมา แต่ดูดได้น้อยมาก และไม่สามารถดูดเสลดออกมาได้หมด เนื่องจากว่า หลวงปู่อายุมากแล้วและร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนัก และเมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ หลวงปู่มีอาการทรุดหนักมาก หลวงปู่ได้แจ้งให้ตนและญาติพี่น้องทราบว่า จะกลับไปละสังขารที่วัดบ้านหนองจิก และให้ตนนำหลวงปู่กลับมาที่วัดบ้านหนองจิก
หลังจากนำตัวหลวงปู่กลับมาถึงกุฏิวัดบ้านหนองจิกเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. หลวงปู่ยังไม่ละสังขาร แต่ว่าได้รอลูกศิษย์ ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ที่กำลังเดินทางมาหาหลวงปู่ ซึ่งเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 22.24 น. ซึ่งลูกศิษย์และลูกหลานญาติพี่น้องต่างพากันร่ำไห้ด้วยความอาลัยหลวงปู่ ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาให้กับลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนทั่วไปมาโดยตลอด
สำหรับกำหนดการพิธีการทำบุญสรีระสังขารของหลวงปู่นั้น ขณะนี้ได้แจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงสรงน้ำสรีระสังขารของหลวงปู่ เป็นการเบื้องต้นไว้ก่อนแล้ว โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะจัดพิธีสรงน้ำวันใด เมื่อได้รับพระราชทานน้ำหลวงมาแล้วจึงจะกำหนดวันเวลารวมทั้งกำหนดการประกอบพิธีต่าง ๆ ด้วย ซึ่งจะต้องรอนำไปกราบหารือกับพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมจัดพิธีทางศาสนาต่อไป
สำหรับประวัติของหลวงปู่แสนนั้น ชื่อเดิมชื่อแสน นามสกุล คุ้มครอง เกิดเมื่อขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะแม ตรงกับวันศุกร์ ที่ 11 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องร่วมมารดา รวม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 2 ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ ปัจจุบันคือ ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
เมื่อครั้งยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู และได้บวชเณรให้หลวงปู่แสนที่วัดบ้านโพง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2471 อายุ 21 ปี ได้เข้าบรรพชาอุปสมบท ที่วัดบ้านโพง ได้นิมนต์ หลวงพ่อมุม อินทปญโญ วัดปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นพระกรรมมาวาจาจารย์ ส่วนพระอุปปัชชาคือหลวงพ่อบุญมา ซึ่งอาจารย์ของหลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอเหนือ และระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุม อย่างต่อเนื่อง
หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดความรู้วิชาอาคมต่าง ๆ จากพระอาจารย์จนมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐานฝึกจิตให้กล้าแข็งมีสมาธิอันแน่วแน่ เพื่อเป็นพลังสื่อนำมาประกอบการใช้คาถาอาคม หลวงพ่อได้เอาใจใส่ฝึกฝนกับพระอาจารย์เจนจัดเชี่ยวชาญ จนกระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน แต่ หลังจากสึกเป็นฆราวาสแล้ว ท่านได้บวชเป็นหมอธรรม บวชกับคุณพ่อธัมญา บ้านหนองหญ้าปล้อง เป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อรักษาคน ปฏิบัติธรรม ช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย
ขณะที่เป็นฆราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปกัมพูชาเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง จ.เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคารมเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน
ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ได้กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตอนอายุ 90 ปี บวชที่วัดกุดเสลา ซึ่งมีเจ้าคณะตำบลเป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านบวชเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสลาจึงรักและศรัทธาท่านมาก เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปี ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น
วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้ และท่านก็กลับมาพัฒนาวัดบ้านหนองจิก ดั่งเช่นทุกวัด ปัจจุบันท่านอายุ 112 ปี
วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ท่านได้รับความนิยม อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นที่นิยม แสนนิยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แหล่งที่มา: Cr.Pracha manu
วิธีสังเกตภาพ AI ที่บางคนยังไม่รู้
เปิดรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 9 คนจังหวัดสงขลาหลังประชาชน ถามหาว่ามีใครบ้าง
"กัมพูชา" อาการหนัก! เรียกร้องให้ประชาคมโลก แบนสินค้า "ไทย"
เผยสาเหตุทำไมหาดใหญ่ ถึงเป็นจุดรวมน้ำทั่วสารทิศ
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ผัดหอยลายบางทีหอยลายบางตัวก็มีโคลน ควรมีถ้วยแยกแกะเนื้อหอยลายต่างหากเอาไว้เสมอ ขอบคุณมากครับ
สายมัทฉะห้ามพลาด! คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นย่านรามคำแหง เสิร์ฟมัทฉะเข้มข้น หอมกลมกล่อมทุกแก้ว
มหาอุทกภัยภาคใต้-หาดใหญ่ จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเลือกตั้ง 69 อย่างแน่นอน
เขมรไม่ส่งนักกีฬามา "ซีเกมส์" ที่ไทย..อ้างเสียศักดิ์ศรีและไม่มีความปลอดภัย
ศาลให้ประกันตัวชั่วคราว วงเงิน 3 แสน ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ในคดีฉ้อโกง-หลอกร่วมลงทุน รอดนอนคุก
ผู้สูงอายุญี่ปุ่นเกือบดับ หลังใช้ AI ระบุว่าเห็ดในป่ามีพิษหรือไม่
มหากาพย์ทะเลไทย กัมพูชา และบทบาทลับของเวียดนาม
ไฟไหม้ชุมชนแออัดในบังกลาเทศ ทำให้ประชาชนหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย
"กัมพูชา" อาการหนัก! เรียกร้องให้ประชาคมโลก แบนสินค้า "ไทย"
มหาอุทกภัยภาคใต้-หาดใหญ่ จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเลือกตั้ง 69 อย่างแน่นอน
สายมัทฉะห้ามพลาด! คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นย่านรามคำแหง เสิร์ฟมัทฉะเข้มข้น หอมกลมกล่อมทุกแก้ว
😠 ลองเข้ามาดูความคิดแปลก ๆ ของผู้คนที่ไม่ปล่อยให้เรื่องน่ารำคาญใจเป็นปัญหามากวนใจพวกเขาอีกต่อไป 😆
“ใหม่ ดาวิกา โอนเงิน 100,000 บาทช่วยน้ำท่วม สะท้อนพลังคำว่า ‘คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ที่ยังงดงามเสมอ”







