พื้นที่ 1 ไร่ ทำแบบไหน ถึงจะมีรายได้ มั่นคงยั่งยืนตลอดปี

อีกหนึ่งบทความดีๆ ที่ให้แง่คิดการใช้พื้นที่ดิน 1 ไร่ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด อาจจะไม่มากสำหรับการทำเกษตร แต่ว่า หากจัดสรรให้ดี และถูกต้อง ก็สามารถทำรายได้ เป็นอย่างดี เช่นกัน โดยขอยกตัวอย่าง ในพื้นที่ 1 ไร่ จะประกอบไปด้วยพื้นที่ 4 งาน ให้แบ่งเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 และ2 งาน สำหรับบ่อน้ำ และที่อยู่อาศัย

ส่วนที่ 3 สำหรับ การเพาะปลูก โดยการปลูกพืช 3 ระยะ ได้แก่ 1.ระยะสั้น 2.ระยะยาว และ 3.ระยะกลาง

โดยที่กล่าวมาข้างต้น จะสามารถสร้างรายได้ ในพื้นที่ 1 ไร่ ได้อย่างไร ไปดูกัน

ปลูกพืช ระยะสั้น

ควรมีการออกแบบการปลูกพืช และวางแผนการปลูก โดยเลือกพืชที่เหมาะสม และมีราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาดด้วย โดยเน้นการใช้พื้นที่ทุกสัดส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง เห็ดนางฟ้า ผักคื่นฉ่าย ผักกาดหอม หรือผักสลัด เป็นต้น

โดยรายได้ส่วนนี้ จะเป็การปลูกเพื่อเป็นรายรับรายได้ เน้นใช้จ่ายในครัวเรือน เหลือจากส่วนนี้ค่อยเก็บ

ปลูกพืช ระยะกลาง

เป็นการปลูกไม้ผล หรือ พืชผล ซึ่งพืชเหล่านี้ใช้เวลาค่อนข้างนานในการปลูก แต่คุ้มค่าเมื่อต้นไม้โตขึ้น โดยการปลูกครั้งเดียวแต่เก็บผลผลิตได้ตลอดปี เช่น มะนาว มะพร้าว มะละกอ กล้วย มะม่วง เป็นต้น

โดยรายได้ ของการปลูกพืช ระยะกลาง จะเน้นเป็นเงินออม ชำระหนี้ หรือ เป็นทุนในการซื้ออุปกรณ์การเกษตรต่างเพื่อใช้ในสวนของเรา เป็นต้น

การปลูกพืช ระยะยาว

การปลูกพืช ระยะยาวการปลูกพืชชนิดนี้ เช่นไม้เศรษฐกิจ เช่น สักทอง ย างนา ไม้เต็ง ไม้แดง หรือไม้ประดู่ เป็นต้น โดยปลูกตาม แนวเขตแดน ปลูกเป็นรั้ว ถ้าคิดตามความยาวในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีความยาวประมาณ 160 เมตร ถ้าเราปลูกในระยะ 2 เมตร/ต้น ก็จะได้ไม้เศรษฐกิจ 80 ต้น นั่นเอง และอาจจะปลูก ปลูกมะละกอ หรือพืชชนิดอื่นๆ แซม ระหว่างกลางได้

ข้อดีของการปลูกพืช ในพื้นที่น้อย

1.ดูแลง่ายและทั่วถึง

2.ไม่ต้องจ้างคนงานมาก

3.เป็นการปลูกพืชแบบผสมผสาน

4.เริ่มต้นแบบเล็กๆ เมื่อได้รับผลตอบแทนที่ดี ค่อยต่อยอดเพิ่มเติม

แต่ทั้งนี้เกษตรกร ควรต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย ไม่ใช้จ่ายเกินตัวด้วย เช่นกัน