ตาโป่งดีใจมาก! ชายชราวัย 85 ปี เพิ่งมีบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมได้รับสิทธิสวัสดิการผู้สูงอายุ

นายสุเมธ ศศิธร นายกเทศมนตรีเมืองสะเดา บอกว่านายช้อยฯ หรือตาโป่ง ได้รับการอนุมัติเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร จากนายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากรอขั้นตอนผลการตรวจ ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม DNA  กับน้องสาวคือนางยินม่วย แซ่เตียว โดยโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ( มอ. ) ซึ่งหน่วยนิติเวชศาสตร์ ภาควิทยาพยาธิ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ( มอ. ) รายงานผลมาว่า มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ( พี่น้อง ) จริง

โดยทางเทศบาลเมืองสะเดา ได้ดำเนินการออกบัตรประจำตัวประชาชน และจัดมอบให้นายช้วนฯ หรือตาโป่งในวันนี้ พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามสิทธิสวัสดิการผู้สูงอายุ และมอบอุปกรณ์ยังชีพเบื้องต้นให้แก่ตาโป่ง จากตัวแทน อ.สะเดา กิ่งกาชาด อ.สะเดา  เทศบาลเมืองสะเดา เป็นต้น ส่วนในการช่วยเหลือตามสิทธิอื่นๆนอกจากนี้ ก็จะดำเนินการต่อไป สำหรับตาโป่ง ชีวิตในวัยเด็กต้องย้ายที่อยู่ตามครอบครัวบ่อยครั้ง ไม่ได้แจ้งเกิด และไม่ได้ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน

และอาศัยรับจ้างกรีดยางพาราเลี้ยงชีพเรื่อยมา จนอายุมากขึ้นได้อาศัยอยู่ที่กระท่อมไม่มีเลขที่ ซ.รุ่งเรือง ชุมชนบ้านไพร เขตเทศบาลเมืองสะเดา ซึ่งเป็นที่ดินของนางจี๊ด ( อาชีพขายผลไม้ ) ในตลาดเทศบาลเมืองสะเดา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งตาโป่งได้เลี้ยงสุนัขจรจัดประมาณ 30 ตัว ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีรายได้ อาศัยเก็บเศษอาหารจากตลาดเทศบาลเมืองสะเดา มาเลี้ยง

จนมีกลุ่มจิตอาสาฯ ทราบข่าวจึงช่วยกันมาบริจาคสิ่งของอุปโภค บริโภค บริจาคเงินช่วยเหลือ พร้อมทั้งช่วยกันขุดบ่อน้ำ และเผยแพร่เรื่องราวสู่โลกโซเชี่ยล และสื่อต่างๆจนหน่วยงานทั้งราชการ และเอกชนยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับสิทธิ์ต่างๆ จากราชการเท่าที่ควร

เนื่องจากตาโป่งไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน หลังจากนายอำเภอสะเดาทราบข่าว จึงได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งตาโป่งได้รับบัตรประจำตัวประชาชนในวันนี้ ด้วยวัย 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 / 8 ถนนกาญจนวณิชย์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งลุงโป่งบอกว่ารู้สึกดีใจมาก ต่อไปก็มีสิทธิต่างๆเหมือนคนอื่นๆ พร้อมทั้งหยิบบัตรประจำตัวประชาชน โชว์ผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้าที่มีความสุข