เลื่อนอ่านคำพิพากษา'บังฟัต'คดีฆ่ายกครัวไปเป็นวันที่ 9 ก.ค.

วันนี้ 4 มิถุนายน ซึ่งแต่เดิมเป็นกำหนดการอ่านคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ แต่นายเกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความของ "บังฟัต"และพวก 6 คนซึ่งอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ได้เดินทางมาที่ศาลกระบี่ในวันนี้ จึงเลื่อนเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม ส่วนนายจรีย์ บุตรเติบ อายุ 58 ปี พ่อตาของผู้ใหญ่บัติ ทนายความและญาติทางฝั่งผู้เสียหายได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกระบี่ ตามนัดศาลอุทธรณ์ภาค 8 แล้ว ส่วนตัว ตนยังเชื่อว่าศาลอุทรณ์มีความยุติธรรมและจะยืนคำตัดสินตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิตเท่านั้น เพราะถึงแม้จะผ่านมา 2 ปีแล้วแต่ยังทำใจไม่ได้ และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุด

ทางด้านนายเกรียงศักดิ์ ทนายความของบังฟัตกล่าวว่า ขณะนี้กำลังปรึกษากับลูกความว่าจะเอายังไงต่อดี ส่วนบังฟัตอยู่ในเรือนจำ สุขภาพจิตดี เริ่มทำใจได้กับโทษที่ได้รับ ส่วนจำเลยอีก 2 คน คือ นางชลิดา สังข์โชติ ภรรยาบังฟัต รับโทษจำคุก 12 เดือน และนายธวัชชัย บุญคง จำคุก 1 ปี 9 เดือน ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาแล้ว

คดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมนายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวรวม 8 ศพ เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 คนร้านใส่ชุดลายพรางบุกเข้าบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน 

สาเหตุก็เกิดจากความแค้นเรื่องที่ดิน ที่ผู้ใหญ่ไปจำนองกับคนร้ายระหว่างปี 2552-2554 เป็นเงินล้านกว่าบาท เจ้าของโฉนดเป็นชื่อของภรรยา ต่อมาผู้ใหญ่บัติได้รับแจ้งจากธนาคาร ว่ากำลังหลุดจำนองจึงเอาเงินไปไถ่ถอนคืน บังฟัตกลับไม่ยอมคืนโฉนดให้

"เมื่อเอาเงินไปไถ่ถอนเรียบร้อย แทนที่จะคืนใบโฉนดให้แก่กัน ก็กลับไม่ดำเนินการ จนกลายเป็นความแค้นฝังใจ ถึงขั้นขู่ฆ่าล้างโคตรกันไปมา นำมาสู่การฆ่าล้างโคตร"

บังฟัตจึงจ้างลูกน้อง 6 คน คนละ 1000 บาท สวมชุดลายพรางเพื่อความสะดวกและหลีกเลี่ยงการโดนด่านตรวจ สวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้าตาป้องกันไม่ให้คนในบ้านจำหน้าได้ ให้ลูกน้องเรียกตัวเองว่า “ผู้พัน” ขณะที่ลูกน้องที่ก่อเหตุก็เรียกกันว่า “จ่า” และ “ผู้กอง” เมื่อเข้าไปบ้านเป็นเวลานานทำให้บุคคลที่สามารถเป็น "พยาน" ในขณะนั้นจำหน้าได้ ประกอบกับผู้ใหญ่บัติเอ่ยชื่อ “โทริ” ซึ่งเป็นฉายาของบังฟัต สมัยเป็นนักมวยใช้ชื่อ “โทริจรวดเล็ก ศักดิ์พรน้อย” จึงรู้ว่าผู้ใหญ่จำตัวเองได้ ใช้ปืน .38 ของผู้ใหญ่บัติลั่นไกทีละคนอย่างโหดเหี้ยม ก่อนนำเอาฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิดในบ้านไปด้วย รถยาริสที่ใช้ก่อเหตุนำไปจอดที่บ้านน้องภรรยา จ.นครศรีธรรมราช ก่อนนั่งรถตู้ไปกบดานที่ภูเก็ต

คดีใหญ่สะเทือนขวัญนี้ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงใต้มาคุมคดีด้วยตนเอง และจับผู้ร้ายได้ภายในเวลา 5 วัน ตำรวจสามารถจับกุมนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต ร่วมกับพวกรวม 8 คน ศาลจังหวัดกระบี่พิพากษาสั่งประหารชีวิตบังฟัตพร้อมพวก 6 คน ขณะที่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คดี

(ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบข่าวนะคะ เป็นคดีสะเทือนใจ ไม่อยากลงรูปผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ค่ะ)