โอกาสทองของไทยมาถึงแล้ว!ส่งออกไปสหรัฐแทนที่จีน แต่จะทำได้ไหม?

หมายเหตุ เป็นมุมมองความคิดเห็นของสำนักข่าวต่างประเทศที่แปลมา ผู้เขียนไม่ได้ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไปแต่ประการใด

ดูเหมือนว่าไทยเราพร้อมแทนที่จีนในการส่งออกผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นส่วนประกอบสินค้าของสหรัฐ เช่น ส่วนประกอบรถยนต์ และ ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว แต่ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองภายในที่ยังไม่พร้อมนั้น อาจทำให้โอกาสทองหลุดหายไปจากมือได้

เมื่อมีรัฐบาลใหม่ แผนการลงทุนประจำปีก็จะถูกเลื่อนออกไป รวมทั้งอาจพลาดสัญญาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์กลางการผลิตและโลจิสติกส์ในบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกได้ เนื่องจากจะหมดวาระภายในเดือนพฤษภาคมนี้

มาดูโอกาสที่สหรัฐนำเข้าสินเค้าจากเราบ้าง ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ได้แก่ ยางพารา โดยเฉพาะ ยางรถยนต์ ท่อ ตัวยึด สายพาน เสื่อพรม เครื่องมือช่าง กันชนกันกระแทก และถุงมือยาง

ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 สหรัฐนำเข้าจากไทย 21% เพราะเปลี่ยนมาใช้บริการซัพพลายเออร์จากไทยแทนจีน หลังจากมีการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีน 10% ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว (ผลิตภัณฑ์ยางและยานยนต์)

และในเดือนพฤษภาคมนี้ มีอัตราการนำเข้าจากไทยสูงถึง 25% ประเทศไทยควรจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ค้ารายใหม่ให้สหรัฐ ล้มแชมป์เจ้าเก่าอย่าง"จีน" ที่ครองแชมป์อันดับ 1 กับสหรัฐเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ

แต่อย่างไรก็ตาม ไทยต้องเฝ้าระวังบ้าง เพราะเวียดนามเองก็มีอัตราการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปสหรัฐมากขึ้นเป็นอันดับ 5 ซึ่งในปี 2543 มีสัดส่วนส่งออกแค่ 6% เท่านั้นเทียบกับบ้านเรา และอินเดียก็กำลังตีคู่เข้ามาอีก 

เมื่อมีการแข่งขันขนาดนี้ ไทยเราก็น่าเป็นห่วงแล้วล่ะ สภาพสังคมที่ยังไม่เรียบร้อย ค่าเงินเริ่มคงที่เป็นที่หลบภัยของนักเล่นหุ้นเหมือนเงินสกุลเยนของญี่ปุ่น การเมืองที่ยังยุ่งเหยิง และไทยหยุดชะงักอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางมาเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การแข่งขันไม่เพียงพอ 

โดยภาพรวมการส่งออกของไทยไปจีน น้อยกว่าที่คาดไว้ 2.6 % ต่อเนื่องกันมาเป็นเดือนที่สองแล้ว จีนเคยเป็นที่ 1 ที่ไทยส่งสินค้าออกไปให้ ก็ชะงักการเติบโตมาตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว ดังนั้น การขยายตลาดไปหาสหรัฐจึงเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก

แต่ถึงแม้จะมีการเจรจาต่อรองยืดเยื้อในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยที่มีทักษิณเป็นผู้เกี่ยวข้องก็จะกลับเข้ามามีอิทธิพลในรัฐสภาอีกครั้ง วาระทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลทหารที่มีโอกาสปกครองประเทศก่อนหน้านี้ ก็จะเป็นวาระหลักของการบริหารครั้งต่อไปและอาจเป็นทางตันของการเมืองก็ได้ การลงทุนกับต่างประเทศน่าจะดีกว่าลงทุนในบ้านเรา

การที่สหรัฐมีปัญหากับจีนสร้างโอกาสทองให้ไทย เพราะไม่รู้ว่าประเด็นกำแพงภาษีจะกินระยะเวลานานเท่าไหร่นั้น โอกาสมาขนาดนี้ หน้าต่างกำลังเปิดอยู่ขณะนี้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยและการเมืองไทยแล้ว ว่าจะได้รับผลประโยชน์จากโอกาสนี้หรือไม่