รู้ไหม? ผู้ที่ทำให้ประเทศไทยสว่างไสวไปทุกหัวระแหงด้วยไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติคือ "พลเอกเปรม" นั่นเอง

สืบเนื่องจากมีผู้แชร์คลิปที่มีการพูดถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ว่าเป็นผู้ทำให้ประเทศไทยโชติช่วงชัชวาล หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่าโชติช่วงชัชวาลตรงไหน เพจบนเฟซบุคที่ชื่อว่า "น้องปอสาม" จึงได้มาขยายความว่า

ไม่รู้ว่าคนตีความหมายของคำว่า “โชติช่วงชัชวาล” ว่าอย่างไร

ในยุคที่ท่านเป็นนายกฯ ด้วยโครงการพัฒนาแหลมฉบังทำให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้งยังพบแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ

ตอนที่บริษัทยูโนแคลเจอก๊าซธรรมชาติแทนที่จะเป็นน้ำมันดิบในอ่าวไทยนั้น บริษัทน้ำมันทั่วโลกแทบจะไม่ให้ความสนใจกับก๊าซธรรมชาติเลย เพราะการขนส่งทำได้ยากลำบาก ต้องลงทุนวางท่อซึ่งต้นทุนสูงมาก และท่อไม่มีความยืดหยุ่น ถ้าสร้างท่อเล็กก็ส่งได้น้อย พอมีก๊าซฯเพิ่มก็ส่งไม่ได้เกินขีดจำกัดของท่อ ถ้าสร้างท่อให้ใหญ่ไปเลย ปริมาณก๊าซฯถ้ามีน้อยก็ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูง เสียดอกเบี้ยมากเกินความจำเป็น ผู้ขายต้องสามารถส่งปริมาณก๊าซฯได้สม่ำเสมอ คุณภาพของ ก๊าซฯต้องสม่ำเสมอ ผู้ซื้อก็ต้องมีความสามารถที่จะรับซื้อในปริมาณมากๆได้อย่างสม่ำเสมอ และมีสถานะทางการเงินดี จ่ายได้แน่นอน ตรงเวลา ยูโนแคลไม่ต้องการลงทุนทำท่อส่งระยะยาวจากปลายอ่าวไทยมาขึ้นบกที่จังหวัดระยอง เพราะในสมัยนั้น การวางท่อส่วนใหญ่จะเป็นบนบก ซึ่งสดวกในการซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายถูกกว่ากันมาก เรื่องการเจรจาต่อรองได้ยืดเยื้อเป็นปีก็ไม่สามารถตกลงกันได้

รัฐบาลประสพปัญหาที่บริษัทน้ำมันต่างชาติซึ่งคุมตลาดน้ำมันในไทยทั้งต้นน้ำ(สำรวจและผลิต) กลางน้ำ(โรงกลั่น) และปลายน้ำ(จัดจำหน่าย) ถึง 99% บีบให้ขึ้นราคาน้ำมันขายปลีก พอรัฐบาลไม่ยอม ก็ไม่นำเข้าน้ำมันเข้ามาขาย ก็เลยเกิดการขาดแคลนน้ำมันในประเทศไทย องค์การเชื้อเพลิงก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก

พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์และพล.อ. เปรม บอกว่าแบบนี้อยู่เฉยไม่ได้แล้ว จึงได้เสนอออก พรบ.ปตท.ธันวาคม 2522 เพื่อรวมองค์การก๊าซธรรมชาติกับองค์การเชื้อเพลิงเข้าด้วยกัน เพื่อให้ใหญ่พอที่จะมีอำนาจต่อรองเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนได้บ้าง ไม่ต้องตกอยู่ในอำนาจของต่างชาติแต่ฝ่ายเดียว

ในช่วงเวลานั้นไทยต้องพึ่งน้ำจากเขื่อนในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก ส่วนที่เหลือก็ต้องใช้น้ำมันเตากับน้ำมันดีเซล ดังนั้น เมื่อมี ปตท. และสามารถนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดการพึ่งพาน้ำมันเตาและดีเซลซึ่งอยู่ในความควบคุมแบบเบ็ดเสร็จของต่างชาติ ท่านจึงได้เปล่งวาจาว่า

ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะ "โชติช่วงชัชวาลย์" นั่นคือ ประเทศไทยไม่ต้องใช้ไต้ ใช้ฟืน ใช้น้ำมันเตา ใช้น้ำมันดีเซล แต่จะสว่างไสวด้วยพลังไฟฟ้าผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ที่ผลิตได้ในประเทศไทย ราคาค่าไฟฟ้าไทยจึงถูกลงมาก ทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่างๆตามมาอีกมากมาย รวมทั้งการผลิตรถยนต์ การถลุงเหล็ก การผลิตเม็ดพลาสติก การผลิตชิปเครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งทอ ฯลฯ

รวมทั้งการขยายตัวของ ปตท.ไป ที่การสำรวจและผลิต ขยายตัวไปทำธุรกิจปิโตรเคมี การค้าขายน้ำมันดิบและสำเร็จรูปในตลาดต่างประเทศ

หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน ไทยเรายังคงมีความมั่นคงทางพลังงาน ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ มี กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่สุด สามารถส่งเงินปันผลให้รัฐ รวมถึงภาษีด้วย ไม่ขาดทุน ไม่ต้องเอาเงินรัฐบาลมาอุ้ม และยังสามารถต่อยอดธุรกิจไปยังสายโซ่อุตสาหกรรมต่างๆ ได้อีกด้วย นี่แหละคือคำว่า “โชติช่วงชัชวาล”

ที่มาภาพ : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ชมคลิปที่คุณธนาธร และคุณอรรถวิชช์ พูดถึงพลเอกเปรม

ผู้ที่พูดต่อจากคุณธนาธร คือคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อายุ 41 ปี จบป.ตรี นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ป.โท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายการธนาคารและการเงิน จาก มหาวิทยาลัยบอสตัน