หนุ่มโพสต์เล่า เงินที่แม่เก็บไว้ใช้ตอนแก่เฒ่ากว่า 2 ล้าน ถูกธนาคารดังเอาไปจนหมด

วันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พรชัย อังศุวิริยะ ที่ได้เล่าถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่แม่ตนเองต้องเจอ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุข้อความว่า”เฟสบุคถามว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”

ผมตอบ

วันนี้ผมได้รับความร้อง

ขอให้ใจเย็นๆจาก ผจก ธนาคาร …. สาขาห้วยยอด

ผมนั่งใช้ความคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม่ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ มีพนักงานธนาคาร … สาขาห้วยยอด จำนวนสามคน ชายหนึ่ง หญิงสอง มาหาแม่ที่บ้าน เสมือนมาเยี่ยมลูกค้า พร้อมนำเสนอ พูดชักชวน โน้มน้าวต่างๆนาๆ ให้ แม่ ซึ่งอยู่บ้านตามลำพัง (หลับนึกภาพ ที่ทุกๆคนเคยเจอ เวลา โดนเสนอขาย ประกันหรือกองทุนต่างๆ)

ตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่26มกราคมปี61 วันที่พนักงานธนาคาร … สาขาห้วยยอดทำการโอนเงินจากออมทรัพย์เป็นบัญชีกองทุน จนถึงวันที่5เมษายนปี62 วันที่ แม่ ทราบความจริงทั้งหมด เป็นเวลาหนึ่งปีกว่า ที่พนักงานธนาคาร…. สาขาห้วยยอด ที่ได้ทำกับเงินฝากของ แม่ ที่ๆแม่เป็นลูกค้ามาหลายสิบปี ที่ๆคิดว่าฝากไว้แล้วมั่นคง ปลอดภัย โดยไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทน ว่าจะมากหรือน้อย

พวกคุณ … สาขาห้วยยอด ใช้วิธีไหนที่มาชักชวนให้ บัญชีออมทรัพย์เงินของแม่ กลายเป็นบัญชีกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง

พวกคุณ … สาขาห้วยยอด ใช้วิธีไหนที่ปิดบังให้แม่หลงเชื่อตลอดเวลาหนึ่งปีกว่า ตลอดมา ว่า เงินยังอยู่ในที่มั่นคง ยังมีดอกมีผลอยู่ ทั้งๆที่เสียหายเกิดขึ้นแล้ว

พวกคุณ ธนาคาร … สาขาห้วยยอด กล้าทำผิดกฎเกณฑ์ที่วางไว้และไม่คำนึงจรรยาบรรณวิชาชีพ ทำใบประเมินความเสี่ยงลูกค้าปลอม จน แม่ สามารถเป็นผู้ลงทุนความเสี่ยงระดับสาม เพื่อให้เข้าองค์ประกอบเงื่อนไขนักลงทุน ทั้งๆที่คำถาม แม่น่าตอบได้แค่ข้อ1 ที่ถามว่าแม่อายุเท่าไรเท่านั้น??

พวกคุณ ธนาคาร … สาขาห้วยยอด จิตใจทำด้วยอะไรที่เอาเงินของแม่ที่ฝากไว้เพื่อใช้จ่ายตอนแก่ ทำเพื่อผลตอบแทนตามเป้าที่พวกคุณตั้งไว้ พวกคุณได้เป้า ได้ผลงาน ได้ดาวคะแนนการทำงาน ได้อะไรมากมาย เป็นผลงานร่วมของธนาคาร

พวกคุณพนักงานธนาคาร … สาขาห้วยยอด ใช้สิทธิ์ของธนาคารรับรู้ข้อมูลของลูกค้า ว่าคนไหนมีเงินฝากเท่าไร แล้วทำทีมาแนะนำโดย ใช้คำว่า หวังดี ดีกว่า มั่นคง ดำเนินการโดยธนาคาร มาพูดให้หลงเชื่อว่าเป็นความจริง คนแก่ ชั่วชีวิตรู้จักแต่ฝาก ออมทรัพย์ มีหรือ? จะล่วงรู้ทันพวกคุณ พวกคุณ พนักงานธนาคาร สาขาห้วยยอด ใช้สิทธิอะไร มาทำธุระกรรมทั้งหมดที่บ้าน และ ตอนแม่อยู่บ้านตามลำพัง รวมถึงการกระทำโดยพวกคุณที่ปราศจากการปรึกษาหรือขอรับทราบความเห็นของลูก

วันนี้ขอให้ผมใจเย็นๆ

วันนี้ผมบอก ผู้จัดการธนาคารที่โทรมาหาผม (ทั้งๆที่วันที่ทางผู้ใหญ่ดูแลเขตนี้ มารับฟังปัญหา ว่าต่อไปนี้ผมจะไม่คุยกับระดับสาขา เพราะวันที่5เมษายนวันที่ผมทราบเรื่องและผมไปคุยกันที่ธนาคารดังสาขาห้วยยอด เป็นการคุยที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของแม่ผู้เสียหายเป็นสำคัญ)

ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมไม่เคยได้รับคำขอโทษหรือเสียใจจากพวกคุณเลย คำขอโทษไม่ใช่สิ่งที่แสดงว่าคุณผิด แต่เป็นการแสดงถึงจิตใจที่มีความเข้าอกเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและเราจะร่วมแก้ด้วยกัน วันนี้เป็นเพื่อนถามไถ่กันมามากเป็นพิเศษ สิ่งที่ทุกคนตกใจ

เมื่อทราบว่าว่าทำไมผมถึงมีความแน่วแน่ที่จะต่อสู้

คำถามจากทุกคน

ยอดเงินเท่าไร?

ที่ธนาคารททำกับแม่

แม่ผมมีเงินในบัญชี

2,000,000.00บาท

“สองล้านบาท”

พวกเขาเอาไปหมดครับ เพื่อไปเปิดบัญชีกองทุน ที่มีความเสี่ยงสูง

แม่ผมอายุ78ปี

สายตาเสื่อมถอยตามวัย

อาชีพขายของชำเก็บบาทสองบาทเพื่อจะได้เงินฝาก

อ่านออกเขียนได้

อ่านและเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้

ไม่มีความรู้เรื่องการเงินทุนเรื่องหุ้น

เงินที่มีอยู่เพื่อไว้ใช้ยามแก่

แม่ไม่รู้จักความเสี่ยงทางการลงทุนการเงินเพราะไม่มีความจำเป็น

แม่ใช้โทรศัพท์สมาทโฟนไม่เป็น

บ้านของแม่ไม่มีอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นความจำเป็นที่สำคัญของการรับทราบข้อมูลทางธุรกรรม

บ้านแม่อยู่บ้านนอกห่างจากอำเภอเกือบ20กิโลเมตร

แม่เดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคารตามลำพังไม่ได้ ต้องให้ลูกหลานขับรถไปส่ง

มีข้อไหนไม่จริงบ้าง

คำว่า”ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง” หมายความว่า ลูกค้าซึ่งผู้ให้บริการต้องใช้ความระมัดระวังในการติดต่อและให้บริการเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่60ปีขึ้นไป ผู้ที่มีความรู้ทางการเงินอย่างจำกัดหรือไม่มีประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ผู้ที่มีข้อจำกัดในการสื่อสารหรือตัดสินใจ อาทิ ผู้ที่บกพร่องทางการได้ยินหรือมองเห็น หรือมีภาวะบกพร่องทางสุขภาพ “คัดลอกจาก ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกส1/2561 เรื่องการบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม”

นี่คือกลุ่มเป้าหมายของพวกคุณหรือ?

พวกคุณ กลัวอะไรกับสิ่งที่ผมเขียนความจริง

ณ วันนี้ แม่ มีความเข้มแข็งระดับหนึ่ง เราพร้อมที่จะสู้ ในสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่า ธนาคารดัง จะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเรา” ย้ำอีกที่ครับ เงินแม่ผม ยอดทั้งหมด สองล้านบาท 2,000,000

พวกเขาเอาไปจนหมดบัญชีครับ พวกเขาเอาไปจนหมดบัญชีครับ เพื่อไปเปิดบัญชีกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง” เงินแม่ผม ท่านเก็บหอมรอมริบมาชั่วชีวิตครับ ตอนหน้า ผมจะเล่าเรื่องราว วันที่5เมษายน2562 ให้อ่าน

คำแรกของแม่พอทราบเรื่อง แม่ พูด ว่า “ทำไมธนาคารทำกับแม่แบบนี้” @สู้เพื่อแม่ครับ