Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เครื่องคชาภรณ์ ของช้างต้นของพระมหากษัตริย์ไทย

โพสท์โดย NIXA

ความหมายคำว่า “คชาภรณ์” หมายถึง “เครื่องประดับช้าง” คำว่า คชาภรณ์ มาจากคำว่า คช (คะ-ชะ) แปลว่า ช้าง กับคำว่า อาภรณ์ แปลว่า เครื่องประดับ เป็นชุดเครื่องแต่งตัวของช้างเผือกที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้ในวันสมโภชขึ้นระวางเพื่อเป็นเครื่องยศสำหรับช้างต้นของพระมหากษัตริย์ ประกอบด้วย ผ้าปกกระพอง พู่หู ทามคอ พานหน้า พานหลัง สำอาง พนาศ เสมาคชาภรณ์ และเครื่องยศ 5 เครื่องคชาภรณ์จะแตกต่างกันไปตามลำดับชั้นยศของช้างต้น และความเหมาะสมในการใช้งาน

ความเป็นมาของการประดับเครื่องคชาภรณ์ในราชสำนักไทย

การสร้างและประดับเครื่องคชาภรณ์แก่ช้างสำคัญหรือช้างต้นในราชสำนักไทยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนสันนิษฐานว่า น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย พร้อมกับคติความเชื่อในเรื่องช้างเผือกตามตำราคชศาสตร์ที่มีการยกย่องให้ความสำคัญกับช้างเผือกหรือช้างมงคล ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยพบหลักฐานการสร้างเครื่องคชาภรณ์ประดับช้างเผือกหรือช้างสำคัญในศิลปะอินเดียโบราณ ที่มีการประดับด้วยเครื่องคชาภรณ์

การประดับเครื่องคชาภรณ์แก่ช้างสำคัญในดินแดนประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง น่าจะได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมอินเดียในดินแดนสุวรรณภูมิผ่านคติความเชื่อทางศาสนา และการถวายช้างที่ตกแต่งด้วยเสื้อเกราะและเครื่องประดับ ซึ่งในราชสำนักไทยการประดับเครื่องคชาภรณ์แก่ช้างสำคัญ ในสมัยรัตนโกสินทร์พระมหากษัตริย์จะพระราชทานเครื่องคชาภรณ์แก่ช้างสำคัญประจำรัชกาลในวันสมโภชขึ้นระวางช้างต้นมีส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ แตกต่างกันตามชั้นยศเครื่องคชาภรณ์จึงถูกแบ่งตามลำดับชั้นยศของช้างต้นที่ได้รับพระราชทาน ดังนี้

1.ช้างเผือกหรือช้างพระที่นั่ง จะได้รับพระราชทานให้ใช้เครื่องกุดั่น เป็นชุดเครื่องแต่งกายของช้างเผือก ตาข่ายทำด้วยกุดั่น คือ ลูกปัดแก้วเจียระไนประดับตุ้งติ้งทองคำ หรือแก้วแกมทอง

2.ช้างต้นหรือช้างของพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้เป็นช้างพระที่นั่ง พระราชทานเป็นเครื่องถมปัด ตาข่ายทำด้วยถมปัด คือ โลหะทองแดง ถมด้วยน้ำยาผสมลูกปัดสี ป่นให้เป็นผงถมให้เป็นสีและลวดลายต่าง ๆ

3.ช้างดั้งหรือช้างศึก พระราชทานเป็นเครื่องลูกพลู ส่วนตาข่าย ทำด้วยผ้าปักดิ้นทองฉลุเป็นลวดลายมีพู่ห้อยเรียงรายตามส่วนต่าง ๆ เช่น พู่ห้อยที่ตาข่าย ข้างตะเกียบหู ขอบชายของพนาศ ข้างซองหาง เป็นต้น ทั้งสามประเภทมีองค์ประกอบของเครื่องเหมือนกัน แต่ต่างกันเฉพาะวัสดุและรูปแบบ ซึ่งมีค่าสูงมากน้อยกว่ากันตามชั้นยศที่ได้รับพระราชทาน

เครื่องคชาภรณ์พระเศวตอดุยเดชพาหนฯ เมื่อปี พ.ศ.2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้รับการน้อมเกล้าฯ ถวายช้างเผือกที่มีคชลักษณะหรือลักษณะพิเศษที่เป็นมงคล คือ มีสีกายดังดอกโกมุท หรือบัวสายแดง จากนายแปลก ราษฎรจังหวัดกระบี่ เป็นผู้คล้องได้ในป่าจังหวัดกระบี่

หลังจากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกอบพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวาง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2502 ณ โรงช้างต้น พระราชวังดุสิต ได้พระราชทานเครื่องคชาภรณ์เป็น เครื่องกุดั่น และพระราชทานนามช้างเผือกว่า “พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทร บพิตรสารศักดิ์เลิศฟ้า” เป็นพระยาช้างต้นในรัชกาลปัจจุบัน โดย พระเศวต อดุลยเดชพาหนฯ ถือเป็นช้างเผือกที่เข้ามาเป็นช้างแรกในสมัยรัชกาลที่ 9

เครื่องคชาภรณ์พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ มีการสร้างและพระราชทานจำนวน 2 ชุด ชุดแรกสร้างขึ้นและพระราชทานในพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวางเป็นพระยาช้างต้น เมื่อ พ.ศ. 2502 พระเศวตอดุยเดชพาหนฯ เมื่อแรกขึ้นระวางมีอายุน้อย ยังเป็นลูกช้าง เครื่องคชาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานขณะนั้นมีขนาดเล็กเหมาะสมกับรูปร่าง ต่อมาเมื่อสูงวัยขึ้น มีร่างกายใหญ่โตมากกว่าเดิมเครื่องคชาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานในคราวแรก จึงมีขนาดเล็กไม่สมรูปร่าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรจัดสร้างเครื่องคชาภรณ์ขึ้นใหม่เป็นชุดที่สอง ในปี พ.ศ. 2549 เพื่อพระราชทานแก่พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ซึ่งเป็นพระยาช้างต้นประจำรัชกาล และเป็นช้างเผือกคู่พระบารมีมานาน เครื่องคชาภรณ์พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ชุดนี้ ประกอบด้วย

1. ผ้าปกกระพอง ทำด้วยผ้าเยียรบับลายทองพื้นแดง เย็บเป็นแผ่นรูปทรงคล้ายกลีบบัว ชายขอบผ้าทำเป็นริ้วลายทองพื้นเขียวอยู่ด้านใน พื้นแดงอยู่ด้านนอก 2 ริ้ว ขลิบริมด้วยดิ้นเลื่อม ส่วนฐานของกลีบบัวเชื่อมต่อกับตาข่ายแก้วกุดั่น

2. ตาข่ายแก้วกุดั่นหรืออุบะแก้วกุดั่น ทำด้วยลูกปัดแก้ว (เพชรรัสเซีย) เจียระไน ร้อยด้วยสายทองคำถัก เป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว หรือที่เรียกกันว่า อุบะหน้าช้าง มีความยาวด้านละ 100 ซ.ม. เท่ากันทั้งสองด้าน ระยะจากปลายยอดสามเหลี่ยมถึงฐานกลีบบัว กว้าง 87 ซ.ม. จุดที่สายทองคำถักร้อยลูกปัดแก้วประสานตัดกันเป็นตาข่าย ทุกจุดประดับด้วยดอกลายประจำยามทองคำประดับพลอยสีเขียว สีแดง และสีขาวห้อยด้วยพวงอุบะทองคำประดับพลอยสีแดงและสีขาว

3. พู่หู สำหรับเครื่องคชาภรณ์อดุลยเดชพาหนฯทำด้วยขนหางจามรีสีขาว ใช้ห้อยจากผ้าปกกระพอง ลงมาอยู่ส่วนหน้าของใบหูทั้งสองข้าง ในการประกอบเป็นตัวพู่หรือลูกพู่ เบื้องต้นต้องทำแกนด้วยผ้าขาวเป็นรูปดอกบัวตูม มีเชือกหุ้มผ้าตาดทองต่อจากขั้วแกน เพื่อใช้ผูกกับผ้าปกกระพอง ต่อจากนั้นเย็บขนจามรีประกอบเข้ากับแกนที่เตรียมไว้ จำนวน 2 พู่ พู่หรือลูกพู่นี้เมื่อเย็บขนจามรีเสร็จแล้วจะมีรูปทรงคล้ายดอกบัว

4. ผ้าคลุมพู่ ทำด้วยผ้าเยียรบับรูปดาวหกแฉก ใช้คลุมบนขั้วพู่จามรี โดยเจาะรูตรงกลางเพื่อใช้เป็นที่ร้อยเชือก ขอบผ้าริมนอกขลิบด้วยผ้าตาดทอง ริมในขลิบด้วยผ้าสีแดง

5. จงกลพู่ เป็นส่วนที่ใช้ครอบบนขั้วพู่ทับอยู่บนผ้าคลุมพู่ ทำด้วยทองคำบุดุนลงยาสีเขียว และสีแดง ทำเป็นลายดอกบัวคว่ำ ปลายกลีบดอกบานออกเล็กน้อย ลักษณะรูปทรงคล้ายกรวย

6. เสมาคชาภรณ์ เป็นจี้หรือเครื่องประดับรูปใบเสมาสำหรับร้อยสายสร้อยผูกคอ ทำด้วยทองคำลงยา ด้านหน้าบุดุนเป็นรูปพระราชลัญจกร พระมหามงกุฎอุณาโลม ยอดพระมหามงกุฎเปล่งรัศมี ด้านข้างพระมหามงกุฎกระนาบด้วยลายช่อดอกลอยใบเทศ มีลายประดับรับส่วนล่าง กรอบใบเสมาบุดุนเป็นลายรูปพญานาค 2 ตัว ใช้หางเกี่ยวกัน ส่วนบนของใบเสมาตีปลอกบุ ดุนลายลวดลายลงยา มีลูกปัดทองทรงกลมกลวงสำหรับสอดร้อยด้วยสายสร้อยทองคำ

7. สร้อยคอ หรือสายสร้อยผูกคอทำด้วยทองคำเป็นรูปห่วงเกลียว ยาวประมาณ 285 ซ.ม.

8. ตาบ หรือ ตาบทิศ เป็นเครื่องประดับติดอยู่กับพานหน้า และพานหลัง ทำด้วยทองคำบุดุนฉลุลายดอกประจำยามประดับพลอยสีเขียว สีแดง และสีขาว รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สำหรับประดับพานหน้า ส่วนที่อยู่ใกล้กับไหล่ 2 ข้าง และประดับพานหลัง ส่วนที่อยู่ใกล้ตะโพก 2 ด้าน รวม 4 ดอก

9. วลัยงา หรือ สนับงา เป็นเครื่องประดับงา ใช้สวมงาทั้ง 2 ข้าง ๆ ละ 3 วง รวม 6 วง ทำด้วยทองคำบุดุนประดับพลอยสีเขียว สีแดง และสีขาว

10. สำอาง เป็นห่วงคล้องอยู่ส่วนท้ายช้างใต้โคนหางเพื่อยึดกับพานหลังทำด้วยทองเหลืองชุบทองมีลายประดับทำด้วยวิธีพิมพ์แกะลายบริเวณที่เป็นรูปขอ

11. ทามคอ พานหน้า พานหลัง ทำด้วยผ้าถักแบบสายพานหุ้มด้วยผ้าตาดทอง มีห่วงโลหะชุบทองเป็นตัวเกี่ยวประสานผูกด้วยเชือกหุ้มผ้าตาดทองทุกเส้น

12. พนาศ เป็นผ้าคลุมหลังช้างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำด้วยผ้าเยียรบับ ท้องผ้าเป็นลายทองพื้นเหลือง ตามสีประจำวันพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ล้อมด้วยผ้าตาดทองพื้นแดงด้านหลังผ้าเยียรบับ ชายขอบผ้าชั้นนอกขลิบด้วยดิ้นทอง ตรงกลางท้องผ้าติดคันชีพ ทำเป็นกระเป๋าผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ขลิบริมด้วยดิ้นทองทั้ง 4 ด้าน ตรงกลางปักลายพระราชลัญจกรพระมหามงกุฎอุณาโลมด้วยไหมเหลือง ที่คันชีพทั้ง 2 ข้าง ติดเม็ดดุมทำด้วยแก้วเจียระไนสายคล้องดุมทำด้วยทองคำ ขอบชายผ้าต่อจากคันชีพลงไปมีผ้าระบายซ้อน 3 ชั้น แต่ละชั้นขลิบด้วยดิ้นทองตกแต่งด้วยตุ้งติ้ง

กล่าวได้ว่าเครื่องคชาภรณ์ชุดนี้เป็นเครื่องยศคชาภรณ์ช้างต้นที่งดงาม โดยส่วนที่ทำด้วยทองคำมีน้ำหนักประมาณ 6 กิโลกรัม เหมาะสมกับร่างกายที่สมบูรณ์ใหญ่โตของพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ซึ่งเป็นช้างเผือกคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่ง นับเป็นช้างต้นช้างแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ที่ได้รับพระราชทานเครื่องคชาภรณ์ชุดที่ 2 สำหรับพระยาช้างต้นที่เจริญวัยแล้ว ภายหลังจากพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ล้มลงเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2553 ณ โรงช้างต้น พระราชวังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังนำเครื่องคชาภรณ์พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ชุดนี้ ส่งมอบให้สำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 เพื่อเก็บรักษาและเตรียมนำออกจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมต่อไป

ดังนั้น เครื่องคชาภรณ์พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ชุดนี้ จึงถือเป็นทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินสมัยรัตนโกสินทร์ ที่ควรค่าแก่การรักษาเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบไป

โพสท์โดย: NIXA
แหล่งที่มา: https://www.partiharn.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
NIXA's profile


โพสท์โดย: NIXA
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: อ้ายเติ่ง, ไปเซเว่นเอาอะไรไหม๊
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ด่วน!!ช็อกวงการลูกหนัง! "ดิโอโก้ โชต้า"ดาวยิง ลิเวอร์พูล เสียชีวิตแล้วชื่อจังหวัดของประเทศไทย ที่ถูกใช้ตั้งชื่อสถานที่บนผิวดาวอังคารรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 03/07/68 วันที่ท้องฟ้าครึ้มๆ มีฝนพรำแต่หัววันเลยเด้อครับเด้อเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุด และเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในเขตภาคอีสานผลดีของการเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และ 4 วิธีช่วยให้การนอนหลับเป็นเรื่องง่ายขึ้นอภิมหาเศรษฐีชาวกัมพูชา คนที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศชายผู้เดินทางครบ 193 ประเทศ เผยประเทศที่เขาหลงรักที่สุด จนยอมลาออกจากงานเพื่อย้ายไปอยู่ถาวรฟลอเรนซ์ในฝันไม่ต้องเล่นละครก็รวย! พระเอกดังเผยชีวิตหลังหายไปนาน กลับมาพร้อมทรัพย์พันล้านการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกจุดยืนพรรคประชาชนต่อการหาทางออกสำหรับประเทศ หากนายกฯ แพทองธารพ้นตำแหน่งกินลำไยยังไง ไม่ให้ร้อนใน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เขตเมืองที่ใหญ่ที่สุด และเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในเขตภาคอีสานฟลอเรนซ์ในฝัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
“Flat Fiat” เมื่อช่างชาวอิตาลีสร้างสรรค์รถ Fiat Panda ให้กลายเป็นรถที่ผอมที่สุดในโลก!ด่วน!!ช็อกวงการลูกหนัง! "ดิโอโก้ โชต้า"ดาวยิง ลิเวอร์พูล เสียชีวิตแล้วจุดจบ "พระเยซูไซบีเรีย" อดีตตำรวจจราจรถูกจำคุก 12 ปี ฐานหลอกลวงผู้ศรัทธา🔥 ไฟป่าเกาะครีตรุนแรง! อพยพนักท่องเที่ยวครั้งใหญ่จากเฟอร์มา เมืองอีราปีตรา
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง