หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

8 เมคอัพจากวัตถุดิบชวนสยองในอดีต

โพสท์โดย warrior B
Photo credit: Vienna La Rouge

 

เครื่องสำอางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้หญิงมาหลายศตวรรษ ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ กรีซ และโรม ไปจนถึงยุคทองของฮอลลีวูด เมคอัพล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ เพราะไม่ได้มีไว้เสริมสร้างความงาม เพื่อให้คนอื่นมองเท่านั้น แต่เมคอัพยังถูกใช้เพื่อยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอีกด้วย แต่กว่าที่ธุรกิจเครื่องสำอางจะมีมาตรฐานและได้รับการทดสอบความปลอดภัยเหมือนในปัจจุบัน มันเคยถูกผลิตมาจากวัตถุดิบชวนแหวะและอุดมไปด้วยสารพิษทำร้ายชีวิตเหล่านี้

 

1. ลิปสติกจากแมลง

 

Photo credit: Thelmadetter

 

ปากสีแดงฉ่ำวาวนั้นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการ และส่วนประกอบที่จะทำให้ได้สีแดงสดนั้นก็คือโคชินีล ซึ่งเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่พบได้ในภาคใต้และภาคกลางของสหรัฐอเมริกา และหมู่เกาะคานารี แมลงตัวเมีย จะถูกเลี้ยงด้วยผลของต้นกระบองเพชรที่มีสีแดงสด ซึ่งทำให้พวกมันกลายเป็นสินค้าความงามที่มีมูลค่า เมื่อแมลงโคชินีลถูกนำมาบด มันก็จะผลิตสารที่เรียกว่ากรดคาร์มินิค ซึ่งถูกนำมาใช้ทำสีแดงสด จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 เมื่อมีความต้องการลิปสติกสีกุหลาบเกิดขึ้น ผู้ผลิตจึงได้ใช้สีจากแมลงนี้ เพื่อผลิตลิปสติกเฉดสีที่ผู้หญิงต้องการ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าถ้าได้รู้ความจริงจะมีคนอยากใช้อยู่ไหม

 

2.ขนคิ้วหนังแพะ

 

ในอดีตหญิงสาวชาวกรีกเชื่อว่าคิ้วธรรมชาติที่ไม่ได้รับการตกแต่งใดๆนั้น แสดงถึงความบริสุทธิ์ ยิ่งคิ้วดกเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความงามและความฉลาดมากเท่านั้น คนที่มีคิ้วบางหรือคิ้วแหว่ง จะตกแต่งมันด้วยการทาผงถ่านสีดำ หรือยิ่งไปกว่านั้น คือการใช้คิ้วปลอมที่ทำมาจากหนังแพะ แล้วติดลงบนหน้าด้วยยางไม้ โชคดีที่เทรนด์นี้หายไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งในศตวรรษที่ 18 ผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกที่จะถอนขนคิ้วออกจนหมด แล้วแปะหนังหนูสุดแหวะ เข้าไปแทน   

3.ที่ปัดแก้มจากชาด

 

Photo credit: James St. John

 

ในอดีต แก้มเปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดีเป็นที่นิยมของผู้หญิงเป็นอย่างมาก หญิงสาวทั้งหลาย จึงได้ค้นหาสารมากมายที่จะช่วยให้ได้แก้มเปล่งปลั่งตามต้องการ และหนึ่งในสารยอดฮิตนั้นก็คือ ชาด ซึ่งเป็นแร่ภูเขาไฟที่อุดมไปด้วยปรอท ชาดนั้นมีสีแดงสดที่เหมาะสำหรับเครื่องสำอางและแป้ง เมื่อผสมส่วนประกอบอื่นๆเข้าไป มันก็สามารถปัดลงบนแก้มได้อย่างง่ายดาย โชคร้ายที่ปรอทนั้น เป็นสารพิษร้ายแรง ซึ่งจะไปทำลายกล้ามเนื้อและระบบประสาทอย่างรุนแรง จนถูกเลิกใช้ไปในที่สุด  

4.แป้งผสมตะกั่ว

 

Photo credit: ourgoldenage

 ในศตวรรษที่ 18 ผิวขาวซีดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหญิงสาวที่ต้องการความชื่นชม และเป็น ขั้นสูงสุดของความงามอันเลอเลิศ และนั่นหมายถึงการใช้แป้งทาหน้าให้ขาว ในขณะที่น้ำส้มสายชู และธาตุบิสมัทสามารถนำมาผสมกันเพื่อผลิตแป้งได้ สิ่งที่ได้รับความนิยมมากกว่ากลับเป็นตะกั่ว ซึ่งมีความทึบแสงมากกว่า เรียบลื่น แวววาว และปกปิดผิวได้ดีกว่า ซึ่งในยุคนั้นมีไข้ทรพิษเกิดขึ้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จึงใช้แป้งตะกั่วเพื่อปกปิดแผลเป็นที่เกิดจากโรค ทั้งทาหน้า หน้าอกและไหล่ ก่อนที่จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาทั้ง ฟันผุ ผมร่วง ตาอักเสบ รวมทั้งทำให้ผิวดำคล้ำขึ้นกว่าเดิม  

 

5.สีย้อมฟัน 

 

Photo credit: factinate

ในอดีตฟันสีดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง เนื่องจากน้ำตาลมีราคาแพง จึงมีแต่คนรวยเท่านั้น ที่จะสามารถหาซื้อน้ำตาลได้ ควีนเอลิซาเบธที่1 ผู้มั่งคั่งกินน้ำตาลมากเกินไปจนฟันผุ และฟันส่วนใหญ่ กลายเป็นสีดำ นางสนมทั้งหลายเห็นดังนั้นจึงทำตามด้วยการย้อมฟันให้เป็นสีดำ เพื่อเป็นสัญญาณว่า พวกนางร่ำรวยมากพอที่จะกินน้ำตาลเป็นจำนวนมากนั่นเอง นอกจากนี้ในญี่ปุ่นก็มีการย้อมฟันที่เรียกว่า โอฮากุโระ โดยใช้สีเคลือบฟันสีน้ำตาลเข้ม ที่ทำมาจากตะไบเหล็กละลายในน้ำส้มสายชู  

6.ยาทาเล็บแร่เรเดียม

 

Photo credit: Messy Nessy Chic

ในศตวรรษที่ 20 แร่เรเดียมเคยใช้ในอุตสาหกรรมนาฬิกา เพื่อทำสีสะท้อนแสงที่ช่วยให้สามารถ มองเห็นหน้าปัดนาฬิกาได้ในความมืด ในระหว่างปี 1917 ถึง 1926 หญิงสาวที่ทำงานในโรงงาน ผลิตหน้าปัดนาฬิกา ถูกทำให้เชื่อว่าแร่เรเดียมไม่มีสารพิษ พวกเธอจึงตัดสินใจที่จะเล่นสนุกกับสี สะท้อนแสงเหล่านั้น ด้วยการใช้เป็นยาทาเล็บและลิปสติก โชคร้ายที่หลังจากนั้นไม่นานพวกเธอ ก็เริ่มมีปัญหาสุขภาพเช่น โลหิตจางและกระดูกเปราะ มีหญิงสาวรายหนึ่งไปหาหมอเพื่อถอนฟัน กลับลงเอยด้วยการถูกถอนกรามออกมาแทน เพราะกระดูกเปราะง่ายจนกรามหักออกมานั่นเอง

7.ยาหยอดตามรณะ 

 

การมีดวงตาที่สวยงามสดชื่นเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม ในอดีตหญิงสาวชาวอิตาเลียน จะหยอดตาด้วยยาหยอดที่ชื่อว่า belladonna (หญิงสาวผู้งดงาม) เพื่อให้รูม่านตาขยายขึ้น และทำให้ตาดูโตขึ้น เพิ่มความเย้ายวนชวนมอง ถึงแม้ดวงตาอาจจจะดูสวยงามในช่วงแรกๆ แต่ยาก็มีผลข้างเคียงมากมายทั้ง มองไม่ชัด, ปวดหัว, เห็นภาพหลอน, อาเจียน, หัวใจเต้นเร็ว และสุดท้ายก็นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นในที่สุด

8.ขนตาปลอมจากเม็ดแว็กซ์

 

Photo credit: Cosmetics and Skin

ก่อนที่ขนตาปลอมจะเกิดขึ้น เหล่านักเต้น ดารา หรือนักแสดงล้วนแล้วแต่ต้องหาวิธีการทำให้ขนตา ของพวกเธอยาวขึ้น หนา และดกดำขึ้น และคำตอบนั้นก็คือเม็ดแว็กซ์ ก่อนอื่นคุณต้องนำเม็ดแว็กซ์ มาละลาย และใช้ปากกาขนนกเพื่อทาแว็กซ์ลงที่ปลายขนตาให้เป็นจุดๆ เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตา

 

แต่ละอย่างเรียกได้ว่าเป็นความสวยที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตจริงๆ 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ"โก๊ะตี๋-ใบมิ้นต์" โชว์หวานรอบใหม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เสร็จสมบูรณ์แล้วญาญ่า บ้านเขาใหญ่ อลังการสวยงามตามากๆ"โก๊ะตี๋-ใบมิ้นต์" โชว์หวานรอบใหม่เด็กเกาหลีจุดไฟเผาบ้านหลังพ่อแม่ไม่ซื้อมือถือให้อดีตนายกแพทองธาร นำพวงมาลัยดอกมะลิกราบบิดาหลังพึ่งผ่าน วันเกิดมารดา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สาวๆแห่ฉีดน้ำจิปลาใส่หน้านักแสดงดัง "อูโด เคียร์" เสียชีวิตแล้วสาวเนียนเป่าปี่หนุ่มตรงที่นั่งกลางห้างสรรพสินค้ามาเลเซียวางแผนที่จะ "ห้ามเด็กที่อายุน้อยกว่า 16 ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย"
ตั้งกระทู้ใหม่