ค้นพบ "ซากเรือลึกลับ" อายุหลายพันปี เชื่อ "เรือโนอาห์"

“ยอดเขาอารารัต” (Ararat) ภูเขาสูงที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะเกือบทั้งปี ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศตุรกีใกล้กับพรมแดนประเทศอิหร่าน เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศตุรกี การจะเดินทางขึ้นไปมีแต่อันตราย ทั้งจากหิมะถล่ม และอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน คณะที่ต้องการขึ้นไปสำรวจยังต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากตุรกีก่อน เพราะในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ ‘ยอดเขาอรารัต’ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สถิตของ ‘เรือโนอาห์’

เหล่านักสำรวจจึงเชื่อว่า หากเรือของโนอาห์มีอยู่จริง จะต้องมีซากหลงเหลืออยู่บริเวณนี้ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร และน่าจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร เนื่องจากต้องบรรทุกสัตว์จำนวนมหาศาลจากหลากหลายสายพันธุ์

ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าตัดสินใจที่จะทำลายล้างโลก จึงได้รับสั่งให้ โนอาห์ สร้างเรือขึ้นมาเพื่อใช้บรรทุกสัตว์ที่พระเจ้ากำหนดขึ้นเรือเพื่อหนีเมื่อครั้งที่น้ำท่วมโลก ครั้นเมื่อน้ำลด ‘ยอดเขาอรารัต’ เป็นที่แรกที่โผล่พ้นน้ำ และ ‘เรือโนอาห์’ ก็ได้สถิตอยู่ ณ ยอดเขาแห่งนี้ ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2010 คณะนักสำรวจผู้นับถือศาสนาคริสต์ชาวจีนและชาวตุรกีได้ค้นพบซากโบราณเก่าแก่ บริเวณ ‘ยอดเขาอรารัต’ มีลักษณะคล้ายเรือที่ทำจากไม้ทั้งลำ ไม้แต่ละแผ่นกว้างประมาณ 8 นิ้ว เชื่อมต่อกันด้วยลิ่มไม้ ความยาวทั้งลำประมาณ 100 เมตร อายุประมาณ 2,800 ปีก่อนคริสตกาล มีร่องรอยของการอยู่อาศัยมาก่อน ซึ่งคณะนักสำรวจกลุ่มนี้เชื่อว่า นี่คือ ‘ซากเรือโนอาห์’ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 4,000 เมตร นั่นเอง

ด้วยเหตุการณ์ในพระธรรมปฐมกาล ผู้ที่เชื่อในพระธรรมจึงมั่นใจว่าจะสามารถค้นพบซากเรือโนอาห์นี้ได้ และเรือโนอาห์ เป็น พยานวัตถุเพียงชิ้นเดียวที่ช่วยพิสูจน์ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมโลกที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เป็นจริง การค้นหาเรือโนอาห์ จึงมุ่งไปยังภูเขาอารารัต สถานที่สุดท้ายที่พระคัมภีร์ได้อ้างถึง แต่ปัจจุบันการค้นหายังไม่คืบหน้า ปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการค้นหา คือ เทือกเขาอารารัตเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ตั้งในพรมแดนของประเทศตุรกี ซึ่งรัฐบาลตุรกีไม่อนุญาตการขึ้นไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้

เหตุการณ์ของเรือโนอาห์ ยังมีกล่าวถึงในพระคัมภีร์อัลกุรอาน ในศาสนาอิสลาม พระคัมภีร์ในศาสนายูดาย นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานเรื่องเล่าปรัมปรานานาชาติ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำท่วมโลกนี้ แตกต่างกันไปในแต่ละชนชาติ อาทิ เรื่องของพระมนูในวรรณกรรมฮินดู

อย่างไรก็ตาม ปริศนาซากเรือโนอาห์ก็ยังต้องมีการค้นหา และพิสูจน์กันต่อไป เพราะนักวิชาการบางส่วนก็เชื่อว่า ซากปรักนั้นอาจเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ชาวคริสเตียนยุคก่อนทำไว้เพื่อสักการะบูชาถึงเรื่องราวของโนอาห์ก็เป็นได้