เมนู เชฟกะทะหิน

เมนู เชฟกะทะหิน

ย้อนกลับไปในยุคดึกดำบรรพ์ เมื่อครั้งที่มนุษย์โบราณ ที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเรายังอาศัยอยู่ในถ้ำ มนุษย์ยุคนั้นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยในการปรุงอาหารมากมายเหมือนดังเช่นในยุคปัจจุบัน พวกเขากินทุกสิ่งที่จับมาได้และปรุงมันเป็นอาหารโอชารสด้วยเครื่องมือและวิธีการตามแบบฉบับของยุคนั้น

หลังจาก พวกมนุษย์วานรรุ่นแรก ๆ อย่างโฮโมฮาบิลัสเริ่มกินเนื้อ พวกเขายังไม่รู้จักการใช้ไฟและกินเนื้อแบบดิบ ๆ นอกจากนี้พวกเขายังใช้ก้อนหินทุบกระดูกให้แตกเพื่อกินไขกระดูกด้วย จนกระทั่งเมื่อราว 500,000 ปีก่อน พวกมนุษย์วานรรุ่นต่อมา คือ โฮโมอิเร็คตัส ได้ค้นพบการใช้ไฟ ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ในการให้ความอบอุ่น ใช้ไล่ต้อนสัตว์ และป้องกันภัยจากสัตว์ดุร้ายแล้ว พวกโฮโมอีเร็คตัสยังเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์รุ่นแรกที่ใช้ไฟปรุงอาหาร พวกเขาเรียนรู้ว่า ไฟทำให้เนื้อสัตว์นุ่มและเคี้ยวง่ายขึ้น ทว่าการปรุงอาหารของพวกเขาก็ทำเพียงแค่โยนซากสัตว์ที่ล่าได้เข้าไปในกองไฟ หรือไม่ก็ทำเพียงเสียบเนื้อแล้วเอาไปเผาไฟ จากนั้นก็กินในลักษณะสุก ๆ ดิบ ๆ (ออกแนวมีเดียมแร)

ในยุคน้ำแข็ง มนุษย์รุ่นใหม่หรือ โฮโมเซเปียนส์ ได้ถือกำเนิดขึ้น พวกเขารู้จักวิธีการปรุงอาหารที่ซับซ้อนกว่าในยุคแรก ๆ มาก จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ ทำให้ได้รู้ว่า มนุษย์ในยุคนี้ มีหลายวิธีในการทำให้เนื้อสัตว์สุก

(การเสียบไม้ย่างสัตว์ตัวเล็กๆ เป็นเทคนิคการปรุงอาหารด้วยไฟที่พัฒนาขึ้น จากวิธีดั้งเดิม คือการโยนเนื้อเข้าไปเผามนกองไฟเฉยๆ)

วิธีแรกที่พวกเขาใช้ คือ การก่อไฟบนแผ่นหินแบน ๆ จนกระทั่งหินนั้นร้อนจัด จากนั้นก็เขี่ยถ่านไฟออกและเอาเนื้อที่หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้ววางลงบนแผ่นหินที่ถูกเผาไฟ ซึ่งความร้อนจากหินจะทำให้เนื้อค่อย ๆ สุก คล้าย ๆ กับเมนู hot rock ที่เอาแผ่นหินภูเขาไฟที่อบจนร้อนจัด แล้วเอาเนื้อสดแล่เป็นชิ้นบางๆวางนาบลงบนหินนั้นจนสุก

อีกวิธีหนึ่งที่พวกมนุษย์โบราณใช้ปรุงอาหารคือ การขุดหลุมขนาดเล็ก ใส่น้ำจนเต็ม จากนั้นนำชิ้นเนื้อขนาดใหญ่มาห่อด้วยฟางแล้วใส่ลงในหลุม หลังจากนั้นพวกเขาจะใส่ก้อนหินเผาไฟที่ร้อนจัดลงไปในน้ำและทำเช่นนี้ซ้ำๆจนกระทั่งน้ำเดือดพล่านและทำให้เนื้อที่ห่อเอาไว้นั้นสุก จากนั้นจึงนำมารับประทาน

(แม้จะยังก่อไฟไม่เป็น แต่โฮโม อิเร็คตัส ก็เป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์รุ่นแรกที่ใช้ประโยชน์จากไฟ ด้วยการเก็บถ่านไฟจากไม้ที่ถูกไฟไหม้ป่าหรือถูกฟ้าผ่านำมาเป็นเชื้อไฟ ซึ่งไฟให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่นและใช้ปรุงอาหาร โดยเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปรุงด้วยไฟแล้ว จะเคี้ยวง่ายขึ้น)

สำหรับชาวอินเดียนที่อาศัยอยู่ในฟลอริดาเมื่อ 13,000 ปีที่แล้ว พวกเขามีวิธีปรุงอาหารที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นบาร์บีคิวยุคดึกดำบรรพ์ โดยในยุคนั้น ตามหนองบึงของฟลอริดายังคงมีเต่ายักษ์ยาวเกือบสองเมตรอาศัยอยู่ทั่วไป (แต่ในปัจจุบันพวกมันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว) และเมื่อพวกอินเดียนจับเต่ายักษ์เหล่านี้ได้ พวกเขาจะใช้หอกไม้เสียบตะพาบและย่างบนกองไฟแบบเดียวกับที่คนในยุคนี้ย่างหมูหันกันยังไงยังงั้นแหละ

นอกจากวิธีที่กล่าวไปแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นวิธีปรุงอาหารของชาวพื้นเมืองในออสเตรเลียซึ่งเป็นชนเผ่าที่ดำรงชีวิตในแบบเดียวกับมนุษย์ยุคโบราณเมื่อ 60,000 ปีที่แล้ว โดยชาวพื้นเมืองออสเตรเลียจะใช้วิธีนี้ในการปรุงจิงโจ้ที่เขาล่ามาได้ โดยหลังจากที่ล่าจิงโจ้มาได้แล้ว พวกเขาจะขุดหลุมตื้นๆบนพื้นทรายและฝังจิงโจ้ลงไปพร้อมกับก้อนหินเล็ก ๆ จำนวนมากแล้วกลบหลุม จากนั้นจึงก่อไฟขึ้นเหนือหลุมนั้น ความร้อนจากกองไฟจะทำให้หินและทรายที่หมกจิงโจ้เอาไว้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ และอบจิงโจ้ที่ถูกฝังอยู่ จนกระทั่งสุกได้ที่ จากนั้นจึงนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ เพื่อรับประทาน

…..อ่านจบแล้ว มีใครอยากจะลองเอาวิธีพวกนี้ไปใช้บ้าง ก็เชิญนะครับ แต่ไม่รับประกันความอร่อยนะ…..

ไขกระดูก เป็นโปรตีนจากสัตว์อย่างแรกที่มนุษย์วานรยุคแรกสามารถหากินได้ โดยใช้กัอนหินทุบกระดูกให้แตกเพื่อกินไขกระดูกที่อยู่ข้างใน ซึ่งไขกระดูกที่มีโปรตีนสูงช่วยให้สมองของมนุษย์วานรพัฒนาและมีวิวัฒนาการเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ฉลาดขึ้น

หนอนเป็นเมนูขบเคี้ยวดั้งเดิม สำหรับมนุษย์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์จนแม้ในปัจจุบัน ชนพื้นเมืองหลายเผ่าที่ดำรงชีวิตในป่า ก็ยังกินหนอนเป็นปกติ โดยมีทั้งแบบกินสดๆหรือนำมาหมกในขี้เถ้าร้อนๆจนสุก

ภาพการปรุงอาหารด้วยหลุมเตา ขั้นแรกนำหินมาเผาไฟจนร้อน จากนั้นใส่ปลาหรือเนื้อสัตว์ลงไปในหลุม แล้วหมกด้วยใบไม้จนแน่น แล้วนำหินที่เผาจนร้อนแดงวางเกลี่ยจนทั่ว ความร้อนจากหินจะทำให้เนื้อสัตว์ ในหลุมสุก ระอุ

การย่างหมูป่าในหลุมดินของชนพื้นเมืองของหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งบางครั้ง พวกเขาจะใส่หัวเผือกลงไปก้นหลุมแล้วเอาหมูวางข้างบนก่อนกลบทับด้วยใบไม้แห้งแล้วจุดไฟดัานบน ขณะเนื้อหมูถูกย่างด้วยไฟข้างบน น้ำมันเดือดๆจากตัวหมูจะไหลลงไปอาบเผือกทำให้เผือกสุกคล้ายการทอด ซึ่งเมื่อหมูสุกแล้ว เผือกก็จะสุกพร้อมกินได้ด้วย

จิงโจ้อบหินร้อน สไตล์ชนพื้นเมืองอะบอริจินของออสเตรเลย (เหมือนจิงโจ้โดนไฟคลอกตาย ยังไงยังงั้นแหละ)

หมูย่างในหลุมถ่าน หลังปรุงสุกแล้ว