มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์!! คดีทุจริตปาล์มน้ำมันอินโด คณะจาก ป.ป.ช.เป็นเพียงผู้ร่วมสังเกตุการณ์ในการสอบพยานเท่านั้น
ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อท. 1/2562 โดยโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหารรายหนึ่งของบริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด (PTTGE) เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 4 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มีส่วนรู้เห็นให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1 นำเงินหรือทรัพย์สินไปติดสินบนกับพยานรายหนึ่งที่อินโดนีเซีย เพื่อให้ถ้อยคำบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดีทุจริต ปาล์มน้ำมันอินโด ซึ่งเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จ นั้น
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงถึงกรณีการเดินทางไปสอบพยานบุคคลที่ประเทศอินโดนีเซีย ของกรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นไปตามการร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาจากประเทศอินโดนีเซีย เรื่องกล่าวหาทุจริตข้ามชาติ ซึ่งได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยดำเนินการร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด ตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยผู้แทนจากกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียในฐานะผู้ประสานงานกลางของประเทศอินโดนีเซีย และผู้แทนจากหน่วยงานต่อต้าน การทุจริตของประเทศอินโดนีเซีย (Komisi Pemberantasan Korupsi: KPK) ดำเนินการสอบพยานบุคคล
ทั้งนี้ การสอบพยานดังกล่าว กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น พร้อมนี้มีผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย จึงไม่มีเหตุที่กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวน และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะกระทำการตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้
ต่อกรณีที่มีข่าวว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้รับคำฟ้องเรื่องดังกล่าวแล้ว นั้น โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.ชี้แจงว่าเป็นการรับคำฟ้องไว้ทางธุรการเท่านั้น ซึ่งศาลยังไม่ได้ประทับรับฟ้องแต่อย่างใด
















