ชาวบ้านสันต้นเปา หมดความอดทน 10 ปี สวนพฤกษ์เอกชน เผาขยะกลางชุมชน เหม็นจนป่วย

ชาวบ้าน สันต้นเปา หมู่ 1 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ร้องผ่านสื่อ หลังจากที่ต้องทนดมกลิ่นเผาขยะ และกลิ่นปุ๋ยหมักมานานกว่า 10 ปีของสวนพฤกษศาสตร์เอกชนที่เปิดบริการทั้งที่พัก และห้องสัมมนา มีการเผาขยะทุกวันมานานกว่า 10 ปีชาวบ้านนับ 70 หลังคาเรือนต้องทนดมกลิ่นจนล้มป่วยบ้านช่องเปิดประตูและหน้าต่างไม่ได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง เคยเจรจาแล้วก็ไม่เป็นผลยังเผาต่อเนื่อง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจริงจังเสียทีก่อนที่จะต้องลุกฮือประท้วงกัน

ชาวบ้าน บ้านสันต้นเปา หมู่1 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหากลิ่นจากการเผา และการทำปุ๋ยหมัก จนต้องร้องเรียนผ่านทางสื่อมวลชนที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชาวบ้านกังกล่าวที่ได้รับความเดือนร้อนมีประมาณ 60-70 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นชาวบ้านดั้งเดิม ที่ตั้งรกรากมาก่อนที่จะมีการเข้ามาซื้อขาย และปรับพื้นที่ของภาคเอกชนรายหนึ่งที่เข้ามาสร้างเป็นสวนพฤกษศาสตร์ เปิดบริการทั้งท่องเที่ยวสวนพฤกษ์ศาสตร์ และที่พักบริการมานานกว่า 10 ปี ซึ่งตลอดทั้ง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวก็เริ่มมีการเผาขยะภายในพื้นที่ แต่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนรอบข้างที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น แรกเริ่มชาวบ้านเล่าว่ามีการเผาแบบเปิดคือเผากองกับพื้น แต่ช่วงหลังประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีการสร้างเตาเผาขยะแต่ก็มีการเผาต่อเนื่องโดยพบว่ามีการเผาทุกวันบางสัปดาห์ทั้ง 7 วันบางสัปดาห์ก็จะหยุดเผาในวันอาทิตย์ แต่ที่หนักสุดคือช่วงฤดูท่องเที่ยวที่มีลูกค้าเยอะก็จะมีการเผาหนักสุดทั้งวันทั้งคืน

ซึ่งตลอดทั้งวันที่เริ่มมีการเริ่มเผาประมาณช่วงเวลา 9-10 โมงเช้า จะมีควันลอยออกจากปล่องควัน ช่วงแรกปล่องควันจะอยู่ต่ำจากพื้น แต่มีการปรับปรุงยกปล่องสูงขึ้นจากพื้นดันหลายสิบเมตร แต่ก็ยังมีการปล่อยควันออกมาทั้งสีขาว และควันสีดำ ซึ่งเมื่ออากาศร้อนควันไฟ และกลิ่นที่เหม็นรุนแรงจะถูกกดลงต่ำลอยมาสะสมในพื้นที่ทำให้ชาวบ้านในบริเวณโดยรอบได้รับกลุ่มเหม็น และควันที่ลอยมากับลมตลอดทั้งวันทั้งคืนมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ทำให้ทุกวันนี้มีผู้คนล้มป่วยแบบทุกวันจากการสูดดมกลิ่น และควันที่ลอยมาสะสมในพื้นที่ ทุกวันนี้ไม่สามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูบ้านได้เลย เด็กเล็กและคนแก่เมื่ออยู่ที่บ้านก็ต้องอยู่เฉพาะภายในตัวบ้านถ้าออกนอกบ้านก็จะต้องไปเจอกับกลุ่มควัน ที่ทำให้ทั้งแสบตา แสบจมูก และแสบคอ

ชาวบ้านเล่าว่าเคยมีการร้องเรียนไปยังเทศบาล ต.สันต้นเปา อ.สันทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของชุมชน แต่กลับพบว่าที่ตั้งของ สวนพฤกษ์ดังกล่าว อยู่ในเขตของอีกอำเภอ คือเทศบาลตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด แต่ก็ได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับทางสวนพฤกษ์ ซึ่งอ้างเพียงว่าเตาเผาขยะที่สร้างมีมาตรฐาน แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม หรือภาครัฐลงมาตรวจสอบให้เห็นผลที่ชัดเจนและมีคำตอบมาให้ชาวบ้านเลย

ตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ทนไม่ไหวก็ยอมขายที่ดินไปย้ายที่อยู่ ส่วนที่เหลือก็กลัวเรื่องของผลกระทบกับร่างกายที่จะส่งผลในระยะยาว และอยากสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการสรางเตาเผาขยะดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ทำไมสามารถสร้าง และเผาได้ในพื้นที่ดังกล่าวที่อยู่ใจกลางชุมขนมีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่มาก่อนหน้านี้แล้ว และช่วงของการเผายังเผาได้ทุกวันและตลอดทั้งวันในบางช่วง

ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการทำลักษณะเหมือนปุ๋ยหมักในพื้นที่ด้วย ทุกครั้งที่มีการพลิกกลับกองปุ๋ยหมักจะส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก ชาวบ้านบอกว่าไม่รู้จะไปร้องหน่วยงานไหนต่อหากไม่มีทางสู้ก็อาจจะต้องรวมตัวกันไปทวงถามหรือไปประท้วงให้ได้รับการดูแลแก้ไขตามที่เป็นข่าวในพื้นที่อื่นๆ บ้าง