ผกก.เคลื่อนไหวทันที หลังใบแจ้งความเหยื่อ แก๊งงานบวช หาย ทำ วัน อยู่บำรุง หัวร้อน

จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 8 คนบุกเข้าในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. หลังไม่พอใจ ครู-ผอ. เตือนให้ขบวนแห่นาคช่วยงดใช้เสียงเนื่องจากโรงเรียนมีสอบ

ด้านเพจดังอย่าง Red Skull ช่วยเหลือเหยื่อจากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาโพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า...

"โรงเรียนมีสอบแต่ที่วัดมีงานบวช ทางโรงเรียนเลยขอให้งดใช้เสียง เจอกลุ่มอันธพาลบุกโรงเรียนต่อย ผอ. ลวนลามนักเรียนหญิง ใครอยู่แถวนั้นเห็นเหตุการณ์หรือรู้ตัวคนทำขอข้อมูลหน่อยแถวนั้นพื้นที่บางบอน"

ต่อมาวัน อยู่บำรุง ก็ได้มีการไลฟ์เฟสบุ๊ค ไปร่วมรายการกับนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำอนาจาร และคุณพ่อของเด็กนักเรียน โดยในท้ายคลิป วัน อยู่บำรุง ได้ฝากคำถามไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคาใจว่าเหตุใด ใบแจ้งความอานาจารถึงหาย จนทำให้พ่อและเด็กผู้เสียให้ต้องไปแจ้งความใหม่ แถมยังได้ข่าวมาว่ามีการบอกให้ถอนแจ้งความอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนยืนยันว่าผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน ให้สัมภาษณ์กับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง ระบุว่าตำรวจ สน.บางขุนเทียน ทำใบแจ้งความของน้องนักเรียนหญิงหาย

พ.ต.อ.ลือศักดิ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ทางวัดสิงห์มีงานบวช มีการเปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียงนอกจากนี้ยังมีการเล่นดนตรี แตรวง ส่งผลให้เกิดเสียงดังรบกวน โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่ทำการสอบ GAT/PAT อยู่ ทางครูจึงได้มาพบ พระครูนวการวิมล เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เพื่อขอให้มีเจรจา ให้ทางเจ้าภาพช่วยลดเสียงลง โดย พระครูนวการวิมล ก็ได้ให้เด็กวัดไปพูดคุยกับเจ้าภาพ แต่มีกลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจ พร้อมกับแสดงท่าทีหงุดหงิด และไม่ยอมลดเสียง

“ทางพระครูนวการวิมล จึงพูดว่า ได้เล่นวงดนตรีวนไป 2 รอบแล้ว เหลืออีก 1 รอบ ลดเสียงก็ได้ หากคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็จะไม่บวชให้ ซึ่งเป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจ จึงก่อเหตุดังกล่าว” พ.ต.อ.ลือศักดิ์ กล่าว

ส่วน กรณีที่นายวัน และพ่อของนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ที่ถูกคนร้ายหอมแก้มลวนลาม ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาจำนวน 24 ราย ที่ก่อเหตุบุกรุกและทำร้ายร่างกายบุคลากร ร.ร.มัธยมวัดสิงห์ ได้กล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำใบแจ้งความหาย ต้องมาให้ปากคำใหม่ในวันนี้ว่า

กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้เป็นคดีตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายอีกหลายราย ยังไม่พร้อมเข้าให้ปากคำ บางรายยังคงทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ การทำสำนวนคดีจึงไม่เสร็จสิ้น และคาดว่าคงเป็นความเข้าใจผิด ยืนยันว่าใบแจ้งความของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้หายไปไหนตามที่เป็นข่าว