รักษาไม่ไหว??? สบส.ตรวจ รพ.หลัง 'อัจฉริยะ' แฉไม่รับรักษาเหยื่อไฟไหม้ทั้งตัวตามสิทธิประกันสังคม

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดและมีเพลิงไหม้โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่ตั้งอยู่ใน ซ.พระแม่การุณย์ 25 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 1 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกสาหัส 3 ราย ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ภาพ 1 ในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกไฟคลอกทั้งตัวคือ นายพงษ์พัฒน์ เชิดชูพันธุ์ พร้อมระบุข้อความว่า “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รับช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รายนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่มีโรงพยาบาลไหนรับรักษาให้ตามสิทธิประกันสังคม โดยในวันอังคารนี้ ทางชมรมฯ จะเรียนอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้เข้ามาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน” จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่านายพงษ์พัฒน์ ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อที่โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยพบว่ามีบาดแผลไหม้มากถึง 95% ซึ่งถือว่าเป็นบาดแผลไหม้ในระดับสูงสุด ผู้ป่วยยังรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถสื่อสารได้ โดยต้องระวังเรื่องแผลติดเชื้อและไต จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมของผู้ป่วยคือโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เบื้องต้นพบว่าทางโรงพยาบาลมีขีดความสามารถรักษาผู้ป่วยที่บาดแผลไหม้ได้ 30%

ด้านเพจ Drama-addict ได้แชร์โพสต์เรื่องราวนี้ว่า ....

....โห โดนไฟคลอกตั้ง 95% ของพื้นที่ผิว
ปรกติถ้า % ไม่สูงมาก รพ ทั่วไปก็ดูแลได้
แต่ถ้า % สูงระดับนี้ ปรกติจะส่งตัวเข้า วอร์ด burn ครับ
เป็นวอร์ดเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่โดนไฟคลอกรุนแรง
มีตาม รพ ใหญ่ๆระดับมหาลัยแพทย์
ซึ่งการดูแลคนไข้ที่ไฟคลอกเยอะๆนี้ละเอียดอ่อนมาก
เพราะผิวหนังเป็นตัวรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย
พอถูกไฟคลอกเยอะๆ ผิวหนังก็จะรักษาความชุ่มชื้นไม่ได้
แล้วเสียน้ำเสียเกลือแร่ทางผิวหนังแบบรัวๆ ถ้าให้สารน้ำชดเชยไม่ทันก็ตายครับ แถมยังเสี่ยงติดเชื้อสูงด้วย เลยจำเป็นต้องแอดมิทในวอร์ดเฉพาะสำหรับคนไข้ด้านนี้ ส่วน รพ มงกุฎวัฒนะตามข่าวเห็นว่าไม่มีวอร์ดนี้ ก็ต้องส่งตัวไป รพ. ที่ใหญ่กว่าพร้อมกว่า ซึงก็ถูกต้องละครับเพื่อตัวคนไข้เอง