The Mask Project A มาช้าไปไหมเธอ? (FB:เขวี้ยงรีโมท)
The Mask Project A มาช้าไปไหมเธอ?
.
วันพฤหัสบดี 2 ทุ่ม เป็นอีกช่วงเวลาที่แย่งเรตติ้งกันสุดๆ แต่ละช่องงัดกลเม็ดเด็ดดวง ถวายละครหลังข่าวมารบในสนาม แต่ว่าช่องที่ไม่ถนัดอย่าง Workpoint
ขอเอาฟอร์แมตรายการดังจากแดนโสม “King Of The Mask” ส่งเข้าประกวด
.
น้อยคนนักจะรู้ว่า The mask Singer รายการนี้ มีหลายบริษัทฟาดฟันเอาลิขสิทธิ์มาไว้ในมือ ซึ่งคู่แข่งอีกเจ้าที่นั่งเสียดายคือ “บริษัทที่มีเจ้าของเป็นตัวสระอังกฤษ” กะจะฟาดเอารายการนี้มาผลิตด้วยฝีมือของตัวเอง แต่สุดท้าย Workpoint ก็สอยไปได้อย่างงดงาม
.
ย้อนเวลากลับไป The Mask Singer ตอนซีซั่น 1 สร้างปรากฏการณ์ในวงการทีวี จนหลายช่องต้องกราบ เพราะถือว่าปลุกชีวิตให้คนกลับมาดูทีวีในยุคดิจิทัลอีกครั้ง ด้วยการฟันเรตติ้งสูงทั้งในทีวีและออนไลน์ (ทีวีสูงสุด 17 / ออนไลน์ Live 6 แสน)
.
ยังไม่พอ ยังสร้างมูลค่าของผู้เข้าแข่งขันให้มีงานมีการ ถือว่าฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ดังห้างแตกไปหลายคน ยังไม่พอยังออกสินค้า,คอนเสิร์ตและสติ๊กเกอร์ไลน์ เรียกเงินเข้ากระเป๋าอีกนับไม่ถ้วน ถือว่าต่อยอดธุรกิจได้อย่างคุ้มค่า เก็บทุกเม็ด
.
คนเม้าท์กันว่าแค่เฉพาะยอดรายได้ที่ต่อยอดนี้สามารถ “จ่ายเงินเดือนของพนักงานทั้งบริษัทได้หนึ่งปี” จริงหรือเปล่า ไม่รู้ถามกันเอง?
.
แต่ในแง่ของคนดู พอเริ่มซีซั่น 2 กลับดร็อบลงอย่างเห็นได้ชัด จากเรตติ้งตัวเลข “สองหลัก” ลดลงเหลือ “หนึ่งหลัก” แล้วลดลงเรื่อยๆ จนหลายคนอยากให้ “เว้นวรรค” ในขณะที่ Workpoint ขอลุยต่อจนล่วงเลยมาถึง ซีซั่น 4 ที่บาดเจ็บสาหัสเพราะ “ช่อง3” จัดละคร “บุพเพสันนิวาส” ขโมยคนดูในอ้อมอกแบบหน้าตาเฉย
.
จนหน้ากากหลายหน้ากากแทบไร้บทบาทในรายการ บทเรียนนี้ ถือว่าซ้ำเติมคำว่า “มาไวไปไว” จริงๆ
.
แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรไป เพราะ “Workpoint” งัด Project พิเศษ “ล้างไพ่ความซ้ำ สร้างความมันส์ใหม่” ในชื่อว่า “The Mask Project A” ซึ่งออกอากาศไปได้สักพัก ก็มีเสียงชื่นชมจากคนดูที่เป็นแฟนคลับของช่องว่า “สนุกกว่าเก่ามาก”
.
เพราะพี่แกเอาหน้ากาก 6 หน้ากาก ของสาย มายัดใส่เวที เรียกเสียงฮาและความสงสัยว่า “ภายใต้หน้ากากนั้น...คือใคร?” แต่ตัวเลขเรตติ้ง กลับไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด ฟาดไปแค่ 2 กว่าๆ และถ้าสังเกตกันดีๆ ป้ายสปอนเซอร์ ใน Project A กลับมาเป็นป้ายแบบมีสีสันแล้ว ไม่โชว์แค่โลโก้ขาวดำ ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่แห่งการโฆษณาที่ขึ้นโลโก้ทุกสปอนเซอร์เป็นสีขาวบนจอ LED
.
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ “Workpoint” จะวางเกมแบบไหน เพราะถ้าเกิดมีละครเปรี้ยงดังขึ้นมาอีก คนดูก็จะรีโมทหายไปจากรายการจนไม่สามารถที่จะขุดความนิยมขึ้นมาได้อีกแล้ว
.
เรื่องนี้ต้องลองไปดูว่า “Workpoint” จะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า? ส่วน Project A ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่...มาช้าเกินไป ถ้าโปรเจค A มาแทนซีซั่น 3 และ 4 คงจะดังเปรี้ยงกว่านี้
.
อย่างว่า “คนไทยสังคมไทย” มาไวไปไว ยิ่งในยุค 4.0 อะไรที่น่าสนใจกว่า คนดูก็พร้อมที่จะรีโมทหนีไปได้ทุกเมื่อ ความนิยมมันก็สร้างได้ง่าย และไปได้ง่ายเหมือนกัน ยังไงก็ดีก็ต้องนับถือความกล้าของ “Workpoint” ที่ใช้ความถนัดของตัวเองสู้กับความนิยมเก่าๆ ตอน 2 ทุ่ม ที่ทุกคนจะต้องกลับบ้านมาดูละคร สมัยนี้อะไรที่สนุก ก็ดูอันนั้นล่ะ ไม่มีคำว่า “Loyalty” ในยุคของทีวีดิจิทัลแล้วจ๊ะ
#themasksinger #workpoint The Mask Singer

















