คนไทยใช้มือถือโทรหากันลดลง หันมาใช้ผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น

กสทช. ระบุ มีปริมาณการใช้งานโทรศัพท์ด้วยเสียงโดยตรงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ไตรมาสแรกปีนี้ลดลงถึงร้อยละ 13 โดยพบใช้งานดาต้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.95

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561 - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า ไตรมาสแรกปีนี้พบมีปริมาณการใช้งานโทรศัพท์ด้วยเสียงโดยตรงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2560 ถึงร้อยละ 13

โดยไตรมาสแรกปีนี้มีปริมาณการโทรอยู่ที่ 7,700 ล้านนาที เมื่อดูข้อมูลปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ไตรมาส 1 ปี 2561 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2560 ถึงร้อยละ 16.95 ซึ่งเพิ่มจาก 1,033,022 เทราไบต์ เป็น 1,208,046 เทราไบต์ แสดงให้เห็นว่าคนไทยเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานจากที่โทรหากันด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยตรงเป็นการโทรหากันผ่านอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยแอปพลิเคชัน เช่น Line WhatsApp skype Messenger KakaoTalk หรือแอปพลิเคชันอื่นๆแทน

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบการโทรศัพท์ด้วยเสียงผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่จะใช้ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต คือ Line ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.67 MBต่อนาที // WhatsApp ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.52 MBต่อนาที // skype ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.64 MBต่อนาที Messenger ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.67 MBต่อนาที // KakaoTalk ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.6 MBต่อนาที // Tango ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.1 MBต่อนาที // Hangouts ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 0.68 MBต่อนาที  และ Viber ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 1.01 MBต่อนาที

เลขาธิการ กสทช. กล่าวย้ำว่า ส่วนการโทรในรูปแบบวิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่จะใช้ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต คือ Line ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 2.72 MBต่อนาที // WhatsApp ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 4.89 MBต่อนาที // skype ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 10.01 MBต่อนาที // Messenger ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 5.29 MBต่อนาที // KakaoTalk ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 3.41 MBต่อนาที // Tango ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 4.72 MBต่อนาที // Hangouts ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 36.58 MBต่อนาที และ Viber ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ต 40.52 MBต่อนาที

ซึ่งแสดงให้เห็นแนวโน้มการใช้งานดาต้าผ่านโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย สวนทางกับการโทรหากันโดยตรงด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลดลง อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นการโทรหากันผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทน เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน