ครั้งแรก!! คุณหมอแฮร์ริส อธิบายช่วงที่ดำน้ำ "ช่วยหมูป่าออกจากถ้ำ" ต้องพยุงเด็กในอ้อมแขน พร้อมๆกับต้องหลบโขดหิน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2561 ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ประกาศข่าวช่อง Thaipbs ได้โพสท์การพูดคุยของคุณ หมอแฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ นักดำน้ำในถ้ำ กับนายกรัฐมนตรีออสเตรีย ลงในเฟซบุ๊ก Nattha Komolvadhin ระบุว่า นี่คือครั้งแรกที่ได้ยินเสียง ของคุณหมอแฮร์ริสหลังจากดูแลช่วยน้องหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตจนปลอดภัย  ได้อธิบายกับ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียผ่าน skype ระหว่างปฏิบัติการ หลังเสียคุณหมอได้สูญเสียคุณพ่อได้ไม่นาน

คุณหมอแฮรริสกล่าวว่า ระหว่างดำน้ำที่มืดสนิท เต็มไปด้วย โคลน เสมือนว่าต้องปิดตาตลอดเส้นทาง และต้องคลำหาทางออกให้ได้ ต้องพยุงเด็กในอ้อมแขน พร้อมๆกับต้องหลบโขดหิน

โดยในราละเอียดระบุว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Malcolm Turnbull  ได้Skype คุยกับทีมตำรวจ Australia Federal Police ที่มาช่วยภารกิจในไทย และ คุยกับคุณหมอ Richard Harris วิสัญญีแพทย์ นักดำน้ำในถ้ำ ที่ดูแลหมูป่าทั้ง 13 คนอย่างใกล้ชิด คุณหมอเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากถ้ำ และได้รับแจ้งว่าสูญเสียคุณพ่อ ไม่นานหลังจากปฏิบัติการภารกิจช่วยหมูป่าจบลง

นี่คือบทสนทนาระหว่างนายกฯออสเตรเลีย และคุณหมอแฮร์ริส

PM: เล่าให้ผมฟังสิว่า การปฏิบัติงานช่วงไหนในถ้ำที่ยากที่สุด

Dr. Harris: มีหลายช่วง แต่มีช่วงหลายร้อยเมตรใต้น้ำยากมาก ปฏิบัติการนี้คือการดำน้ำจากช่วงท้ายสุดของถ้ำ มีระยะ 2.5 กิโลเมตร ที่มืดสนิท เต็มไปด้วยดิน โคลน และต้องคลำหาทางออกให้ได้ ต้องใช้มือเป็นเครื่องนำทาง เสมือนว่าต้องปิดตาตลอดเส้นทาง ต้องพยุงเด็กในอ้อมแขน พร้อมๆกับต้องหลบโขดหิน ต้องพยายามขยับเคลื่อนไปตามโพรงของหิน

PM: เด็กๆได้รับการดูแลอย่างดีจริงๆ ขอบคุณคุณหมอมาก ผมขอฝากขอบคุณทีมซีลของไทย นักดำน้ำชาวอังกฤษ และการทำงานร่วมกันระดับนานาชาติ คุณกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนออสเตรเลีย และประเทศออสเตรเลีย งานครั้งนี้สำคัญมาก ไม่มีอะไรน่ากลัวมากไปกว่านี้อีกแล้ว ที่คนต้องไปติดอยู่ใต้ดินในความมืด แต่เมื่อได้เห็นการร่วมกันปฏิบัติภารกิจในระดับนานาชาติ ในช่วงเวลาที่คนอยากเห็นการทำงานร่วมกันแบบนี้ ดีมากที่ได้เห็นคุณทำงานร่วมกันอย่างรวดเร็ว ขอบคุณมากที่เป็นความภูมิใจของออสเตรเลีย เราภูมิใจในตัวคุณมาก และขอส่งสารขอบคุณนี้ และคำชื่นชมไปยังทุกคนในทีมที่คุณทำงานด้วยจนประสบความสำเร็จ

Dr. Harris: ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณคุณหมอแฮร์ริสมากๆค่ะ ที่มาปฏิบัติภารกิจในไทยในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกับทีมไทย และทีมต่างประเทศ อย่างทุ่มเท และทำสำเร็จได้ในที่สุด เป็นครั้งที่ "โลกต้องจดจำ"