สาวโสด 44 ฐานะยากจน หาเลี้ยงพ่อพิการ ปั่นจักรยานไปทำงาน วันละ 60กม. ซ้ำ!โดนไอ้โม่งดักทำร้ายข่มขืน

สาวโสด 44 ฐานะยากจน หาเลี้ยงพ่อพิการ ปั่นจักรยานไปทำงาน วันละ 60กม. ซ้ำ!โดนไอ้โฉดดักทำร้ายข่มขืน แถมเป็นคนใกล้ตัวแต่ผู้ก่อเหตุยังปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่กลัวกฏหมายเลย เพิ่งมีข่าวประหารนักโทษชายไปหมาดๆ... 

โดยเฟซบุ๊กบิ๊กเกรียน ได้รายงานรายละเอียดข่าวระบุว่า #สาวโสดอายุ 44 หวิดเอาชีวิตไม่รอดไอ้โฉดดักตีระหว่างถีบจักรยานไปทำงานสลบเหมือดแต่ไม่วายโดนขืนใจระหว่างล่วงละเมิดเหยื่อกระชากโม่งจึงรู้ว่าแท้แล้วคือญาติตำรวจล็อกตัวทันควันแต่ยังปฏิเสธ

เผยชีวิตสุดรันทดคลองตัวเป็นโสด ฐานะยากจนต้องดูแลพ่อชราพิการวัย 80 ต้องปั่นจักรยานไป-กลับวันละ 60 กม.กระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองขาว พยายามสอบถามข้อมูลของคนร้ายที่ก่อเหตุจากนางสาวหน่อย (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี พนักงานของบริษัทเอกชนรับเหมาทำความสะอาดสถานที่ราชการแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ถูกคนร้ายเป็นชายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า

ดักใช้ไม้ตีเข้าที่ด้านหลังศรีษะ ขณะกำลังปั่นจักรยานออกจากบ้านไปทำงาน เหตุเกิดที่บริเวณพื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองแก ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา โดยจุดเกิดเหตุ เป็นคันนาห่างจากบ้านของนางสาววรารัตน์เพียง 50 เมตรเท่านั้น

#คนร้ายสวมโม่งดักตีจนสลบก่อนลงมือขืนใจ
จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าและสวมถุงมือมิดชิด จังหวะที่คนร้ายตีจนฟุบไปนั้นยังได้ตามลงไปใช้มือบีบคอ พร้อมลงมือข่มขืนผู้เสียหายด้วย แต่นางสาวหน่อย พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่จนสามารถ กัดเข้าที่มือและสามารถกระชากไอ้โม่งที่ปิดบังใบหน้าของคนร้ายออกมาได้สำเร็จ จึงถูกคนร้ายเข้ามาบีบคอซ้ำอีกครั้งอย่างรุนแรงจนหมดสติไป

ต่อจากนั้นเมื่อฟื้นขึ้นจึงรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นแม่ที่บวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง และแจ้งต่อหัวหน้างานทราบ เพื่อให้ส่งคนมาช่วยเหลือ หลังส่งโรงพยาบาลแล้วผลการตรวจในเบื้องต้น แพทย์พบว่ามีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง กระดูกซี่โครงหัก2ซี่ มีเลือดออกภายในร่างกายและกระดูกคอร้าวเนื่องจากถูกของแข็งฟาด

#จับตัวมาได้แต่ปฏิเสธพบเบื้องลึกข่มขืนแล้วเตรียมฆ่าระบายแค้น คดีดังกล่าวถือเป็นเรื่องอุกอาจ และขยายวงกว้างในเขตเมืองกาญจนบุรีพ.ต.อ.พงษ์ธรณ์ เอื้อประเสริฐ ผกก.สภ.หนองขาวจึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปคุมตัวนายต้อม ญาติของผู้เสียหายเองเนื่องจาก น.ส.หน่อย ยืนยันอย่างหนักแน่นแต่ปรากฏว่านายต้อม ยังให้การปฏิเสธ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างขนเพชร เพื่อนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ก่อนควบคุมตัวนายต้อมส่งดำเนินคดีในสองข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองและข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมนำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีทันที ในส่วนของมูลเหตุในการก่อเหตุนั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธ แต่ในเบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียหายกับบ้านของผู้ก่อเหตุมีปัญหากันมานาน เนื่องจากบ้านของผู้เสียหายอยู่ในที่ดินผืนเดียวกับบ้านของผู้ต้องสงสัย และบ้านของผู้ต้องสงสัยต้องการที่จะขายที่แต่บ้านของผู้เสียหายไม่ยินยอมจึงกลายเป็นปัญหาขัดแย้งเรื่อยมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุ รวมถึงผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป

#เผยชีวิตเหยื่อสุดเศร้า
หน่วยงานราชการจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นมือช่วย ทั้งนี้ หลังควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเข้าไปดูบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งได้รับข้อมูลจากคนรู้จักของผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายมีฐานะยากจนมาก โดยอาศัยอยู่กับพ่อ อายุ 80 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาตเพียงลำพัง

ส่วนแม่บวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ในทุกๆวัน ผู้เสียหายจะต้องปั่นจักรยานจากบ้านไปทำงานที่ศาลากลางจังหวัดซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ 30กิโลเมตร ทำให้ในแต่ละวันผู้เสียหายต้องปั่นจักรยานไปกลับเกือบหกสิบกิโล เพื่อจะกลับมาดูแลพ่อที่ป่วยในช่วงเย็น ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของหัวหน้างานที่บอกว่า

ผู้เสียหายเป็นคนขยันทำงาน จะออกจากบ้านมาทำงานตั้งแต่เช้า ผู้เสียหายเป็นคนขยันทำงานและมีนิสัยร่าเริงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน

โดยหลังจากนี้ ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจะประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อนำตัวพ่อของผู้เสียหายไปดูแล พร้อมแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือต่อไป

#บิ๊กเกรียน