สุดภูมิใจ!! ไทยครองอันดับที่ 1 ประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!! เว็บไซต์ให้ข่าวสารด้านเศรษฐกิจชื่อดังอย่าง บลูมเบิร์ก (bloomberg) จัดอันดับประเทศที่มีความทุกข์และความสุขทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก ผลดัชนีเผย ไทยอยู่อันดับที่ 1 ประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลกยาวนาน 4 ปี!!

โลกโซเชียลแชร์โพสต์เฟซบุ๊คของคุณ Pat Hemasuk นำข่าวดีมาประกาศว่าสื่ออย่างบลูมเบิร์กเผยดัชนีความทุกข์ยาก ซึ่งประเทศไทยนั้นครองอันดับ 1 ประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลกยาวนานเป็นปีที่ 4 โดย Pat Hemasuk ระบุรายละเอียดเอาไว้ว่า “ผมอยากเอาข่าวดีๆ มาเล่าให้ฟังว่าคนต่างชาตินั้นมองประเทศไทยอย่างไร ผมบอกได้เลยว่าประเทศไทย คือ สวรรค์ของเขามาเป็นปีที่ 4 แล้ว เมื่อวัดจากดัชนีความทุกข์ (Misery Index) ประเทศไทยคือประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลกใบนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะสำนักข่าวบลูมเบิร์กออกรายงาน ดัชนีความทุกข์ยาก (Misery Index) ประจำปีนี้ ปรากฏว่าไทยเรามีความทุกข์เพียง 1.9 ในปี 2017 ชนะ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์

การวัดผลนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กใช้ดัชนีวัดค่าหลายตัวครับ อย่างแรกคืออัตราเงินเฟ้อของไทยเรามีน้อยมาก (low inflation) เสถียรภาพการเงินดีระดับต้น ๆ ของโลก จนบางครั้งเงินบาทแข็งเกินไปสำหรับผู้ส่งออกเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับการนำเข้าเราแฮปปี้มาก เพราะสิ่งของจากต่างประเทศก็ดูไม่แพงสำหรับเราจนบางครั้งผมซื้อของมาจากอีเบย์ยังราคาถูกกว่านั่งทำเองให้เสียเวลาเสียอีก

อย่างที่สองการว่างงานของเราต่ำมาก (low unemployment) เพราะถ้าขยันไม่มีอดตาย พม่า เขมร ลาว หอบผ้าข้ามมาหางานทำก็มีงานให้ทำสิบกว่าล้านคน คนไทยที่ร้องว่าอดอยากคือคนเลือกงานหรือไม่ก็บ่นแบบไม่พิจารณาตัวเองว่าทำไมถึงทำให้ตัวเองต้องเป็นเช่นนั้น

เรื่องนี้ผมเคยพูดให้คนหลายคนฟังเวลาที่พวกเขาบ่นว่าพวกเขามีชีวิตบัดซบอย่างไร ผมบอกว่าถ้าเคยไปต่างประเทศมาบ้างและใช้ชีวิตแบบพวกเขาเป็นแล้วจะรู้ว่า “ชีวิตบัดซบ” ของคุณนั้นคือสวรรค์ของคน 80% ของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ อย่างน้อยความหมายของชีวิตบัดซบของคุณก็มีหลังคาคลุมหัวเวลาฝนตก มีห้องอยู่ไม่ต้องนอนตากยุง มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินยามไม่มีเงิน และมีเศษเหรียญในกระเป๋าขึ้นรถเมล์ไปไหนก็ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ชาวอเมริกัน 4 ล้านคนไม่มีครับ พวกเขายังต้องเร่ร่อนนอนในตรอกหรือมุมตึก ไม่มีอาชีพ และไม่มีแม้แต่เศษเงินที่จะซื้ออาหารกิน ต้องไปคุ้ยขยะหลังร้านอาหารกินไปวันๆ แต่คนไทยไม่มีแบบนี้ครับ คนเร่ร่อนในเมืองมีน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และคนพวกนี้ไม่ได้ไร้อาชีพ ยังรับจ้างล้างจาน เข็นผัก หรืองานเล็กๆ น้อยๆ มีเงินมาซื้ออาหารกินไม่อดตาย ผมเคยพูดให้คนฟังว่าถ้าตราบใดที่หมาหน้าร้าน 7-11 ยังไม่มีตัวไหนผอม ประเทศไทยก็ไม่มีคนอดตายครับ เพราะเรามีงานให้ทำตลอดเวลา

คราวนี้เรามาลองดูตัวเลขกันบ้าง ไทยเราครองอันดับหนึ่งยืนยาวมาสี่ปีในเรื่องของการเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุด แล้วประเทศที่แย่ที่สุดคืออะไรบ้าง เวเนซุเอล่านั้นเป็นประเทศที่ประชาชนทุกข์ยากที่สุด เพราะปีที่แล้วเงินเฟ้อ 13,000 % หมายความว่าของราคาบาทเดียว ปีหนึ่งผ่านไปต้องใช้เงินร้อยกว่าบาทซื้อของสิ่งเดียวกัน และการว่างงานนั้นมีถึง 30-50% ของประชากรเลยทีเดียว ดังนั้นเวเนซุเอล่าจึงครองแชมป์ด้วยคะแนนที่ประมาณการไว้ที่ 1,872 (อย่าลืมตัวเลขของไทยคือ 1.9 ในปี 2017 สุขกว่าเกือบพันเท่า) อันดับสองคืออียิปต์ อันดับสามคืออาเจนตินา อันดับสี่คือแอฟริกาใต้

เอาอียิปต์ก่อนสภาพการเมืองภายในของเขาไม่ค่อยนิ่งครับ เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว และเมื่อมีการประท้วง มีระเบิดพลีชีพแบบโง่ๆ ตลอดเวลาคนก็ไม่ไปเที่ยวเหมือนเดิม อียิปต์ก็อยู่ลำบากเพราะประเทศของเขาอยู่ได้ด้วยการท่องเที่ยวเป็นหลัก อาเจนตินามีปัญหาเรื้อรังมาเกือบชั่วอายุคนหนึ่งแล้ว ก่อนยุคเปรองเสียด้วยซ้ำ จนซ้ำซาก ตกงานซ้ำซาก การเมืองไม่นิ่งทหารปฏิวัติ ซ้ำซาก โกงกินทุกโครงการ แล้วใครจะเข้าไปลงทุนทำอะไรที่ใหญ่เพื่อสร้างงาน

แอฟริกาใต้สมัยก่อนยุค เนลสัน แมนเดล่า นั้นยังถือว่าเป็นประเทศที่ดีพอใช้นะครับ แม้การปกครองจะอยู่ในมือของคนผิวขาวที่มีประมาณ 10% ของประชากรก็ตาม สังคมยังเป็นระเบียบ มีสินค้าหลักคือเพชรและสินแร่ตามเหมืองต่างๆ และทรัพยากรอื่นๆ รวมถึงทำเลท่าเรือที่ยืนยงมาหลายร้อยปี เวลานี้เรือที่ใหญ่กว่าสุเอซไซส์ก็ต้องแวะทุกลำ คนผิวสีท้องถิ่นนั้นก็ทำงานมีสุขตามอัตภาพของตัวเอง แต่หลังยุค เนลสัน แมนเดล่า ระบบบริหารจัดการประเทศเหมือนเอาล่างขึ้นบนเหมือนปิรามิดกลับหัว ทุกอย่างเละลงไปเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็น

ผมอยากให้พวกที่ชอบด่าประเทศไทยว่ากะลาแลนด์ลองไปใช้ชีวิตต่างประเทศดูสักพัก แล้วจะรู้ว่าประเทศไทยนั้นอยู่ง่ายและอยู่เป็นสุขที่สุดแล้ว

ขอบคุณที่มา : Pat Hemasuk, bloomberg

เรียบเรียงโดย : greannews