แบงก์ชาติจับมือ 16 แบงก์พาณิชย์ เปิด “คลินิกแก้หนี้” ช่วยลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้ 2 รายขึ้น ผลสำรวจชี้คนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น เป็นหนี้นาน และมีหนี้สูง
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2560 - นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เผยถึงการเปิดตัวโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง ว่า ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการวางโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบ โครงการนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาทั้งในระดับตัวลูกหนี้เอง ระดับครอบครัว และระบบสถาบันการเงินไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งสัญญาณเตือน และแสดงความเป็นห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ถ้าแค่เตือนเท่านั้น ปัญหาที่มีอยู่จะไม่สามารถหมดไปได้
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนกลับรุนแรงขึ้น การแก้ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน มีหลายมิติที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ เรื่องแรกวินัยและความรู้ความเข้าใจในการวางแผนทางการเงินของลูกหนี้ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายไม่ให้จ่ายเงินเกินตัว
มิติที่สองคือ สถาบันการเงินเจ้าหนี้หรือผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อจะต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยความรับผิดชอบไม่ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้เกินตัว การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าและ มีการควบคุมความเสี่ยงที่ดี
มิติที่สามซึ่งเป็นมิติที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อลูกหนี้ติดอยู่ในวงจรหนี้สินล้นพ้นตัว หรือเป็นหนี้เสียแล้วควรจะมีทางออก ให้ลูกหนี้ที่สุจริต ตั้งใจที่จะปรับพฤติกรรมของตัวเอง สามารถที่จะออกจากวงจรหนี้ได้และสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของชีวิต และความมั่นคงของครอบครัวได้ใหม่
โครงการคลินิกแก้หนี้นี้เป็นความร่วมมือก้าวสำคัญระหว่าง สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างและปัญหาสังคมที่สำคัญของประเทศ ในยุคปัจจุบันภาคครัวเรือนมีความเปราะบางทางการเงิน เราทราบกันดีว่าภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูงมีความผันผวนสูง ถ้าครัวเรือนมีความเปราะบางทางการเงินก็จะส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งและเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม ในระดับลูกหนี้แต่ละคนแล้ว คนที่เป็นหนี้โดยเฉพาะหนี้เสีย มักจะมีความกังวล เครียด และไม่มีสมาธิในการประกอบกิจการหน้าที่ต่างๆ เป็นปัจจัยฉุดรั้งทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติและที่สำคัญไม่สามารถยกระดับศักยภาพของตัวเองได้
จากข้อมูลล่าสุดเราพบว่าหนี้ภาคครัวเรือนได้ปรับลดลงบ้างถ้าดูในภาพใหญ่ในระดับมหภาคในสิ้นปี 2558 หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ระดับร้อยละ 81.2 ของ GDP ปรับลดมาอยู่ที่ร้อยละ 79.9 ของ GDP ณ สิ้นปี2559แต่แม้จะหักส่วน ที่กู้ไปประกอบธุรกิจประมาณร้อยละ 20 ต่อ GDP ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับสูงและมีหลายประเด็นที่น่ากังวล สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ้งภากรณ์ได้ร่วมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติทำการศึกษา big data analytics พบว่า “คนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น เป็นหนี้นาน และมีหนี้มูลค่ามาก”
(1) คนไทยเริ่มเป็นหนี้เร็วขึ้น และเป็นหนี้เสียตั้งแต่อายุยังน้อย จากถังข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต พบว่าครึ่งหนึ่งของคนอายุประมาณ 30 มีหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้สินเชื่ออุปโภคบริโภค หรือ personal loan และ/หรือหนี้บัตรเครดิต และถ้าดูคนไทยที่มีหนี้เสีย หรือมีหนี้ค้างช าระมากกว่า 90 วัน จะน่าตกใจที่พบว่าลูกหนี้ที่อยู่ช่วงอายุ29 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและอยู่ในช่วงวางรากฐานที่สำคัญให้ครอบครัว เป็นลูกหนี้ค้างชำระเกิน 90 วันมากถึงหนึ่งในห้า ซึ่งส่วนนี้ยังไม่ได้นับรวมหนี้นอกระบบ หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ หนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้มากเช่นกัน ถ้ารวมตัวเลขนั้นเข้ามา ผมคิดว่าปัญหาจะยิ่งน่าเป็นห่วง
(2) คนไทยเป็นหนี้นาน ปริมาณหนี้ต่อหัวเร่งขึ้นเร็วสำหรับคนในช่วงอายุประมาณปลาย 20 เข้า 30 ปีและอยู่ในระดับใกล้เคียงระดับสูงสุดตลอดอายุการทำงาน ที่สำคัญระดับหนี้ไม่ได้ลดลงแม้จะเข้าสู่วัยใกล้เกษียณสะท้อนถึงปัญหาความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเราเข้าสู่สังคมชราภาพมากขึ้น เราทราบกันดีว่าคนที่อายุใกล้เกษียณต้องมีความพร้อมที่จะดูแลตัวเองในวันที่เกษียณได้
(3) คนไทยมีหนี้มูลค่ามากขึ้น ข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต พบว่าค่ากลางหรือ median ของหนี้ต่อหัวจาก 70,000 บาทในปี 2553 หรือ 7 ปีก่อน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวมาอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ณ สิ้นปี 2559
นอกจากนี้ คนที่มีหนี้ในระบบจากฐานข้อมูลบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติซึ่งรวมข้อมูลจากสถาบันการเงิน ยังมีสถานะการเงินเปราะบาง ร้อยละ 16 ของคนที่มีหนี้ หรือประมาณ 3 ล้านคน มีหนี้ที่มีสถานะค้างชำระเกินกว่า 90 วัน นั่นหมายถึงการเป็นหนี้เสียที่ต้องถูกเจ้าหนี้ติดตามทวงถามหรืออยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย
อาการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการขาดวินัยและการขาดทักษะในการบริหารจัดการเงิน และสะท้อนให้เห็นว่าคนจำนวนไม่น้อยติดอยู่ในวงจรหนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข เพราะเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการเป็นหนี้ โดยเฉพาะหนี้เพื่อการบริโภคที่ไม่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตนั้น ยากที่เศรษฐกิจของเราจะเติบโตไปข้างหน้าได้ อย่างยั่งยืน
ดร.วิรไทยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะสามารถรักษาหนี้ทุกคนให้หายขาดได้เราเชื่อว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่สุจริตและมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากแก้ไขปัญหา สามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีให้อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ตามความสามารถในการชำระหนี้จริงอย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องสร้างให้เกิดขึ้นควบคู่กันไป คือ การสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของการออมการสร้างวินัยและการสร้างทักษะในการบริหารจัดการเงิน ทักษะในการวางแผนทางการเงินรวมทั้งปลูกฝังทัศนคติการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง ควบคู่ไปกับ ที่สถาบันการเงินต้องดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ ให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และพิจารณาการให้สินเชื่ออย่างรอบคอบ ไม่ให้สินเชื่อมากเกินควรและเกินความจำเป็น”
โครงการคลินิกแก้หนี้ที่เราจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นโครงการนำร่อง โดยช่วงแรกจะครอบคลุมเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน มีเจ้าหนี้ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปและมีสถานะเป็นหนี้เสีย คือ ค้างชำระมากกว่า 90 วัน ก่อนวันที่ 1 พ.ค. 2560 จากข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตในเบื้องต้นเราพบว่า อาจจะมีลูกหนี้ในกลุ่มนี้หลายแสนราย ยอดเงินรวมกันมากกว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งที่ยังอยู่ใน book ของสถาบันการเงินและที่สถาบันการเงินได้ write off ทางบัญชีไปแล้ว แต่ยังมีสิทธิ์ตามเก็บจากลูกหนี้อยู่ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องแสดงเจตนาที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างวินัยในการใช้จ่าย ตลอดช่วง 5 ปีที่ร่วมโครงการจะไม่สามารถก่อหนี้ใหม่เพิ่มเติมได้ยกเว้นเกิดกรณีจำเป็นตามที่ระบุไว้ในหลักเกณฑ์ของโครงการเมื่อดำเนินโครงการไประยะหนึ่งจะติดตามประเมินผลโครงการเพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเอาประโยชน์ของสังคมไทยเป็นที่ตั้ง
สุดท้ายนี้ ผมขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สององค์ซึ่งพระองค์ได้เคยพระราชทานเตือนสติชาวไทยไว้ว่า
“การกู้เงินที่นำมาใช้ในสิ่งที่ไม่ทำรายได้นั้นไม่ดี อันนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินและทำให้มีรายได้ก็เท่ากับจะใช้หนี้ได้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ”
อีกองค์หนึ่งที่ได้เคยรับสั่งไว้ว่า
“การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ประหยัดเท่านั้นยังจะ เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/11/68
แนวทางเลขเด็ด แม่น้ำหนึ่ง งวด 16 พ.ย. 68 เตรียมลุ้นรวยกลางเดือน
10 ข้อห้าม 'ของขวัญ' คู่รัก ที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมวิธีแก้เคล็ดแบบสายมู!
“เครื่องหวาน” ที่จัดถวายรัชกาลที่ 6 มีอะไรบ้าง
ไทยระงับประกาศให้แรงงานกัมพูชาพาสปอร์ตหมดอายุอยู่ต่อ — ทำแรงงานสับสนทั้งประเทศ!
เลขเด็ด "ปฏิทินคำชะโนด (ฉบับพิเศษ)" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68..วันนี้รวย รีบส่องเลย!!
เลขเด็ด TikTok วันนี้รวย! หวยงวด 16 พฤศจิกายน 68..รีบส่องด่วน!!!
🔮คุณเกิดวันไหน? มาทายนิสัย เปิดดวง ความรัก การเงิน ครบทั้ง 7 วันเกิด
“นึ่งข้าว” สิ่งที่ต้องมีก่อนไม่ว่าจะงานแต่ง งานบุญ เตรียมพร้อมตีสองตีสาม
จีนขู่ญี่ปุ่นอีกแล้ว!! โดยส่งกองเรือแล่นในน่านน้ำพิพาทญี่ปุ่น
“แกงหมูร้อน” แกงฮ้อน อร่อยกรุบนุ่มสบายไม่ต้องเคี้ยว เหนียวแน่นมาก
“ข้าวโล้ง” เมนูงานแต่งงานของชาวภูไทที่ต้องมี อร่อยหอมกรุ่น
“นึ่งข้าว” สิ่งที่ต้องมีก่อนไม่ว่าจะงานแต่ง งานบุญ เตรียมพร้อมตีสองตีสาม
10 ข้อห้าม 'ของขวัญ' คู่รัก ที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมวิธีแก้เคล็ดแบบสายมู!
ภูเขาไฟซากุระจิมะปะทุอีกแล้ว
อย่าลืมแก้บนก่อนที่จะบนใหม่! เคล็ดลับการทำ "ข้อกำหนดคำสาบาน" ให้สำเร็จ..สายมูต้องห้ามพลาด!!!
เลขเด็ด TikTok วันนี้รวย! หวยงวด 16 พฤศจิกายน 68..รีบส่องด่วน!!!
ชมพู่อารยา สั่งลูกๆ ห้ามโม้บ้านรวยหมื่นล้าน ไม่บอกเรื่องฐานะกับลูก ให้รับรู้ตามสภาพ



