รายงาน: งานวิจัย สกว. ชี้ทุนมนุษย์ไทยยังไม่มีความพร้อมสร้างเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม
ความท้าทายหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบันคือ การหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง (middle income trap) สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถหลุดพ้นไปจากกับดักดังกล่าวได้เพราะความขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาสรรค์สร้างนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
งานวิจัยเรื่อง ทุนมนุษย์กับผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรมไทย (2557) โดย ศ.ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ รศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนวิจัย (สกว.) ได้ชี้ให้เห็นว่าทุนมนุษย์ของไทยกำลังมีปัญหาหลักอยู่ 2 ประการนั่นคือ ความไม่สอดคล้องระหว่างความต้องการกำลังคนกับการผลิตกำลังคนผ่านระบบการศึกษา และคุณภาพของแรงงาน
งานวิจัยแสดงภาพรวมของตลาดแรงงานไทยว่า ในปี 2554 ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคการผลิตที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจมีแรงงานอยู่ราว 5,301,368 คน โดยแบ่งเป็นชาย 2,564,440 คน และหญิง 2,736,928 คน ทั้งนี้แรงงานส่วนใหญ่ยังมีการศึกษาอยู่ในระดับต่ำ โดยแรงงานมากถึงร้อยละ 41.56 จบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่าส่วนแรงงานที่จบการศึกษามัธยมต้นมีเพียงร้อยละ 22.97 ระดับมัธยมปลายร้อยละ 15.32 และระดับปริญญาตรีขึ้นไป ร้อยละ 7.93
ในส่วนของแรงงานที่จบอาชีวะนั้นมีปริมาณร้อยละ 12.22 แรงงานกลุ่มนี้มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมไทยอย่างมาก โดยร้อยละ 65-75 ของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมมีการจ้างแรงงานระดับอาชีวะจบใหม่เข้าทำงาน โดยเห็นว่า “แรงงานระดับอาชีวะมีทักษะการทำงานที่ดีถึงดีมาก” แต่แรงงานอาชีวะกลับมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเด็กส่วนใหญ่เลือกเรียนต่อในระดับอุดมศึกษามากกว่าระดับอาชีวะ เพราะว่าหากจบจากระดับอุดมศึกษาจะได้ผลตอบแทนดีกว่า ถึงแม้ว่าแรงงานระดับอุดมศึกษาจะมีปัญหาคุณภาพทักษะที่ไม่ตรงตามความต้องการของผู้ว่าจ้างก็ตาม
เมื่อมาพิจารณาถึงประเภทของแรงงาน พบว่าภาคอุตสาหกรรมไทยยังพึ่งพิงแรงงานที่มีทักษะต่ำอยู่มาก โดยแรงงานถึงร้อยละ 73 ของประเทศเป็นแรงงานที่มีทักษะต่ำ (Unskilled Production Labor) ในส่วนแรงงานที่มีทักษะ (Skilled Production Labor) มีปริมาณเพียงร้อยละ 13 ในขณะที่แรงงานที่ไม่ได้อยู่ในด้านการผลิต (Non-Production Labor) มีร้อยละ 9 ส่วนประเภทแรงงานที่มีน้อยที่สุดคือ แรงงานประเภทผู้บริหารและวิชาชีพ (Manager and Professional) มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
ผลการศึกษายังได้ชี้อีกว่า แรงงานเชิงเทคนิค (Technical Staff) ได้แก่ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักวิเคราะห์ และนักคอมพิวเตอร์ เป็นกลุ่มแรงงานที่มีความสำคัญที่สุดในการพัฒนานวัตกรรม แต่แรงงานประเภทนี้มีปริมาณเพียงร้อยละ 4 ของแรงงานทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งนับว่าขาดแคลนอย่างมาก
คุณภาพของทุนมนุษย์ไทยยังมีปัญหา
ปัญหาทุนมนุษย์ไทยมิใช่เป็นปัญหาเฉพาะเชิงปริมาณเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาในเชิงคุณภาพด้วยเช่นกัน
งานวิจัยชิ้นนี้ยังศึกษาว่า ทักษะ (skills) แต่ละประเภทส่งผลต่อการเพิ่มผลิตภาพของแรงงานอย่างไร โดยงานวิจัยได้แบ่งประเภททักษะเป็น 2 ประเภทนั่นคือ ทักษะทางปัญญา (Cognitive Skills) และทักษะทางพฤติกรรม (Non-Cognitive Skills)
จากผลวิจัย พบว่าทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะทางปัญญาคือ ทักษะที่มีความสำคัญอย่างมีนัยทางสถิติต่อการเพิ่มผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตามประเภทแรงงาน หากแรงงานสายอาชีพมีทักษะการเข้าสังคมที่ดี และแรงงานสายการผลิตมีทักษะด้านการคำนวนและการปรับตัวที่ดี ก็จะทำให้ผลิตภาพแรงงานของบริษัทเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบความพร้อมด้านทักษะของแรงงานไทยพบว่า แรงงานไทยส่วนใหญ่มีปัญหาด้านทักษะทางปัญญามากกว่าทักษะทางพฤติกรรม โดยทักษะทางปัญญาที่มีปัญหามากที่สุดของแรงงานไทยคือ ทักษะทางภาษาอังกฤษ ทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะการคำนวน และทักษะการคิดสร้างสรรค์ ตามลำดับ สำหรับทักษะทางพฤติกรรมหรือทักษะการใช้ชีวิตของแรงงานไทย เช่น ทักษะการเป็นผู้นำ ทักษะการเข้าสังคม หรือทักษะในการแก้ไขปัญหา ทักษะเหล่านี้ก็ถูกระบุว่าเป็นปัญหาเช่นกัน แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า

การฝึกอบรมในบริษัทไทยยังไม่เพียงพอ
งานวิจัยพบว่า ปัจจุบันบริษัทต่างๆ พยายามหาทางพัฒนาทักษะของแรงงานอยู่เสมอด้วยการจัดฝึกอบรม (training) โดยทักษะส่วนใหญ่ที่อยู่ในหลักสูตรอบรม ได้แก่ ทักษะมาตรฐานความปลอดภัย ทักษะการจัดการและใช้เทคโนโลยี และทักษะเทคโนโลยีการผลิต ส่วนทักษะทั่วไป เช่น ทักษะด้านภาษา ทักษะการตลาด และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีสัดส่วนการจัดอบรมที่ค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้ บริษัทในภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมแรงงานพอสมควร โดยสัดส่วนร้อยละ 63.5 ของบริษัททั้งหมดได้จัดฝึกอบรมภายในองค์กร ขณะที่ร้อยละ 64.1 ได้มีการจัดฝึกอบรมภายนอกองค์กร แต่เมื่อพิจารณาในภาพย่อย จะพบว่าบริษัทขนาดเล็ก (มีแรงงานน้อยกว่า 50 คน) ให้ความสำคัญในการจัดฝึกอบรมแรงงานน้อยกว่าบริษัทขนาดใหญ่ (มีแรงงานมากกว่า 200 คน) โดยบริษัทขนาดใหญ่ร้อยละ 92.6 ได้จัดฝึกอบรมภายในองค์กร และร้อยละ 88 ได้จัดฝึกอบรมภายนอกองค์กร ขณะที่บริษัทขนาดเล็ก มีเพียงร้อยละ 29.1 ที่จัดฝึกอบรมภายในองค์กร และร้อยละ 37.3 ที่จัดฝึกอบรมภายนอก
ข้อมูลข้างต้นชี้ว่า ภาคอุตสาหกรรมมีความพร้อมในการพัฒนาทุนมนุษย์ในการฝึกอบรมแรงงานไม่เท่าเทียมกัน โดยบริษัทขนาดใหญ่มีทรัพยากรมากกว่าจึงมีความพร้อมในการจัดฝึกอบรมแรงงานมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก

ทางออก
งานวิจัยเสนอว่าทุนมนุษย์ไทยนั้นต้องได้รับการพัฒนาทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยแนวทางการพัฒนาทุนมนุษย์จะต้องครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาระบบการศึกษาหรือระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต การฝึกอบรมของแรงงาน และสถานที่ทำงาน
งานวิจัยมีข้อข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ดังนี้
- สนับสนุนให้ครอบครัวเข้ามาดูแลลูกในวัยปฐมวัยด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การเล่น หรือการสังสรรค์ เพื่อเป็นการพัฒนาสมองของเด็ก สำหรับเด็กในชั้นประถมศึกษา โรงเรียนและครอบครัวต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาเด็ก โดยต้องปูพื้นฐานทางวิชาการแก่เด็กอย่างเหมาะสม สร้างทัศนคติรักการเรียนรู้ให้แก่เด็ก ที่สำคัญก็คือ ต้องกระตุ้นให้เด็กรู้จักตัวเองมากขึ้น สำหรับชั้นมัธยมศึกษา ต้องส่งเสริมให้เด็กได้เรียนตามที่ตัวเองต้องการและถนัด นอกจากนั้น ควรส่งเสริมให้เด็กได้เลือกเรียนสายอาชีวะเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและศักยภาพของตนเอง
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนอาชีวะ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานจัดฝึกอบรมของรัฐ ได้มีบทบาทร่วมกับภาคเอกชนยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบความร่วมมืออาจเป็นในลักษณะ 1) การจัดให้นักศึกษาจากสถาบันการศึกษามาฝึกงานหรือประสบการณ์ตรงที่สถานประกอบการ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดให้เป็นเงื่อนไขเพื่อให้จบการศึกษาของนักศึกษาก็ได้ หรือ 2) การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการ (industry-university linkage)
- สนับสนุนให้นักศึกษาได้เรียนรู้วิชาเรียนแบบสหวิชา (multi-disciplinary approach) เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับนักศึกษา และให้นักศึกษาได้ค้นพบความชอบของตัวเองได้เร็วขึ้น
- ควรสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนจัดฝึกอบรมให้แก่พนักงาน โดยรัฐสามารถเข้ามาช่วยในการเป็นผู้ฝึกอบรม และพัฒนาเครื่องมือการฝึกอบรม โดยหลักสูตรการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับพัฒนาแรงงานไทย คือ ทักษะภาษาอังกฤษ ทักษเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะการปรับตัว ทักษะภาวะผู้นำ ทักษะการเข้าสังคม และทักษะการทำงานเป็นทีม
- ส่งเสริมให้ภาคเอกชนสร้างสถานที่ทำงานมีความสุข (happy workplace) โดยการตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์
ที่มา: งานวิจัยเรื่อง ทุนมนุษย์กับผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรมไทย (2559) โดย ศ.ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์ และ รศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ
ไทยระงับประกาศให้แรงงานกัมพูชาพาสปอร์ตหมดอายุอยู่ต่อ — ทำแรงงานสับสนทั้งประเทศ!
เลขเด็ด TikTok วันนี้รวย! หวยงวด 16 พฤศจิกายน 68..รีบส่องด่วน!!!
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/11/68
อย่าลืมแก้บนก่อนที่จะบนใหม่! เคล็ดลับการทำ "ข้อกำหนดคำสาบาน" ให้สำเร็จ..สายมูต้องห้ามพลาด!!!
“นึ่งข้าว” สิ่งที่ต้องมีก่อนไม่ว่าจะงานแต่ง งานบุญ เตรียมพร้อมตีสองตีสาม
ภูเขาไฟซากุระจิมะปะทุอีกแล้ว
แนวทางเลขเด็ด แม่น้ำหนึ่ง งวด 16 พ.ย. 68 เตรียมลุ้นรวยกลางเดือน
🔮คุณเกิดวันไหน? มาทายนิสัย เปิดดวง ความรัก การเงิน ครบทั้ง 7 วันเกิด
“เครื่องหวาน” ที่จัดถวายรัชกาลที่ 6 มีอะไรบ้าง
จีนขู่ญี่ปุ่นอีกแล้ว!! โดยส่งกองเรือแล่นในน่านน้ำพิพาทญี่ปุ่น
10 ข้อห้าม 'ของขวัญ' คู่รัก ที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมวิธีแก้เคล็ดแบบสายมู!
"มิกค์ ทองระย้า" ตบมุกเด็ด! ที่ยืนหนึ่งพระเอกช่อง 7..เป็นเพราะยืนอยู่คนเดียวที่เหลือนั่งหมด
“นึ่งข้าว” สิ่งที่ต้องมีก่อนไม่ว่าจะงานแต่ง งานบุญ เตรียมพร้อมตีสองตีสาม
10 ข้อห้าม 'ของขวัญ' คู่รัก ที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมวิธีแก้เคล็ดแบบสายมู!
ภูเขาไฟซากุระจิมะปะทุอีกแล้ว
อย่าลืมแก้บนก่อนที่จะบนใหม่! เคล็ดลับการทำ "ข้อกำหนดคำสาบาน" ให้สำเร็จ..สายมูต้องห้ามพลาด!!!
เลขเด็ด TikTok วันนี้รวย! หวยงวด 16 พฤศจิกายน 68..รีบส่องด่วน!!!
ชมพู่อารยา สั่งลูกๆ ห้ามโม้บ้านรวยหมื่นล้าน ไม่บอกเรื่องฐานะกับลูก ให้รับรู้ตามสภาพ


