หลังจากสร้างมหาวิทยาลัยรังสิตให้ติดอันดับเป็น 1 ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศ ไม่บ่อยครั้งนักที่ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต จะเปิดเผยตัวเป็นข่าวในกระแสสังคม และเหนืออื่นใดต้องเป็นข่าวใหญ่อีกเช่นเคย กับการลงมือสร้างโรงพยาบาลในรูปแบบสมัยใหม่ภายใต้ชื่อ RSU International Hospital ด้วยแนวความคิดที่ว่า “โรงพยาบาลที่ไม่เหมือนโรงพยาบาล” แนวความคิดดังกล่าวจะเป็นเช่นไรไปดูกันเลย
ดร.อาทิตย์ เปิดเผยว่าเนื่องจากประเทศไทยได้รับการยอมรับในเรื่องของศักยภาพด้านการแพทย์ ทั้งด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การวิจัยทางการแพทย์และการมีบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความสามารถในอันดับต้น ๆของโลก ทำให้ความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ของไทยและความต้องการในการเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทยจากผู้ป่วยชาวต่างชาติมีมากขึ้นทุกปี ม.รังสิตจึงเกิดแนวคิดในการก่อตั้ง “โรงพยาบาลอาร์เอสยูอินเตอร์เนชั่นแนล” (RSU International Hospital) หรือ “RIH” ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 11 ไร่ ตั้งอยู่บนถ.เพชรบุรีตัดใหม่ โดยแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรก 6 ไร่ มีพื้นที่ 66,000 ตร.ม. และเฟสที่ 2 อีกจำนวน 5 ไร่ มีพื้นที่ 56,000 ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020
โดยแนวคิดแรกในการสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ คือจะทำอย่างไรให้“โรงพยาบาลไม่เหมือนโรงพยาบาล” การจะทำได้จะต้องเปลี่ยนความเจ็บป่วย สิ้นหวังและสลดหดหู่มาเป็นการอยู่กับธรรมชาติ สถานที่สวยงาม โดยกำหนดให้มีพื้นที่สีเขียว 35 % เป็นสถานบริการด้านสุขภาพที่คนมาแล้วมีความสุข เป็น The most humanized medical care เน้นความเป็นมนุษย์ เอาใจใส่ และเอื้ออาทร
“อย่างคนมาคลอดต้องไม่ให้เขามีความรู้สึกว่าเขาเป็นคนป่วย คนที่มาคลอดไม่ใช่คนป่วยเป็นคนที่โชคดีกำลังจะมีข่าวดี เพราะฉะนั้นบรรยากาศของการเข้าไปให้หมอตรวจ ฝากครรภ์ หรือรอคลอดต้องจัดให้อยู่ในชั้นเดียวกัน พอคลอดแล้วก็ให้อยู่ใกล้ ๆ ลูกเดินไปหาลูกเมื่อไรก็ได้”
ขณะที่แนวคิดที่สองนั้นคือโรงพยาบาลที่มีศูนย์การแพทย์ขั้นสูงครบวงจร ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ในการรักษาพยาบาลในอนาคต
“ทุกศูนย์ฯต้องจบในตัว คนไข้เป็นโรคหัวใจต้องไป MRI ที่หนึ่ง วัดคลื่นหัวใจอีกที่หนึ่ง ฉีดสีอีกที่หนึ่งผมไม่เอาแบบนั้น ไม่ได้เลย ต้องมีศูนย์หัวใจที่มีเครื่องมือพร้อม comprehensive ครบถ้วนทุกอย่าง”
และแนวคิดที่สามคือ การเป็นโรงพยาบาลที่มีองค์ความรู้ทั้งการแพทย์แผนตะวันตกและการเเพทย์แผนตะวันออก
“โดยเฉพาะ Oriental Medicine มีทั้งแพทย์แผนไทย แผนจีน และแผนอินเดีย ซึ่งเน้นเรื่องการปรับสมดุลของร่างกายบนหลักการที่ว่าถ้าร่างกายสมดุลก็จะจัดการกับโรคภัยไข้เจ็บได้เอง มันมีหลายโรคที่ตะวันตกทำไม่ได้ เอะอะก็จะผ่าตัดท่าเดียว พวกเจ็บเอ็น เจ็บหลัง เจ็บข้อ ไหล่ติด นิ้วล็อค มันสามารถใช้การนวดแบบไทยผสมผสานกับกายภาพบำบัด หรือทรีตเม้นต์แบบอินเดีย หรือจะฝังเข็มแบบจีน”
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เรียกว่า “World Class, State of the Arts” ซึ่งจะเป็นที่ ๆ ผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลมีความสะดวกที่สุดทางวิชาการ ขณะเดียวกันผู้ที่จะมารับบริการก็ต้องสะดวกที่สุดเช่นกันนั่นคือโรงพยาบาลในฝันที่เราเริ่มต้นคิดด้วยการบูรณาการทุกด้านไปพร้อมกัน เริ่มด้วยแนวของ JCI เป็นมาตรฐาน ได้บูรณาการการออกแบบโดยนำระบบทุกระบบมาคิดร่วมกัน ซึ่งการออกแบบได้ผ่านขั้นตอนการดำเนินงานผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและได้รับความร่วมมือจากคณะแพทย์มากมายเป็นอย่างยิ่ง จึงมีความภูมิใจว่าโรงพยาบาลในระดับอินเตอร์เนชันแนลนี้ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในประเทศไทยแต่ทำเพื่อประเทศไทยเป็นส่วนรวม ซึ่งเป็นที่มาของการทำโรงพยาบาลระดับนานาชาติครั้งนี้”
ดังนั้นจุดมุ่งหมายหลักของ “RIH” คือ เป็นศูนย์รวมของการให้บริการที่คำนึงถึงความสุขในการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจของผู้รับบริการ และนี่คือความโดดเด่น แตกต่างและก้าวที่มุ่งมั่นไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของประเทศ และในระดับโลก




















