นักข่าวบีบีซี“โจนาธาน เฮด”ถูกฟ้องหมิ่นประมาททนายความที่ภูเก็ต-ศาลสั่งยึดพาสปอร์ต
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท-ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์หลังรายงานข่าวเชิงสืบสวนที่ชาวอังกฤษตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงทรัพย์สินเพราะเมียปลอมลายเซ็นนำออกขาย แต่ไปพาดพิงทนายความหาว่าปลอมลายเซ็น ถูกยึดพาสปอร์ต ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องเดือนสิงหาคมนี้
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักข่าว เอเอฟพีรายงานว่านายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซี ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯถูกยืนฟ้องและอาจถูกจำคุก 7 ปี โดยแยกออกเป็นคดีหมิ่นประมาท 2 ปีและคดีความผิดฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์สูงสุด 5 ปี
เอเอฟพีรายงานว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 นายโจนาธาน เฮด เสนอรายงานเชิงสืบสวนกรณีที่ชาวอังกฤษที่เกษียณอายุแล้วและมาปักหลักที่จังหวัดภูเก็ตต่อมาถูกฉ้อโกงทรัพย์สินที่เขาซื้อไว้ในภูเก็ต
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายโจนาธาน เฮด ขึ้นศาลภูเก็ตพร้อมด้วยจำเลยอีกคนชื่อนายเอียน แรนซ์ ชาวอังกฤษที่ตกเป็นจำเลยร่วม ทั้งคู่ให้การปฏิเสธว่าไม่มีความผิดตามคำฟ้อง
ถูกฟ้องเพราะรายงานข่าวเชิงสืบสวน
ทั้งนี้นายประทวน ธนารักษ์ ทนายความภูเก็ตได้ยื่นฟ้องทั้งคู่ในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะในข่าวเชิงสืบสวนนั้นรายงานว่านายเอียน แรนซ์ สูญเสียทรัพย์สินของตนไปอย่างไร โดยนายประมวลได้ปรากฏตัวในช่วงหนึ่งของข่าวบีบีซีความยาว 10 นาที ที่นายโจนาธาน เฮด เป็นผู้บรรยายและออกอากาศเมื่อเดือนกันยายน 2015
ตามรายงานระบุว่านายแรนซ์เกษียณเมื่อปี 2001 แล้วอพยพมาอยู่ที่ภูเก็ตแต่งงานกับภรรยาชาวไทยมีลูกด้วยกัน 3 คน เขาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นเงินประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์ ตามกฎหมายไทยแล้วชาวต่างชาติไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของที่ดินหรือสังหาริมทรัพย์บางอย่างได้ แต่สามารถนำทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปไว้ในนามบริษัทของตัวเองหรือไปมอบไว้กับคนในท้องที่ที่เขาไว้ใจได้เช่นกัน (นอมินี)
เมื่อปี 2010 นายแรนซ์พบว่าภรรยาของเขาได้ปลอมลายเซ็นพร้อมกับถอนชื่อเขาออกจากทรัพย์สิน จากนั้นได้นำออกจำหน่ายผ่านเครือข่ายของกลุ่มปล่อยเงินกู้และเอเยนต์จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ต่อมาภรรยาของเขาถูกศาลสั่งจำคุก 4 ปี ตัวเขาเองก็ต่อสู้ในศาลหลายปีเพื่อให้ได้ทรัพย์สินกลับคืนมา
รายงานว่าเปิดเผยว่าในข่าวเชิงสืบสวนของนายโจนาธาน เฮด ที่ออกอากาศเมื่อกันยายน 2015 ระบุว่านายประทวน ทนายความได้รับรองลายเซ็นของนายแรนซ์โดยที่ตัวนายแรนซ์ไม่ได้ร่วมอยู่ด้วย
จากรายงานนี้ทำให้นายประทวนยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทและใส่ความ ทำให้เขาในฐานะทนาย “ถูกใส่ร้าย,ถูกดูหมิ่นและได้รับความเกลียดชัง” โดยเอเอฟพีระบุว่าผู้สื่อข่าวของตนได้เห็นคำฟ้องนี้ด้วยตัวเอง
คดีนี้นายโจนาธาน เฮด ถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม,มาตรา 328 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและมาตรา 332 หากถูกตัดสินว่าผิดจริง ศาลอาจมีคำสั่งให้จำเลยทำลายข้อความหรือโฆษณาคำพิพากษา ส่วนนายเอียน แรนซ์ ถูกฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326
หากถูกตัดสินว่ามีความผิด ทั้งคู่อาจถูกลงโทษสูงสุดในฐานหมิ่นประมาท จำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 200,000 บาท
นายเฮดยังถูกฟ้องด้วยข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย อาจได้รับโทษจำคุกตามพ.ร.บ.นี้ไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
รายงานข่าวเปิดเผยว่าศาลสั่งให้ยึดพาสปอร์ตทั้งคู่ไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทำให้นายเฮดไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศไทยไปทำข่าวนอกประเทศได้ คาดว่าการต่อสู้คดีจะมีขึ้นต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่าการไต่สวนคดีนัดแรกกำหนดไว้ 3 วันในเดือนสิงหาคม 2017 นี้
สำนักข่าว BBC ยืนยันว่าพร้อมที่จะยืนเคียงคู่กับผู้สื่อข่าวของตนและตั้งใจที่จะเคลียร์ชื่อของผู้สื่อข่าวรายนี้ด้วย
ทางด้านนายแรนซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า การนำเงินสะสมหลังจากเกษียณมาลงทุนในประเทศไทยของตนถือเป็น“ฝันร้าย...ผมสูญเสียทุกอย่าง” ขณะที่นายประมวลไม่ได้ตอบกลับมายังผู้สื่อข่าวที่ขอให้แสดงความคิดเห็นต่อคดี
นายแบรด เอดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของกลุ่มฮิวแมน ไร้ท วอทช์ให้ความเห็นว่าคดีนายเฮดและนายแรนซ์แสดงให้เห็นว่า “ทำไมกฎหมายหมิ่นประมาทนำมาเป็นคดีอาญาถือเป็นความคิดที่ไม่ดีเลย” อีกทั้งยังทำให้เห็นว่าผู้มีอิทธิพลได้ใช้เป็นเกมกีฬาเลือดโดยประชาชนถูกลากเข้ามาในระบบศาลไทย”
Jonathan Head has long been under political attack for alleged sympathies with the red shirts, but now has become embroiled in a defamation lawsuit. (Photo courtesy BBC)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับนายโจนาธาน เฮด เป็นผู้สื่อข่าวบีบีซีที่ถูกระบุว่ายืนอยู่เคียงข้างกลุ่มคนเสื้อแดง เคยเป็นประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (Foreign Correspondents' Club of Thailand) ตั้งอยู่อาคารมณียา เพลินจิต
คำแถลงของสมาคมผู้สื่อข่าวฯ
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยได้ออกคำแถลงกรณีนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเอเชียอาคเนย์ถูกยื่นฟ้องในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท โดยระบุว่าสมาคมฯมีข้อจำกัดในการรายงานแม้ว่าสมาชิกจะเป็นมืออาชีพเพราะกฎหมายไทยมีเรื่องเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทศาลเป็นเงื่อนไข ขณะนี้คดีที่นายโจนาธาน เฮด ที่ถูกฟ้องมิ่นประมาทกำลังได้รับการพิจารณาคดีในศาลไทย ที่มาจากเงินของผู้เสียภาษี
คดีนี้เป็นคดีสำคัญจะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง จะเป็นสิ่งทดสอบได้ว่าผู้สื่อข่าวจะรายงานข่าวของเขา/เธอ ที่เชื่อว่าจะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะต้องไม่เกรงกลัวว่ากฎหมายจะกลับมาเล่นงาน
การรับรองลายเซ็นที่ใช้ในประเทศไทยก็มีนัยสำคัญอย่างกว้างขวางเพราะเป็นการใช้กับเอกสารสำคัญอาทิเช่นโฉนดที่ดิน,หุ้น,พินัยกรรม,กรรมการบริษัทและอื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศ(ไทย)ไม่เพียงแต่ต่างชาติที่มาอาศัยอยู่และนักลงทุนเท่านั้น
“เราหวังว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ข้อสรุปที่รวดเร็ว,โปร่งใสและเพื่อประโยชน์ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง”คำแถลงสรุปพร้อมกับทำข้อสังเกตว่านายโจนาธาน เฮด เคยเป็นประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทยซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำแถลงนี้