นี่คือความแตกต่าง…พุทธะอิสระธุดงค์เมืองกาญจน์ เหน็บธรรมกายธุดงค์เรี่ยไรเงิน ชี้ไม่ใส่รองเท้าความเชื่อผิดๆ
พระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เล่าว่า ได้ไปเดินธุดงค์ หลังจากได้พักรักษาตัวได้คืนหนึ่งที่ จ.กาญจนบุรี โดยได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบ พร้อมวิจารณ์การเดินธุดงค์ของวัดพระธรรมกายที่เดินในเมือง โดยระบุว่า เมื่อพูดถึงการธุดงค์ก็นึกถึงธรรมกายขึ้นมาทันที โดยวิจารณ์ว่าเป็นการเดินธุดงค์อีเวนต์ตามข้างถนน อ้างว่า ผู้ที่มายืนโปรยกลีบกุหลาบคือผู้ที่ถูกเกณฑ์มา ถือเป็นการธุดงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ และเรี่ยไรหาเงิน โดยนับตั้งแต่ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนัก ธรรมกายก็ไม่จัดกิจกรรมธุดงค์อีกเลย
พุทธะอิสระระบุอีกว่า “การถือธุดงค์ก็เพื่อหวังความเจริญในกรรมฐาน หวังความบริสุทธิ์สะอาดของจิตวิญญาณ หาได้ธุดงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และเพื่อการพอกพูนกิเลสแต่อย่างใดไม่”
และว่า “มีข้อที่พุทธบริษัทต้องทำความเข้าใจให้แจ่มชัดว่า ธุดงค์ทั้ง 13 ข้อ ไม่มีข้อใดที่ห้ามใส่รองเท้าเลย แต่ก็ไม่รู้กลายมาเป็นความเชื่อผิดๆ ของชาวบ้านได้อย่างไรว่า……
“พระธุดงค์จะไม่ใส่รองเท้า” ไม่รู้ชาวบ้านไปเอาความเชื่อนี้มาจากไหน หรืออาจจะเป็นเพราะมีนักบวชบางพวกอยากจะอวดความเคร่งครัดของตน เพื่อเรียกศรัทธาว่า ตนเป็นพระธุดงค์จึงแสดงอาการไม่ยอมใส่รองเท้า หรือไม่ก็ชาวบ้านไปคิดเอาเอง เข้าใจเอาเองว่า พระธุดงค์ต้องไม่ใส่รองเท้า ก็พยายามเปิดวินัยปิฎกค้นหาดูว่า องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามภิกษุใส่รองเท้าในเวลาไหนบ้าง จึงพบปรากฏในธรรมเทศนาปฏิสังยุต หมวดเสขิยวัตร สิกขาบทที่ 5-6 ความว่า ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนที่ไม่เป็นไข้ แล้วสวมรองเท้าอยู่ หรือถอดรองเท้าแต่ยังเหยียบอยู่บนรองเท้า
หากภิกษุใดแสดงธรรมแก่คนที่ไม่เป็นไข้ แล้วยังสวมรองเท้าอยู่ ภิกษุผู้แสดงธรรมนั้นต้องอาบัติ ทุกกฎ เหตุที่ต้องมีข้อห้ามเช่นนี้ เพราะต้องการให้ผู้ฟังธรรมเคารพในธรรม และภิกษุก็ไม่ควรจะส่งเสริม ให้ผู้ฟังไม่เคารพในธรรม ในศีล 227 ข้อ ได้กล่าวถึงเรื่องรองเท้าเอาไว้เพียงเท่านี้ หาได้มีกล่าวถึงรองเท้าในเรื่องหรือข้ออื่นๆ เลยไม่ หรือฉันอาจจะยังค้นหาไม่พบ ศึกษาไม่ถึงก็เป็นได้ แต่ถ้าพูดในหลักของธุดงค์ 13 ไม่มีคำว่าห้ามไม่ใส่รองเท้าปรากฏอยู่เลย” พุทธะอิสระระบุ