กรมอุตุฯเตือนอากาศแปรปรวน 23-26 ก.พ.อาจมีฝน-ลมกรรโชก-อุณภูมิลดเย็นลงให้ระวังสุขภาพ-พืชผลเกษตรเสียหาย

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 3 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 เรื่องอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย

โดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.60)

ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีผลกระทบตามภาคต่าง ๆ ดังนี้

ในช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2560 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2560 บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังความเสียหายผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2560

ประกาศ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น.

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 - 28 กุมภาพันธ์ 2560

การคาดหมาย            

ในช่วงวันที่ 23-26 ก.พ. 60 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. 60 บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ข้อควรระวัง  

ในช่วงวันที่ 23-27 ก.พ. 60 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย และเกษตรกรควรป้องกันผลผลิตจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. 60

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา   

ในช่วงวันที่ 23-28 ก.พ. 60 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรกกับมีลมแรงต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง

ภาคเหนือ 

ในช่วงวันที่ 22-25 ก.พ. 60 อากาศเย็นถึงหนาวต่อเนื่องกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 26–28 ก.พ.60 มีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ            

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. 60 อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ส่วนในช่วงวันที่ 26–28 ก.พ.60 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

ภาคกลาง  

ในวันที่ 23-26 ก.พ. 60 อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. 60 อากาศเย็น

อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

ภาคตะวันออก           

มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ เกือบตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. 60 อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 22-24 ก.พ. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  

ในช่วงวันที่ 22-24 ก.พ. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ. 60 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ. 60 มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ก.พ. 60 อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.