วันแห่งความรัก ผู้คนมักจะนึกถึงวันเริ่มต้นชีวิตของคนมีคู่ แต่สำหรับคู่รักบางคู่ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้วันนี้เป็นวันจบทุกสิ่งทุกอย่าง และถึงบางคนจะไม่อยากจบ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะคิดเหมือนกันเสมอไป
มิติที่ 6 สัปดาห์นี้ เราจะพาท่านผู้ชมไปพบกับอีกด้านของวันวาเลนไทน์ กับชีวิตบั้นปลายของ 14 คู่รัก ที่บางคู่ก็ต้องการ บางคู่ก็ไม่ต้องการ ด้วยเหตุผลที่คนนอกอย่างเราไม่มีทางเข้าใจ !!!
คดีที่ 1 คู่รักสูงวัยตััดสินใจจบทุกสิ่งไว้ในวันแห่งความรัก
ในวันแห่งความรักของปี ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา หน่วยตำรวจนายอำเภอเมดิสันของรัฐอลาบามา ได้พบศพสองสามีภรรยาสูงอายุนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน หลังจากตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเกิดเหตุฆาตกรรมและฆ่าตัวตายตาม โดยหลักฐานในที่เกิดเหตุชี้ว่า สามีวัย 77 ปี เป็นผู้ลงมือใช้ปืนยิงภรรยาวัย 76 ปี จนแน่ใจว่าเธอเสียชีวิตแล้วจึงฆ่าตัวตายตาม จากรายงานของเว็บไซต์ AL.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของรัฐอลาบามานั้น ได้เผยแพร่บันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ว่า ในเหตุการณ์นี้ไม่พบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ใด ๆ และทั้งสามีภรรยาต่างก็มีโรคภัยรุมเร้ามาอย่างยาวนาน
ถ้าคดีนี้มันยังดูเป็นเรื่องทั่วไปที่สามารถพบได้ทุกวันในบ้านเราแล้วล่ะก็ ลองมาดูคดีที่สองกันบ้างว่ามันจะมีแง่มุมไหนที่ทำให้เราได้เห็นคุณค่าของความรักเพิ่มมากขึ้น
ออสก้า พิสโทเรียสเขาขาพิการทั้งสองข้างและเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกประเภทวิ่งแข่ง โดยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ออสก้าได้ลั่นไกสังหารแฟนสาวผู้มีอาชีพเป็นนางแบบชื่อรีวา สทีนแคมพ์ ภายในบ้านที่เปรโตเรียประเทศอัฟริกาใต้ โดยในตอนแรกนั้นออสก้าถูกจับในข้อหาฆาตกรรม แต่ภายหลังจากการเบิกความในศาลออสก้าพูดซ้ำ ๆ กันว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคืออุบัติเหตุ เขาเพียงเข้าใจว่าภรรยาของเขานอกใจเท่านั้น
โดยเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าสปอนเซอร์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นค่ายมือถือ แว่นตานักกีฬา และรองเท้านักกีฬายี่ห้อดัง ต่างก็ออกมาแสดงความเสียใจและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามหาสาเหตุว่า ออสก้าเข้าใจอะไรผิดในตัวภรรยาจนถึงขนาดต้องตัดสินใจทำแบบนี้ พวกเขาก็พบว่าก่อนที่นักกีฬาพาราลิมปิกประเภทวิ่งแข่ง 200 และ 400 เมตร เจ้าของฉายาใบมีดลมกรดจะตัดสินใจสังหารภรรยาตัวเองนั้น มันก็เพียงเพราะเขาไปพบข้อความที่รีวาโพสต์เอาไว้ในเฟซบุ๊กว่า “พรุ่งนี้คุณจะเอาแรงที่ไหนมาใช้ยกแขนกอดคนที่คุณรักได้”
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่ปักใจว่าสิ่งนี้คือสาเหตุที่แท้จริง และมองว่าบางทีในช่วงเวลาที่ก่อเหตุนั้น ออสก้าอาจกำลังเมาสุราจนขาดสติก็ได้
คดีที่สองที่จบไปมันก็ไม่ต่างอะไรกับบ้านเราสักเท่าไหร่ งั้นมาดูเลิฟสตอรี่ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ในคดีที่ 3 กันบ้าง อ่านต่อกระทู้หน้าครับ