หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ระวัง!! โรคเนื้อเน่า ภัยใกล้ตัวอย่าให้สัตว์เลี้ยงข่วนหรือกัด

โพสท์โดย sickpack
ระวัง!! โรคเนื้อเน่า ภัยใกล้ตัวอย่าให้สัตว์เลี้ยงข่วนหรือกัด

 

จากกรณีที่มีข่าวและเผยแพร่ในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการติดเชื้อหลังจากถูกสัตว์ที่เลี้ยงไว้ข่วนหรือกัด แล้วทำให้มีอาการรุนแรงจนเกิดโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis) หรือเรียกอีกอย่างว่าโรคแบคทีเรียกินเนื้อ (Flesh-eating disease) นั้น ทำให้หลายๆ คนต้องกลับมาย้อนคิดและระมัดระวังตนเองมากขึ้น

 

 

เพราะนอกจากโรคพิษสุนัขบ้าจากเชื้อไวรัสแล้วยังมีโรคติดเชื้อจาก แบคทีเรีย ได้อีกด้วย บทความนี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับโรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ รวมถึงการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคนี้

โรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียและก่อให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงที่ผิวหนัง โดยมีการแพร่กระจายไปยังชั้นเนื้อเยื่ออ่อนใต้ผิวหนัง เนื้อเยื่อไขมัน เนื้อเยื่อพังผืด รวมถึงกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อในบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายจนเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โรคนี้เป็นโรคที่มีรายงานอุบัติการณ์หรือการเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ถ้ามีอาการเกิดขึ้นหรือเป็นโรคนี้แล้ว ย่อมส่งผลเสียและเป็นอันตรายอย่างมากต่อตัวผู้ป่วย

สาเหตุของการเกิดโรค

โรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียเพียงชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกัน แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A streptococci) เชื้อเคล็บเซลลา (Klebsiella) เชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium) เชื้ออีโคไล (E. coli) เชื้อสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) และ แอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas hydrophila) โดยพบว่าเชื้อที่เป็นสาเหตุที่สำคัญคือ เชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A streptococci) แต่เชื้อที่มีความรุนแรงคือ แอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas hydrophila)

อาการของโรค

ในระยะแรกของการติดเชื้อ จะเกิดอาการ เจ็บ ปวด บวม แดง ร้อนที่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว โดยอาการที่ปวดมากมักไม่สัมพันธ์กับบาดแผลที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ผิวหนังบริเวณบาดแผลมีสีคล้ำ ม่วง ดำ หรือมีถุงน้ำเกิดขึ้น และเกิดการตายของเนื้อเยื่อในบริเวณนั้น ตำแหน่งที่เกิดโรคส่วนใหญ่คือบริเวณขาและเท้า ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตามมาคือ การช็อคจากการติดเชื้อในกระแสเลือด เบาหวาน และภาวะไตวาย

บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรค

ผู้ที่มีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ เช่นมีดบาด ตะปูตำ สัตว์กัดหรือข่วน แล้วไม่มีการทำความสะอาดบาดแผล หรือทำความสะอาดบาดแผลอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มดังกล่าว จนเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง

ผู้ที่มีภาวะภูมิต้านทานโรคไม่ดี เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน ภาวะไตวาย หลอดเลือดผิดปกติ มะเร็ง ผู้สูงอายุที่ได้เคมีบำบัด ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ เป็นต้น

การวินิจฉัยและรักษาโรค

ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยรักษาอย่างเร่งด่วน โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงการผ่าตัดนำส่วนเนื้อเยื่อที่มีการตายออก และการให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อยับยั้งการติดเชื้อที่อาจลุกลามเพิ่มขึ้น และป้องกันการดื้อยาของเชื้อที่เป็นสาเหตุ

การดูแลป้องกันโรค

ระวังอย่าให้มีบาดแผลเกิดขึ้น ถ้ามีบาดแผลเกิดขึ้นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่จากสาเหตุใดๆ ก็ตาม เช่นถูกของมีคมข่วน ตำ แทง บาด หรือถูกสัตว์เลี้ยงข่วนหรือกัด อย่าชะล่าใจโดยเด็ดขาด ควรทำความสะอาดทันทีโดยใช้น้ำสะอาด สบู่ หรือแอลกอฮอล์ 70% ทำความสะอาดบริเวณรอบบาดแผล และใส่ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม เช่น โพวิโดนไอโอดีน ที่บาดแผล ห้ามใช้ยาผงโรยใส่แผลโดยตรง และควรสังเกตว่าบาดแผลนั้นลึกหรือไม่ ถ้าลักษณะของบาดแผลรวมถึงสิ่งที่ทำให้เกิดบาดแผลนั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งของเชื้อโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันการติดเชื้อ

นอกจากนี้การรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ฝึกให้มีสุขลักษณะที่ดี เช่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ รักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงถ้ามีอาการผิดปกติภายหลังการเกิดบาดแผล เช่น มีไข้ ปวด บวมบริเวณบาดแผลเพิ่มมากขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที และควรดูแลบุคคลที่มีบาดแผลโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะภูมิต้านทานโรคไม่ดี ก็จะเป็นการป้องกันทั้งตนเองและผู้อื่นจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเนื้อเน่าหรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อได้

ที่มา : อาจารย์ ดร.ทนพ. เมธี ศรีประพันธ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ขอบคุณที่มา: http://www.naarn.com/13484/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sickpack's profile


โพสท์โดย: sickpack
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: Thorsten, PicGy, ShadowMan, zerotype, มาดามย็อนคาทีเนส, Lovethailand
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลีน่าจังโวย!! ร้านก๋วยเตี๋ยวคิดค่าพริกเพิ่ม 20 บาท ลั่นจะฟ้องฐานเอาเปรียบผู้บริโภค ชาวเน็ตถามร้านนี้อยู่ตรงไหน? จะตามไปกิน"ปอบตาพวง" ปอบตนแรกที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ พ.ศ.2435 (ร.ศ.111)ชาวบ้านไม่เชื่อ ‘ว.วชิรเมธี’ เอี่ยว ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ชี้เป็นพระอัชฌาสัยดีบอสพอล พูดประโยคซึ้ง หลังพนักงาน ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ฟังจบ ก้มกราบยกใหญ่"บอสพอล" ออกโหนกระแส..แต่งานเข้า! เหล่าบอสดารา หลังออกมาเผยรายได้มะกันเตือนอิหร่านไม่ให้สังหๅร "ทรัมป์" หากทำเท่ากับประกาศทำสงครามคนไทยในเกาหลีใต้ รับจ้างแจ้งจับ'ผีน้อย'!เจอคนร้ายลักปลาทู ผู้ต้องหาโดนจับโดยละม่อม หลักฐานชัดเจนแบบนี้ ติดคุกยาวเเน่ 🤣'ทรัมป์' รอดจากการถูกลอบสังหๅรครั้งที่ 3!บอสพอล ก้มกราบคืนเงิน 1.7 แสน ให้ ‘ป้าพิการ’ เหยื่อถูกขายฝันดิไอคอนกรุ๊ปเพจดังขยี้ต่อถาม “กันต์”จบดร.จากไหน หลังเผยแพร่คลิปแทนตัวเองว่า “ดร.”...โอ้ยตาลาย!! เจอไฟเลี้ยวรถบรรทุกแบบนี้ อันตรายต่อผู้ขับขี่คนอื่นมาก ๆ 😒
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แคปชั่นธี่หยด 2 กวนๆ ฮาๆ เสียงเพรียกแห่งความฮา สำหรับเอาไว้โพสต์ลงรูปตอนไปดู ธี่หยด2ชาวบ้านไม่เชื่อ ‘ว.วชิรเมธี’ เอี่ยว ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ชี้เป็นพระอัชฌาสัยดี"ดิไอคอน" ไม่รอด! รมว.ยุติธรรม สั่ง ดีเอสไอ ล่าทรัพย์ คืนเหยื่อ เร่งสอบ ฟอกเงิน 💸ลุยเอาผิดเพิ่ม ‘บอสหมอเอก’ ข้อหาเปิดสถานพยาบาล หลังแอบอ้างเป็นหมอ..One Piece นามิคือผู้หญิงที่คู่ควรกับซันจิมากที่สุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ญี่ปุ่นเริ่มเปิดฉากการหาเสียงวันนี้ ก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปปลายเดือนสาวโดนหนุ่มปากแซบด่า เลยทุบหนุ่มกลางร้านหม้อไฟ"ดิไอคอน" ไม่รอด! รมว.ยุติธรรม สั่ง ดีเอสไอ ล่าทรัพย์ คืนเหยื่อ เร่งสอบ ฟอกเงิน 💸ลุยเอาผิดเพิ่ม ‘บอสหมอเอก’ ข้อหาเปิดสถานพยาบาล หลังแอบอ้างเป็นหมอ..
ตั้งกระทู้ใหม่