'ทรัมป์' สั่งปลด รักษาการ รมต.ยุติธรรมสหรัฐฯ หลังปฏิเสธคำสั่งห้ามคนเข้าเมือง 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งปลด นางแซลลี เยตส์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่งในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากรักษาการ รมต.ยุติธรรม สั่งให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะปกป้องการออกคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ซึ่งเป็นคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
แถลงการของทำเนียบขาวระบุว่า นางแซลลี เยตส์ ที่รักษาการในตำแหน่งนี้มาจากรัฐบาลชุดเก่าของ นายบารัค โอบามา นั้น 'ทรยศต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯด้วยการปฏิเสธที่จะบังคับใช้กฎหมายที่เป็นคำสั่งเพื่อปกป้องพลเมืองชาวอเมริกัน'
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ คนนี้ 'มีจุดอ่อนในเรื่องการปกป้องชายแดนและกฎหมายด้านการตรวจคนเข้าเมือง'
หลายหน่วยงานยื่นฟ้องคำสั่ง 'ทรัมป์' ผิดรัฐธรรมนูญ
หลายหน่วยงานยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารในการห้ามคนเข้าเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน และระงับการรับผู้ลี้ภัยเป็นเวลา 120 วัน ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (30 ม.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ
สมาชิกองค์กร สภาว่าด้วยความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม หรือ Council on American-Islamic Relations (CAIR) ยื่นฟ้องที่ศาลรัฐบาลกลางในรัฐเวอร์จิเนีย ขณะที่อีกส่วนหนึ่งคืออธิบดีกรมอัยการของรัฐวอชิงตัน รัฐทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องในกรณีเดียวกันเพื่อให้ศาลพิจารณาว่าการประกาศห้ามคนเข้าเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา
Lena Masri ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของ สภาว่าด้วยความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลามบอกว่า การยื่นฟ้องเป็นการยื่นฟ้องภายใต้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ในนามพลเมืองชาวอเมริกันและที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน และระบุว่าคำสั่งของ ทรัมป์ นั้นเป็นการกีดกันชาวมุสลิมซึ่งมีความชอบธรรมทางกฎหมายที่จะอยู่อาศัยในสหรัฐฯไม่ให้เข้าในสหรัฐฯ