ไม่จ่ายค่าขยะ... ไม่ได้มีโทษปรับ 50,000 บาท หรือ จำคุก 6 เดือน นะครับ !!
เพจ Law Inspiration ตอกกลับ "เพจทนายดัง" กรณีหากไม่จ่ายค่าขยะมีสิทธิ์ ปรับ-ติดคุก ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่!! อย่าหลงเชื่อหรือแชร์ โดยโพสท์โต้แย้งในข้อกฏหมายว่า ไม่จ่ายค่าขยะ... ไม่ได้มีโทษปรับ 50,000 บาท หรือ จำคุก 6 เดือน นะครับ !!
พอดีผมได้รับเชิญไปออกรายการ #นารีกระจ่าง เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับกฎหมาย พ.ร.บ.การรักษาความสะอาดฉบับใหม่ ที่พึ่งบังคับใช้ไปสัปดาห์ที่แล้ว เลยต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายตัวนีไปเล่าให้ผู้ชมได้ฟังกัน
พอหาข่าวไปหาข่าวมาก็ดันเจอข่าวจาก คมชัดลึก ว่า...
"#ทนาย.... ชี้ชาวบ้านอ่วม กม.ใหม่เบี้ยวค่าขยะมีสิทธิ์ติดคุก"
ผมถึงกับคิดในใจว่า....
"เอาอีกแล้วหรือว่ะ"
บางครั้งก็คิดว่า สื่อบ้านเราก็ทำงานมักง่ายเกินไป แค่หาข่าวจากเพจที่มีคนตามมาก ๆ แล้วก็คัดลอกเอามาลงโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลอะไรเลย
..
.
มาลองกันดูว่าข่าวนี้ผิดตรงไหน..
*เปิดกฎหมายประกอบไปด้วยก็ได้นะครับ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/005/1.PDF
เริ่มต้น เอาแค่ง่าย ๆ ตามภาพที่บอกว่า เริ่มต้น 150 บาท อันนี้ก็ผิดแล้วครับ
เพราะ อัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดท้าย พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 นั้นเป็นอัตราสูงสุดที่จัดเก็บได้
ซึ่งในมาตรา 5 วรรคแรก ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เขียนไว้ชัดว่า...
ให้ รมต.มหาดไทยและรมต.สาธารณสุข มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้าย พ.ร.บ. นี้
และในมาตรา 34/3 (3) ก็กำหนดว่า
ราชการส่วนท้องถิ่น เช่น กทม. อบต. ที่มีหน้าที่จัดการขยะ สามารถกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการให้บริการ เก็บ ขน และกำจัดขยะมูลฝอยได้ "ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง"
แปลว่า ที่บอกว่าค่าขยะเริ่มต้นที่ 150 บาท นั้น เป็นอัตราที่กฎหมายแม่กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องมีกฎหมายลูกออกมาเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึง
ดังนั้น ถ้ากฎกระทรวง และประกาศของท้องถิ่นยังไม่ออกมาชัดเจน ก็ไม่ควรเอาพาดหัวข่าวให้คนตกใจแบบนี้ครับ
..
.
ต่อมา ที่บอกว่า "ไม่จ่ายค่าขยะจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท... จ้า"
ในฐานะนักกฎหมายอ่านแล้วก็ดูแปลก ๆ เพราะ ความผิด กับ โทษ มันดูไม่สัมพันธ์กันเลย ค่าขยะหลักร้อย โทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน หรือ ปรับถึง 50,000 บาท มันดูไม่สมเหตุสมผล
และผมจำได้ว่า การเรียกเก็บค่าธรรมต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ ถ้าไม่จ่ายก็ไม่มีโทษทางอาญา แต่ทางหน่วยงานรัฐจะต้องเรียกร้องทางแพ่งเอากับคนที่ไม่จ่าย
เช่น หากเราไม่จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ เราก็ไม่ได้โดนโทษปรับหรือจำคุก เพียงแต่จะโดนตัดน้ำ ตัดไฟ และทวงเงินให้เราจ่ายของเก่าที่ค้าง ก่อนที่จะต่อให้ใช้ใหม่อีกรอบเท่านั้น
แต่เพื่อความชัวร์ เลยเปิด พ.ร.บ. ที่แก้ไขใหม่นี้ดู โดยเฉพาะที่เพิ่มเติมเรื่องโทษ ซึ่งเขียนไว้อยู่ในมาตรา 58/1 และ 58/2
มาตรา 58/1 เป็นการกำหนดโทษสำหรับคนที่จะมาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการกำจัดขยะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วน มาตรา 58/2 บอกว่าใครผิดมาตรา 34/1, วรรคหนึ่งและวรรคสอง 34/2, 34/3 (1), 34/3 (2) และ 34/3 (5) ถึงจะถูกปรับและติดคุกตามที่ว่า
ซึ่งมาตราต่าง ๆ กำหนดเกี่ยวกับอะไรบ้างมาดูกัน
34/1 และ 34/2 ไม่เกี่ยวกับประชาชนเลย
34/3 (1) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำจัดขยะในสถานที่เอกชนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปได้ เช่น ตึกสำนักงานต่าง ๆ เป็นต้น
34/3 (2) กำหนดวิธีการคัดแยก เก็บ ขน และกำจัดขยะ เช่น กำหนดว่าต่อไปเราต้องแยกขยะเปียก ขยะรีไซเคิล เราก็ต้องทำตาม เป็นต้น
34/3 (5) กำหนดหลักเกณฑ์ที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการขยะ เพื่อให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับการเก็บเงินค่าขยะแต่อย่างใด
..
.
ดังนั้น อ่านมาถึงตรงนี้ ผมก็ไม่รู้ว่า ที่บอกว่าไม่จ่ายค่าขยะ จำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และบอกว่าค่าขยะเริ่มต้น 150 บาท เอามาจากไหน
ฝากเพื่อน ๆ ช่วยกันหาด้วยนะครับว่า โทษปรับโทษจำคุกสำหรับคนไม่จ่ายค่าขยะ อยู่ตรงไหนของกฎหมายนี้ เพื่อว่าบางทีผมอาจจะอ่านข้ามไปก็ได้ครับ
แต่ผมฝากว่า ถึงจะไม่มีโทษปรับโทษจำคุก แต่เราก็มีหน้าที่ต้องจ่ายในฐานะที่เป็นพลเมืองดีนะครับ
..
.
จริง ๆ แล้วกฎหมายฉบับนี้ โดยส่วนตัวผมเห็นว่าดีมากนะครับ ที่ประเทศไทยจะมีการจัดการขยะแบบจริงจังเหมือนในหลาย ๆ ประเทศที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะการคัดแยกประเภทของขยะที่ควรจะทำมานานแล้ว
ซึ่งในส่วนของค่าธรรมเนียมหากจะต้องมีการปรับขึ้นบ้าง ผมก็ว่าสมเหตุสมผล ซึ่งในกฎหมายเดิมกำหนดมาตั้งแต่ปี 2535 ผ่านมาตอนนี้ก็ 25 ปีแล้ว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็สูงขึ้น
และอัตราสูงสุดนั้น ผมก็ไม่เชื่อว่าหน่วยปกครองส่วนท้องถิ่นจะเริ่มเก็ยอัตราสูงสุดทันที แต่จะทยอยปรับเพิ่มไปเรื่อย ๆ ตามสภาพเศรษฐกิจ และค่าใช้ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง
แต่จริง ๆ แล้วถ้าท้องถิ่นไหนเก่ง ๆ อาจจะไม่ต้องเก็บหรือเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่ถูกจากชาวบ้านก็ได้นะครับ เพราะขยะในปัจจุบันมีมูลค่าสูง หากมีการคัดแยกให้ถูกประเภท
เช่น ท้องถิ่นอาจจะกำหนดให้ ชาวบ้านมีหน้าที่คัดแยกขยะให้ถูกต้อง แล้วหลังจากนั้นหาบริษัทที่ต้องการขยะไปรีไซเคิลหรือไปผลิตไฟฟ้ามาประมูล เพื่อทำหน้าที่เก็บ ขน และกำจัดขยะให้เลย (ถ้าไม่คัดแยก อันนี้สามารถกำหนดให้มีความผิดตามกฎหมายได้ครับ)
แบบนี้ก็วิน - วิน ชาวบ้านไม่ต้องเสียเงิน หรือเสียไม่แพงมาก แค่ทุกคนมีหน้าที่ช่วยคัดแยกประเภทขยะให้ถูกต้อง ส่วนบริษัทรับกำจัดขยะ ก็สามารถหาวัตถุดิบไปรีไซเคิล หรือ ผลิตไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปคัดแยกอีกรอบ
..
.
สุดท้ายขอฝากไว้นะครับ...
นักกฎหมายที่ดี จึงควรทำความเข้าใจกฎหมายอย่างท่องแท้ ฝึกตีความกฎหมายให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ และควรทำหน้าที่เผยแพร่กฎหมายในมุมที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ตีความกฎหมายผิด ๆ และชอบให้คนเข้ามาดราม่าแบบไม่เข้าเรื่องแบบนี้ครับ มันไม่ดีเลย
แหล่งที่มา:Law Inspiration
https://www.facebook.com/lawinspiration/photos/a.939772992811052.1073741828.936354036486281/1155572921231057/?type=3&theater