น้ำป่าทะลักท่วมอ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ผิวถนนน้ำท่วมสูงประมาณ1เมตร
น้ำป่าทะลักท่วมอ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ผิวถนนน้ำท่วมสูงประมาณ1เมตร จนท.ปิดจราจรฝั่งขาขึ้น กทม. ด้านโรงพยาบาลบางสะพานเร่งอพยพ ผู้ป่วยให้ทัน 2 ชม. ก่อนมวลน้ำจากภูเขาทะลัก วอนผู้ป่วยเรื้อรังต้องรับยา รอเจ้าหน้าที่จัดส่งที่บ้าน“ผอ.”ยังสู้เตรียมตั้ง รพ.สนามดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง
วันนี้ (9ม.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นทีอำเภอบางสะพาน จว.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งล่าสุดนำป่าได้ไหลทะลักสันอ่างเก็บน้ำ3แห่งได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านคลองลอย,อ่างเก็บน้ำโป่งสามสิบ และอ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว ทำให้น้ำไหลทะลัก อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านในหลายพื้นที่บางสะพาน ไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้แล้วทั้งถนนถูกกัดเซาะขาดหมู่บ้านวังน้ำเขียว หมู้บ้านคลองลอยเข้าออกไม่ได้ และมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้บริเวณถนนเพชรเกษม หลัก กม.397.หน้า สภ.บางสะพาน ฝั่งขาขึ้นและขาล่องใต้
ขณะที่บริเวณสามแยกบางสะพาน ผิวการจราจรน้ำท่วมสูงประมาณเกือบ1เมตร ส่งผลให้การจราจร ไม่สามารถขึ้นและล่องลงภาคใต้ได้แล้ว น้ำไหลทะลักออกมาท่วมผิวการจราจร30-40 ซม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางสะพาน ต้องปิดการจราจรฝั่งขาขึ้นกรุงเทพ และต้องใช้เชือกมาเป็นแนวเพื่อกั้นไม่ให้รถตกร่องกลางถนน
ขณะเดียวกันที่พื้นที่อ.ทับสะแก ถนนเพชรเกษม น้ำป่าไหลทะลักท่วมถนนฝั่งขาขึ้นกรุงเทพมหานคร (กทม.) และมีรถตกร่องกลางถนน1คัน
ด้าน นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ว่า เป็นการท่วมสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สูงกว่าเมื่อปี 2548 ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้มีการระดมกำลัง ตั้งกระสอบทรายสูงกว่า 1.30 เมตร เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้ามาโรงพยาบาลแล้ว ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องมือแพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ขึ้นสู่ที่สูงโดยไม่ได้รับความเสียหาย และทำการส่งต่อผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลประจวบ และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีก 8 คนไปที่โรงพยาบาลทับสะแก ยังคงเหลือผู้ป่วยอีก 65 คนที่ยังรอการส่งต่อไปที่โรงพยาบาลประจวบฯ เพื่อให้นายแพทย์สาธารณสุข และ ผอ.โรงพยาบาลประจวบประเมิน และประสานการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป
“ตอนนี้เรากำลังประเมินกันอยู่ว่า จะสามารถต้านทานไหวหรือไม่ เพราะว่าตอนนี้ยังมีฝนตกอยู่ตรงภูเขา และมวลน้ำก้อนใหญ่จะไหลลงมาถึงพื้นที่ประมาณ 1 ทุ่มของวันนี้ เราจึงต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลให้หมดภายใน 2 ชั่วโมง เพราะถึงแม้เราจะมีอาคารสูง 6 ชั้นก็จริง แต่เครื่องปั๊มน้ำ และระบบไฟฟ้าอยู่ที่ชั้นล่างของตัวอาคาร แม้จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำปกติ ที่เคยรับได้ แต่ก็กลัวว่าทำนบจะแตกเลยต้องย้ายผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งได้ประสานไปยังจังหวัด และกองบิน 5 เพื่อขอรับการช่วยเหลือในการขนย้าย แต่เข้าใจว่าน้ำท่วมหนักจึงยังไม่สามารถมารับผู้ป่วยออกไปได้” นพ.เชิดชาย กล่าว
ผอ.โรงพยาบาลบางสะพาน กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลคงต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกไปก่อน พรุ่งนี้ (10 ม.ค.) จึงจะออกไปตั้งโรงพยาบาลสนามที่โรงเรียนบางสะพาน เพื่อให้บริการผู้ป่วยนอก และบริการผู้ป่วยฉุกเฉินต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับยาต่อเนื่องนั้นขอให้อยู่ในที่ตั้ง เพราะตอนนี้ทางโรงพยาบาลกำลังทำสำรวจฐานข้อมูลเพื่อดำเนินการจัดส่งยาไปให้ที่บ้าน.