บริษัทประกันภัยญี่ปุ่นโล๊ะพนักงานออกทั้ง 34 คนในแผนก นำหุ่นยนต์เข้ามาทำหน้าที่แทนลดเงินพนักงานได้ปีละ 44 ล้านบาท
หุ่นยนต์ชื่อ Pepper ที่เป็นหนึ่งในผลงานของบริษัทไอบีเอ็ม (ญี่ปุ่น) หรือ Watson กำลังสนทนากับนักวิจัยเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกทั้งใบหน้าและเสียง หุ่นยนต์จะนำไปดำเนินการธุรกิจแตกต่างกันออกไป เช่นในภาพนำไปใช้กับ Softbank เพื่อต้อนรับลูกค้า (Photo/IBM Japan)
บริษัทประกันภัยญี่ปุ่นโล๊ะพนักงานออกทั้งแผนก 34 คนใช้หุ่นยนต์เข้ามาทำหน้าที่แทนสามารถคนวณเงินที่จ่ายแก่ลูกค้าผู้เอาประกันได้อัตโนมัติ อ่านข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ถือกรมธรรม์ได้ คาดภายใน 5 ปีข้างหน้าพนักงานจะสูญตำแหน่งแก่หุ่นยนต์ 5.1 ล้านราย
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 บริษัทประกันภัย ฟุโคคุ มิวชวล ไลฟ์ อินชัวรันส์ของญี่ปุ่นเตรียมให้พนักงานทั้งแผนกรวม 34 คนออกจากงานภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า โดยจะนำหุ่นยนต์หรือ AI ( Artificial Intelligence) หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า“ปัญญาประดิษฐ์”เข้ามาทำงานแทน โดย AI จะคำนวณเงินที่จ่ายให้กับผู้เอาประกันภัยได้โดยอัตโนมัติ
บริษัทเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงานขึ้นได้ถึง 30% และลดค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นเงินเดือนของพนักงานลงได้ถึง 140 ล้านเยนต่อปีหรือราว 44,000,000 ล้านบาท โดยจะลงทุนนำปัญญาประดิษฐ์ที่มีมูลค่าราว 200 ล้านเยน มาติดตั้งไว้ในสำนักงานภายในเดือนนี้ ค่าติดตั้งและบำรุงรักษา AI อยู่ที่ 15 ล้านเยนต่อปีหรือประมาณ 4,400,000 บาท
หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าว เป็นผลงานของบริษัทไอบีเอ็ม เจแปน มีชื่อว่า "วัตสัน" (Watson) ผู้ผลิตบอกว่าเอไอนี้มีความสามารถในการคิดได้เหมือนมนุษย์ สามารถวิเคราะห์และตีความข้อมูลในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่ไม่ได้มีการจัดระเบียบไว้ก่อน ภาพ เสียง หรือวิดีโอ
ทางบริษัทระบุว่า จะใช้เอไอรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการพิจารณาจ่ายเงินแก่ผู้เอาประกันภัย โดยเอไอจะอ่านข้อมูลใบรับรองแพทย์ รวมทั้งข้อมูลทางการแพทย์อื่น ๆ ของผู้ถือกรมธรรม์ เช่นข้อมูลการผ่าตัดและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ผลวิจัยของที่ประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก (WEF) เมื่อปี 2016 คาดว่าการเติบโตของเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ จะทำให้ผู้คนในประเทศชั้นนำของโลก 15 ประเทศต้องสูญเสียตำแหน่งงานถึง 5.1 ล้านตำแหน่งในอีก 5 ปีข้างหน้า